กองทุน 500 TukTuks ซึ่งเป็นกองทุนย่อยสาขาในประเทศไทยของ 500 Startups ที่ดำเนินการโดย กระทิง พูนผล และ ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ และทีมงาน ออกมาประกาศว่า การลงทุนใน Batch 2 ผ่านไปได้ด้วยดี สามารถลงทุนใน Startup ได้ 10 รายเป็นที่เรียบร้อย รวมเป็นเงินกว่า 1 ล้านเหรียญ และยังอยู่ระหว่างการเจรจากับอีก 2 ราย ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้
ณัฐวุฒิ บอกว่า ถึงปัจจุบัน 500 TukTuks ดำเนินการมากว่า 2 ปีลงทุนใน Startup ไปแล้ว 20 ราย โดย 10 รายล่าสุด ประกอบด้วย
1. Piggipo แอพพลิเคชั่นบริหารจัดการบัตรเครดิต
2. Fastwork.co แหล่งรวมงานสำหรับฟรีแลนซ์ ที่มีการเติบโตเฉลี่ยกว่า 30% ต่อสัปดาห์
3. Giztix ระบบบริหารจัดการโลจิสติกส์
4. T2P แอพพลิเคชั่น e-wallet
5. Ginja บริการส่งอาหารตามต้องการตลอด 24 ชั่วโมง
6. Ticket Box บริการจำหน่ายตั๋วต่างๆ ในประเทศเวียดนาม
7. Finnomena บริการจัดการทางการเงิน ที่มีความเชี่ยวชาญด้าน FinTech
8. One Stock Home บริการขายวัสดุก่อสร้างแบบ B2C
9. Skilllane บริการคอร์สเรียนออนไลน์ ถือเป็น EduTech แรกของ 500 TukTuks
10. Stock Radar บริการ FinTech ด้านหลักทรัพย์
ศาสดาแห่ง 500 Startups เผย 3 Startup เป้าหมายการลงทุน
Dave McClure ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารกองทุน 500 Startup บอกว่า ประเทศไทยมีการเติบโตของ Startup ที่น่าสนใจ การที่รัฐบาลให้การสนับสนุนจะส่งผลดี และช่วยให้ Startup เติบโตได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่ง 500 TukTuks เป็น Micro fund หรือกองทุนย่อยของกองทุนใหญ่ 500 Startups ทุกครั้งที่มีการลงทุน จะมีการรายงานมาที่กองทุนใหญ่ และถ้ามีความน่าสนใจ 500 Startups จะร่วมลงทุนด้วยทันที เหมือนกรณีของ T2P โดย Startup ทั่วโลกที่กองทุนให้ความสนใจเป็นพิเศษ ได้แก่
1. FinTech
2. EduTech
3. Real Estate Tech
กระทิง บอกว่า หลังจากจบการลงทุนใน Batch2 แล้ว 500 TukTuks จะเริ่มต้น Batch3 ทันที ซึ่งจะมีการลงทุน Startup อีก 10-12 รายในปีนี้ ซึ่งกองทุนอยากลงทุนใน startup ให้ได้ถึง 500 รายในปี 2020 เป็นเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพราะยิ่งมี Startup มากเท่าไร นั่นหมายถึงโอกาสที่จะมี Startup ประสบความสำเร็จจะเพิ่มขึ้น จากอัตราส่วน 10% ของ Startup ทั้งหมด และอาจจะเจอ 1% ที่เป็น Unicorn ก็เป็นได้