เราอยู่ในยุคที่คำว่า Startup กลายเป็นภาพจำที่สื่อถึงความสำเร็จและสร้างความร่ำรวยให้เจ้าของไอเดีย ส่วนใหญ่ก็เป็นคนรุ่นใหม่อายุน้อยที่คิดเก่ง ประสบความสำเร็จจากการนำเสนอสินค้าหรือบริการที่รวมเข้ากับเทคโนโลยี เพื่อตอบสนองความต้องการด้านต่างๆ ของมนุษย์ ซึ่ง…โชคดีที่ประเทศไทยมีคนเก่งระดับหัวกะทิเป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือกลุ่มคนรุ่นใหม่จากโครงการ dtac Accelerate (ดีแทค แอคเซอเลอเรท) ที่ได้นำเสนอไอเดียพร้อมต่อยอดสู่ธุรกิจ จนมี 3 ทีมที่สามารถคว้ารางวัล Best Performing Startups คือ ทีม Seekster , ทีม Tourkrub และทีม Indie Dish
ถ้าคุณอยากรู้ว่าคนเก่งๆ เขาได้ไอเดียเจ๋งๆ จากไหน ขอชวนให้ตามมาทางนี้…เราจะพาไปเรียนรู้โอกาสและความสำเร็จจากประสบการณ์ของพวกเขา ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงเส้นชัย พร้อมๆ กัน
Seekster : แพลทฟอร์มบริการทำความสะอาดและช่างแอร์
เริ่มต้นจากทีม Seekster (ซีคสเตอร์) เกิดจากแนวคิคของ 3 ผู้ก่อตั้ง คือ สเฮ็บ อนันต์ทรงวิทย์ , แดเนียล ดายย์ และชัชนาท จรัญวัฒนากิจ ซึ่งปัจจุบันทั้ง 3 คนดำรงตำแหน่ง CEO , CTO , CMO แห่ง Seekster ตามลำดับ กับความสำเร็จที่แลกมาด้วยประสบการณ์ที่ใหญ่เกินวัย 24-25 ปีของพวกเขา!
“จุดเริ่มต้นของพวกเราไม่ได้เริ่มจากคำว่าเพื่อนด้วยซ้ำ เราเป็นแค่เพื่อนของเพื่อนที่ได้มาเจอ มาคุยกัน แล้วรู้สึกว่านิสัยและความคิดเราเป็นไปในแนวทางเดียวกัน จึงทำให้เราอยากทำธุรกิจร่วมกัน จึงใช้ความถนัดของแต่ละคนในเรื่องธุรกิจ การตลาด และระบบมารวมกัน ทำให้พวกเราค่อนข้างเชื่อใจและแก้ไขปัญหาร่วมกันได้ดี” ทั้ง 3 คน ช่วยกันเล่าถึงจุดเริ่มต้นในการเข้าสู่วงการ Startup กับการก่อตั้ง Seekster เมื่อราวๆ 2 ปีที่ผ่านมา
เริ่มต้นจาก “ปัญหา”
ทีม Seekster เล่าที่มาของไอเดียในการพัฒนาแพลทฟอร์มบริการด้านความสะอาดและการซ่อมแซมว่า พวกเราคุยกันแล้วรู้สึกว่าทำไมไม่มีแพลทฟอร์มออนไลน์ที่รวมผู้ให้บริการ โดยเฉพาะงานทำความสะอาดและงานช่าง เราอยากเห็นศูนย์กลางแบบนั้นบนโลกออนไลน์ที่สามารถค้นหาช่างน้ำ ช่างไฟ ช่างซ่อม ช่างแต่งหน้า-ทำผม แม่บ้าน หรือแม้แต่ติวเตอร์ได้ จุดเริ่มต้นไอเดียจริงๆ ก็คือ วันหนึ่งน้องสาวของเราต้องการช่างภาพแต่ไม่รู้ว่ามีใครให้บริการรับถ่ายภาพบ้าง ประกอบกับไม่รู้ว่าคนไหนฝีมือถ่ายภาพเป็นอย่างไร จึงกลายเป็นไอเดียเริ่มต้น Seekster เพื่อเป็นศูนย์รวมบริการทุกด้านที่ผู้คนต้องการค้นหา แต่เนื่องจากเราพบว่าบริการที่เป็นตลาดใหญ่มีความต้องการมากและมีโอกาสที่ผู้บริโภคจะกลับมาใช้งานซ้ำ คือ บริการรับทำความสะอาดและช่างเครื่องปรับอากาศ เพราะครอบครัวสมัยใหม่นิยมจ้างแม่บ้านทำความสะอาดเป็นครั้งคราวมากกว่าจ้างประจำจ่ายค่าจ้างรายเดือน ส่วนช่างแอร์ก็เป็นงานที่มีความต้องการค่อนข้างสูงเนื่องจากในกรุงเทพฯ มีเครื่องปรับอากาศไม่ต่ำกว่า 15-20 ล้านเครื่อง
เน้นคุณภาพ พร้อมมอบประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย
