โครงการปั้น Startup ในประเทศไทย รวมถึงในภูมิภาคอาเซียนนี้ ถ้าจะบอกว่า dtac accelerate คือโครงการที่ดีที่สุด ซึ่ง Startup ที่มีไอเดีย หรือมีบริการที่เข้าข่าย Disrupted industry และต้องการประสบความสำเร็จ ต้องให้ความสนใจอย่างยิ่ง และห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะนี่คือ ทางลัดที่จะผลักดันให้ธุรกิจ Startup เติบโตได้แบบก้าวกระโดด มีพี่เลี้ยงให้ความช่วยเหลือ เงินทุนสนับสนุน และ Connection ที่ต่อตรงถึง VC จากทั่วโลก
ในภาพรวมอาจจะพอเห็นภาพจากความสำเร็จในโครงการ accelerate 3 ปีที่ผ่านมา แต่ต่อไปนี้คือเหตุผลแบบลงรายละเอียดเชิงลึก ว่าทำไม Startup ที่อยากประสบความสำเร็จ ต้องมา dtac accelerate Batch4
1) dtac accelerate เป็นหนึ่งในระบบ Ecosystem ในยุคดิจิทัล มีบทบาทช่วยปั้น Startup ไทยให้มีศักยภาพ เฉพาะปี 2558 มีการลงทุนใน Startup ทั้งที่เปิดเผยและไม่เปิดเผย คาดว่าอยู่ที่ 50 ล้านเหรียญหรือ 1,800 ล้านบาท และเชื่อว่าในปีนี้จะเติบโตขึ้นอีกมหาศาล
2) ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา Startup ภายใต้โครงการ dtac accelerate เติบโตขึ้นเฉลี่ย 3-15 เท่ามีมูลค่ารวมกันประมาณ 1,000 ล้านบาท โดย Startup คิดเป็น 70% ที่เข้าร่วมโครงการได้รับความสนใจและได้ทุนจาก VC ขณะที่ Startup รายอื่นๆ ในตลาดมีอัตราการได้เงินทุนจาก VC ที่ 20% แปลว่า การผ่านโครงการนี้ มีโอกาสสูงกว่าที่จะได้รับเงินทุน
3) โครงการ dtac accelerate ใช้เวลาประมาณ 4 เดือน โดยจะมี 3 ใน 6 ทีม ที่ได้รับทุนจาก VC ตั้งแต่ 4 เดือนแรก พิสูจน์ว่า VC จากทั่วโลกให้ความสนใจ Startup ในโครงการนี้ และหนึ่งในนั้นคือ 500TukTuks นักลงทุนรายใหญ่ในเครือของ 500Startups มีพอร์ตการลงทุน 50% ในครอบครัว dtac accelerate
4) ตัวอย่าง Startup ต้นแบบที่ผ่านโครงการนี้และได้รับเงินทุน เช่น ClaimDi แอพพลิเคชั่นประกันภัยระดมทุนจากนักลงทุนเข้าสู่ระดับ SerieA มูลค่า 2 ล้านเหรียญ เติบโตขึ้น 15 เท่าในเวลา 12 เดือน ล่าสุดได้รับการจัดอันดับ Top10 ในกลุ่ม InsureTech ของโลก และยังมี Startup ที่น่าจับตามองอีกหลายราย เช่น GizTix ผู้ให้บริการ e-Marketplace ด้าน Logistics หรือ SKOOTAR บริการเรียก Messenger
5) dtac accelerate ปีนี้เน้น Startup ในทุกด้าน เช่น FinTech ที่กำลังมาแรงในตลาด, HealthTech ที่กำลังเป็นที่นิยมไปทั่วโลก ด้วยการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมผู้สูงอายุ, EdTech การพัฒนาด้านการศึกษาให้มีความทันสมัยและเป็นดิจิทัลยังมีความต้องการสูง, AgriTech เป็นแนวโน้มที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตกับการดูแลด้านการเกษตรกรรม รวมถึง VR Technology และ Internet of Thing
6) หนึ่งในความสุดยอดของ dtac accelerate คือ Mentor ทั้ง 6 คน ที่ไม่มีทางที่งานอื่นจะรวบรวมคนระดับนี้มาให้ความช่วยเหลือ Startup ได้ง่ายๆ ประกอบด้วย บี๋ อริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทยคนแรก, หมู ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ CEO อุ๊คบี แพล็ตฟอร์มอี-บุ๊กที่มีคนใช้หลายล้านคน, ป้อม ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ CEO ตลาดดอทคอม iCon ของ e-Commerce ประเทศไทย, แจ็ค กิตตินันท์ อนุพันธ์ CEO ClaimDi แอพพลิเคชั่นประกันภัย Top10 ของโลก, โบ๊ท ไผท ผดุงถิ่น CEO Builk.com แพล็ตฟอร์มงานก่อสร้างที่ขยายไปหลายประเทศ ปิดท้ายด้วย ทิวา ยอร์ค Head Coach จาก Kaidee.com เป็น Mentor ที่ปั้น 2 ทีมชนะจากปีที่ผ่านมา นี่คือรายชื่อ คนที่จะมาช่วย Startup ในปีนี้
7) ปีนี้เป็นครั้งแรกที่ dtac accelerate ได้ร่วมมือกับพันธมิตร ดิจิ มาเลเซีย และ เทเลนอร์ เมียนมา ส่ง Startup เข้ามาร่วมโครงการตลอด 4 เดือน นี่คือโอกาสในการแลกเปลี่ยน และสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจ ซึ่งใน 4 เดือนนี้ มีพันธมิตรเวียนมาให้ความรู้แบบจัดเต็ม เช่น Disrupt University ที่ใช้หลักสูตรเดียวกับ 500Startups และผู้เชี่ยวชาญอีกจำนวนมาก
8) และทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ จะได้เดินทางไปเปิดประสบการณ์ตรงถึง Silicon Valley ได้มีโอกาสเรียนรู้ ทำความรู้จักกับเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ นักลงทุนที่มากประสบการณ์ และจะได้เป็นพันธิตรกับ เทเลนอร์ ดิจิทัล วินเนอร์ ให้ Startup ได้ไปเสนอแผนธุรกิจกับนักลงทุนใหญ่ระดับโลก เช่น อินเทล เวนเจอร์ แคปปิตอล ที่นอร์เวย์
9) สำหรับ Startup ที่สนใจ dtac accelerate Batch4 นี่คือ Time Line ที่ไม่ควรพลาด
- เปิดรับสมัครแล้วถึง 17 เม.ย. นี้
- 3 เม.ย. จัดกิจกรรมพิเศษ Pitch Clinic การให้คำแนะนำการเตรียม Proposal
- 22 เม.ย. ประกาศรายชื่อ 20 ทีมที่ผ่านรอบแรก
- 27 เม.ย. งาน Pitch Day คัดเลือก Startup ที่จะได้เข้าร่วม Intensive Bootcamp
- 4 พ.ค. เข้าอบรม Intensive Bootcamp เป็นเวลา 4 เดือน ถึงเดือน ส.ค.
Startup ไทยที่มีความฝัน มีไอเดีย มีสินค้าและบริการ นี่คือโอกาสครั้งสำคัญที่อาจเปลี่ยนแปลงชีวิตไปตลอดกาล
