กรุงศรี ฟินโนเวต นำทีม 2 พันธมิตรอย่าง เบญจจินดา และ 500 TukTuks ร่วมลงทุนใน ‘ฟินโนมีนา’ (FINNOMENA) Fintech Startup สัญชาติไทยระดับแถวหน้าด้านการแนะนำการลงทุน ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้น 3.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 112 ล้านบาท) โดยกรุงศรี ฟินโนเวต ยังเตรียมใช้ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี Hybrid Robo Advisor ของฟินโนมีนา มาสนับสนุนบริการแนะนำการลงทุนให้ลูกค้ากรุงศรีอีกด้วย
“กรุงศรีเห็นความเติบโตและความแข็งแกร่งของทีมฟินโนมีนามาโดยตลอด โดยฟินโนมีนาได้เข้าร่วมในโครงการ Krungsri RISE Batch 1 และเป็น Fintech Startup สัญชาติไทยที่มีพัฒนาการสามารถขยายฐานลูกค้าได้อย่างก้าวกระโดด ดังนั้นการลงทุนในครั้งนี้จะทำให้กรุงศรีได้เรียนรู้และสามารถนำจุดแข็งของฟินโนมีนาเรื่องการใช้ Robo Advisor ในการให้คำแนะนำการบริหารและจัดการเป้าหมายทางการเงินมาประยุกต์ใช้กับบริการด้านการลงทุนของธนาคาร ทำให้ลูกค้ากรุงศรีได้รับบริการที่ง่าย สะดวก และตอบโจทย์ด้านการลงทุนได้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าผู้ใช้ KMA (Krungsri Mobile Application) ที่จะสามารถใช้ฟีเจอร์ดังกล่าวได้ในอนาคต” นายฐากร ปิยะพันธ์ ประธานกรรมการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด ในเครือกรุงศรี กล่าว
นายวิชัย เบญจรงคกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบญจจินดา โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า กลุ่มบริษัทเบญจจินดาให้ความสนใจเลือกการลงทุนในฟินโนมีนาในรอบ Series A ครั้งนี้ เนื่องจากเป็นบริษัท Fintech ซึ่งตอบโจทย์หลักในการลงทุน คือ มีโอกาสการเติบโตในตลาดทางการเงิน มีการนำเทคโนโลยีเพื่อให้บริการลูกค้า และมีความสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ทางการเงินของคนรุ่นใหม่ ทั้งยังสามารถต่อยอดการให้บริการอื่นๆ บนดิจิทัลแพลตฟอร์มในอนาคต ขณะเดียวกัน กลุ่มเบญจจินดา ในฐานะบริษัทดำเนินธุรกิจด้านไอซีทีของประเทศ จึงเชื่อว่าจะสามารถส่งเสริมความรู้ทางเทคโนโลยี และเป็นตัวเชื่อมในการหาตลาดใหม่ให้กับฟินโนมีนาจากฐานลูกค้าของกลุ่มเบญจจินดาได้ด้วย
ส่วน นายเรืองโรจน์ พูนผล ผู้จัดการกองทุน 500 TukTuks กล่าวว่า 500 TukTuks มีความตั้งใจอยากลงทุนใน Fintech Startup ที่ส่งผลดีต่อประเทศไทยและคนไทย ซึ่งฟินโนมีนาก็เป็นหนึ่งในนั้น ทั้งยังมีเทคโนโลยีเฉพาะตัวอย่าง Hybrid Robo Advisor ซึ่งเป็นการใช้วิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Science) จากข้อมูลการใช้งานของคนจำนวนมากที่ได้รับความรู้เรื่องการเงินการลงทุนจากฟินโนมีนาไปใช้ ในการแนะนำการจัดพอร์ตลงทุนที่ตอบโจทย์คนไทยในวัตถุประสงค์ที่ต่างกัน เช่น เก็บเงินล้านแรก การสะสมมูลค่า การสร้างรายได้หลังเกษียณ เป็นต้น
“ในฐานะนักลงทุนเรามองว่า Hybrid Robo Advisor เป็นรูปแบบที่เหมาะกับตลาดในประเทศไทยรวมถึงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งอุตสาหกรรม Fintech มีการเติบโตสูงมาก ประกอบกับทีมงานก็มีความรู้ความสามารถเฉพาะทาง ทำให้เราเชื่อมั่นว่าพวกเขาจะสามารถไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้แน่นอน”
ขณะที่ นายเจษฎา สุขทิศ ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง ฟินโนมีนา (www.finnomena.com) อธิบายว่า “การระดมทุน Series A ในครั้งนี้ นอกจากทำให้เราเป็นบริษัท Fintech ด้านการบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) เต็มรูปแบบทั้งธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจจัดการลงทุน การที่กรุงศรี ฟินโนเวต ซึ่งอยู่ในกลุ่มมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) หนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลกเข้ามาถือหุ้น ก็จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความมั่นใจต่อนักลงทุนที่เข้าลงทุนผ่านแพลตฟอร์มของฟินโนมีนามากขึ้น
“ปัจจุบันความรู้เรื่องการเงินการลงทุนของฟินโนมีนามีผู้รับชมจากช่องทางต่างๆ ประมาณ 1 ล้านวิวต่อสัปดาห์ เรามีสินทรัพย์ภายใต้คำแนะนำการลงทุน (Asset Under Advisement) กว่า 2,000 ล้านบาท โดย NTER by FINNOMENA (www.nter.io) เติบโตขึ้นจาก 300 ล้านบาทเมื่อสิ้นปี 2559 เราเชื่อว่าการเสริมสร้างความแข็งแกร่งในครั้งนี้จะช่วยให้ฟินโนมีนาสามารถบรรลุเป้าหมายในการทำให้คนไทยเข้าใจความสำคัญของการลงทุน เข้าถึงคำแนะนำการลงทุนที่มีคุณภาพ นำไปสู่ความสำเร็จในการมีอิสรภาพทางการเงิน และการเกษียณอายุอย่างมีความสุขในที่สุด”.