แนวคิดในการให้บริการผ่านแพลทฟอร์ม Seekster นอกจากจะมีบริการที่มีคุณภาพสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้แล้ว เรายังเน้นการสร้างประโยชน์แก่ผู้ให้บริการด้วย ยกตัวอย่าง แม่บ้านและช่างที่รับงานจาก Seekster ส่วนใหญ่จะเป็นฟรีแลนซ์ ซึ่งเราการันตีรายได้เพิ่มขึ้น และเพิ่มถึง 3 เท่าตัวโดยเฉพาะงานแม่บ้าน เนื่องจากลูกค้ามีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่องและต้องการใช้งานซ้ำ โดยปัจจุบันเรามีแม่บ้านและช่างในระบบกว่า 3,000 คน แต่ยังเปิดรับเพิ่มเติมทั้งรูปแบบฟรีแลนซ์รวมถึงบริษัทที่ให้บริการงานแม่บ้านหรืองานช่างด้วย
ส่วนการควบคุมคุณภาพในการให้บริการนั้น พนักงานทั้งแม่บ้านและช่างจะต้องผ่านการอบรม การตรวจประวัติอาชญากร และเข้าเวิร์คช็อปแนะนำการทำงานจากผู้ที่ทำงานกับ Seekster มานานและได้รับคะแนนระดับสูง นอกจากนี้ก็มีการจัดอันดับคะแนนจากลูกค้าที่กดประเมินหลังได้รับบริการแล้ว ซึ่งหากใครมีอันดับน้อยก็จะมีการตักเตือน เรียกคุย หรือคัดออกจากระบบ ยกตัวอย่าง…แม่บ้านที่มีอันดับคะแนนสูงก็จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มให้บริการลูกค้า VIP และการันตีค่าแรงเริ่มต้น 350 บาทต่อวัน ขณะเดียวกัน แม่บ้านหรือช่างก็สามารถปฏิเสธการรับงานได้หากรู้สึกไม่ปลอดภัยในการทำงาน พร้อมกันนี้ก็มีหัวหน้าแม่บ้านเพื่อดูแลการอบรมและชี้แจงนโยบายการทำงาน ซึ่งในอนาคตจะมีการเพิ่มเติมหัวหน้าช่างและอาจมีการจัดสอบเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการมากขึ้น พร้อมร่วมมือกับศูนย์ฝึกอาชีพรวมถึงแบรนด์ผู้จำหน่ายเครื่องปรับอากาศซึ่งขณะนี้ได้เริ่มต้นความร่วมมือกับแบรนด์ Saijo Denki เพื่อจัดอบรมและมอบประกาศนียบัตรรับรองหลักสูตรเพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า
กลยุทธ์แบบ Concentric Consumer
นอกจากกลยุทธ์ด้านราคาที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าในการใช้งาน ซึ่งทำให้บริการของ Seekster แตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่นในตลาดบริการความสะอาดและการซ่อมแซม เรายังเน้นกลยุทธ์แบบ Concentric Consumer เอาใจใส่ผู้บริโภคให้บริการสามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างตรงใจ ผ่านช่องทางที่เข้าถึงง่าย ทั้งแอปพลิเคชัน iOS , Android และ Facebook Page
“เราใช้ความต้องการของลูกค้ามาเป็นหลักในการพัฒนาบริการและระบบ เพราะนั่นคือสิ่งที่พวกเขาต้องการจริงๆ ไม่ใช่สิ่งที่เราคิดว่าเขาต้องการ ซึ่งนอกจากความประทับใจและการเลือกใช้งานซ้ำ ก็ยังทำให้ลูกค้าไว้วางใจและนึกถึง Seekster ในบริการรูปแบบอื่นๆ ซึ่งเราเตรียมพัฒนาต่อไปในอนาคต หรือแม้แต่บริการใหม่ๆ ที่อยู่ในช่วงทดลองตลาด เช่น บริการรีดผ้า โดยปัจจุบัน Seekster มีลูกค้าราว 5,000-6,000 งานต่อเดือน สำหรับส่วนแบ่งการตลาดนั้นถือว่าบริการของเราเริ่มมีส่วนแบ่งการตลาดมากขึ้นแล้วและยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก”
ก้าวต่อไปของ Seekster…
