'คลาวด์' เพื่อนรักสตาร์ทอัพ แต่ส่วนใหญ่ยังใช้ไม่เหมาะสม! AWS แนะนำบันได 3 ขั้น เตรียมพร้อมสู่ความสำเร็จ

เพราะวิกฤตที่เกิดขึ้นกับภาคธุรกิจ ไม่ได้เลือกขนาดว่าเป็นองค์กรใหญ่หรือเล็ก แม้แต่ สตาร์ทอัพ ก็ถือเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นกัน ตั้งแต่การสร้างและรักษาฐานลูกค้า รวมถึงการถือ Cash Flow ให้อยู่ในมือ ซึ่งประเด็นนี้ผู้เชี่ยวชาญของ AWS (Amazon Web Services) อย่าง กอราฟ อโรรา หัวหน้าฝ่ายระบบนิเวศของธุรกิจสตาร์ทอัพ ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ให้คำแนะนำแก่เหล่าสตาร์ทอัพว่า คลาวด์ถูกมองว่าเป็นระบบที่คุ้มค่าสำหรับการเปิดตัวและสร้างธุรกิจ ซึ่งมีสตาร์ทอัพจำนวนไม่น้อยกำลังทบทวนแผนงานและปรับเปลี่ยนการคาดการณ์ใหม่เพื่อรับมือกับ New Normal แต่สิ่งที่ต้องพิจารณาคือใช้คลาวด์อย่างเหมาะสมหรือไม่

‘ฟินเทค – เฮลธ์แคร์ – อีคอมเมิร์ซ’ ไทยมาแรงสุด

ในประเทศไทยมีสตาร์ทอัพหลายอุตสาหกรรมที่นำเทคโนโลยีมาช่วยปฏิรูปธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มฟินเทค เฮลธ์เทค และอีคอมเมิร์ซ ซึ่งเกิดปรากฏการณ์สำคัญทั้งในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือ การเติบโตอย่างรวดเร็วของบริการด้านการเงินและประกัน ซึ่งสตาร์ทอัพส่วนใหญ่เลือกที่จะเริ่มธุรกิจบนแพลตฟอร์มคลาวด์ที่มีโซลูชันครอบคลุม เช่นเดียวกับ AWS ที่มีลูกค้าทั้งบริการด้านการชำระเงิน อย่าง 2C2P และ InsurTech startup กับ Sunday Insurance หรือผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซอย่าง aCommerce รวมถึงผู้ค้าปลีกด้านแฟชั่นอย่าง Pomelo และผู้ให้บริการทางการแพทย์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตอย่าง Doctor Raksa ของไทย และ Holodoc ในอินโดนีเซีย

นอกจากนี้ สตาร์ทอัพควรให้ความสำคัญต่อประเด็นต่าง ๆ เพื่อสร้างความแตกต่างและโอกาสทางธุรกิจด้วยระบบนิเวศคลาวด์ เช่น…

มุมมองเปลี่ยน วิธีการเปลี่ยน ค่าใช้จ่ายเปลี่ยน

การเปลี่ยนมุมมองและปรับใช้เทคโนโลยีคลาวด์อย่างเหมาะสม จะช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายและทำให้มีเงินหมุนเวียนในธุรกิจมากพอ เพราะไม่ต้องจ่ายเงินล่วงหน้าจำนวนมากไปกับการลงทุน ซึ่ง AWS ยกตัวอย่างโมเดลราคาแบบ On Demand และ Saving Plans เพื่อช่วยประหยัดต้นทุนและค่าใช้จ่าย รวมถึงแนะนำให้ใช้เครื่องมือออนไลน์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ปรับปรุงเรื่องความปลอดภัยไปด้วย

ระบบนิเวศคลาวด์ ประเด็นสำคัญของสตาร์ทอัพ

สิ่งที่จำเป็นสำหรับสตาร์ทอัพ คือการสนับสนุนตลอดช่วงธุรกิจ ตั้งแต่เริ่มธุรกิจตลอดจนธุรกิจมีการขยายตัว ดังนั้นจึงควรมองหาเครื่องมือที่จะช่วยสนับสนุนได้ทุกช่วงวงจรธุรกิจเพื่อสร้างธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว ยกตัวอย่างในประเทศไทยที่ AWS Activate มอบทรัพยากรสนับสนุนธุรกิจ เช่น Living Mobile ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจด้านแอปพลิเคชัน ช่วยบริหารจัดการร้านอาหารใช้ชื่อว่า FoodStory ซึ่งมีการใช้ในคาเฟ่ ร้านที่เป็นคีออส ฟู้ดทรัค และร้านอาหารทุกขนาด ที่ช่วยบริหารจัดการทุกเรื่องตั้งแต่จุดชำระเงิน จนถึงการจัดการสต็อก ตลอดจนการจัดส่ง ฯลฯ โดย Activate ช่วยให้สตาร์ทอัพสามารถเข้าถึง AWS credits และการสนับสนุนด้านเทคนิคที่ช่วยให้ทดลองใช้นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีอย่างแมชชีนเลิร์นนิ่งได้ด้วย

คอนเนคชั่นกับนักลงทุน คือ แต้มต่อ

ระบบนิเวศก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับสตาร์ทอัพเช่นกัน โดย AWS ช่วยสร้างคอนเนคชั่นระหว่างสตาร์ทอัพกับลูกค้าที่มีศักยภาพรวมถึงนักลงทุน ด้วยการเชื่อมโยงผู้บริหารจากองค์กรใหญ่เข้ากับสตาร์ทอัพเพื่อรับฟังโซลูชันใหม่ที่น่าสนใจ พร้อมอำนวยความสะดวกในการแนะนำโครงการสนับสนุนในระดับโลก Global Accelerators เพื่อเร่งการเติบโต รวมถึง Angel Investors นักลงทุนอิสระ พร้อมแหล่งเงินทุนสนับสนุน และ Venture Capital Firms บริษัทร่วมลงทุนที่อยู่ในเครือข่าย เพื่อช่วยสตาร์ทอัพระดมทุนสร้างธุรกิจให้เติบโต