จากบริการที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน คาดว่าอนาคตจะขยายประเภทบริการให้มากขึ้น เช่น ช่างสำหรับรีโนเวทบ้านและคอนโด ช่างก่อสร้าง เป็นต้น เพื่อขยายบริการไปสู่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการขยายตลาดจากธุรกิจ B2C ไปยังกลุ่ม B2B ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนลูกค้าได้อีกมากหลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการเพียง 7 เดือน ก็มีลูกค้ากลุ่ม SME แล้วกว่า 250 แห่ง นอกจากนี้ Seekster ยังมีความร่วมมือกับ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ในการขยายบริการเพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มคอนโดที่ต้องการบริการทำความสะอาด ช่างซ่อมแซม และช่างแอร์ ซึ่งปัจจุบันคอนโดนในเครืออนันดามีมากกว่า 50,000 ยูนิต เชื่อว่า Seekster จะสามารถขยายฐานลูกค้าและบริการได้อีกมากในอนาคต ขณะเดียวกันเรายังมีแผนขยายบริการสู่จังหวัดหัวเมือง ทั้งชลบุรี ภูเก็ต เชียงใหม่ ภายในปีต่อไป พร้อมตั้งเป้าเป็นผู้ให้บริการทำความสะอาดและช่างแอร์ที่รองรับความต้องการลูกค้าในเขตกรุงเทพฯ ได้ครอบคลุมทุกพื้นที่
“สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเป็น Startup คือ ความเข้าใจในเทคโนโลยี คุณไม่สามารถจะเชี่ยวชาญแค่เรื่องธุรกิจหรือการตลาดแล้วจะกระโดดลงมาในวงการนี้ได้ แต่เทคโนโลยีคือสิ่งจำเป็นอีกเรื่องที่คุณต้องทำความเข้าใจจริงๆ และหากเกิดปัญหาก็ต้องพร้อมลุยและแก้ปัญหานั้นให้ได้ เส้นทางของ Startup ไม่ได้ง่ายและหอมหวานเหมือนที่หลายๆ คนคิด เราเจออุปสรรคมากมายกว่าจะถึงวันนี้ แต่เรามั่นใจและพยายามก้าวข้ามสิ่งเหล่านั้นมาจนได้”
Tourkrub : แพลทฟอร์มรวมแพ็คเกจทัวร์จากบริษัทคุณภาพ
ทีม Tourkrub (ทัวร์ครับ) เกิดจากความเห็นชอบของกลุ่มเพื่อน 3 คน ซึ่งตกลงใจจะดำเนินธุรกิจนี้ร่วมกันเพราะต้องการแก้ปัญหาความยุ่งยากในการค้นหาและรวบรวมข้อมูลแพ็คเกจท่องเที่ยว จนนำมาสู่จุดเริ่มต้นของ Tourkrub ส่วนจะมีจุดเด่นอย่างไร น่าสนใจแค่ไหน เราได้ฟังมาจาก จักรพันธ์ ลีอธิวัฒน์ CEO และหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง กับความสำเร็จของเว็บไซต์รวมแพ็คเกจท่องเที่ยวต่างประเทศที่เปิดตัวยังไม่ถึง 2 ปี แต่สามารถสร้างรายได้แตะ 250 ล้านบาทแล้ว!
“ผมแค่สงสัยว่าไม่มีวิธีที่เราจะรวบรวมข้อมูลและแพ็คเกจทัวร์ได้สะดวกๆ อ่านง่าย และใช้เวลาน้อยบ้างเลยเหรอ จึงกลายมาเป็นแนวคิดในการทำ Tourkrub ให้ตอบโจทย์ โดยมีความน่าเชื่อถือจากบริษัททัวร์ชั้นนำ ใช้งานง่าย และใช้เวลาค้นหาน้อยที่สุด” CEO Tourkrub เริ่มต้นเรื่องราว
ธุรกิจเริ่มต้นจากคำว่า “ฟรี”
CEO Tourkrub ย้อนถึงจุดเริ่มต้นของแพลทฟอร์มรวมแพ็คเกจทัวร์ต่างประเทศว่า ครอบครัวของผมชอบท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยเฉพาะช่วงหลังจากที่พ่อแม่เข้าสู่วัยเกษียณก็ยิ่งมีทริปท่องเที่ยวบ่อยขึ้น ปัญหาคือการรวบรวมข้อมูลและแพ็คเกจท่องเที่ยวในอดีตนั้นต้องใช้เวลานาน หากไปเก็บข้อมูลตามงานรวมโปรโมชั่นท่องเที่ยวก็ต้องใช้เวลาเป็นวัน เพราะเราไม่รู้ว่าบริษัททัวร์รายใดให้บริการดีหรือมีชื่อเสียง ประกอบกับข้อมูลส่วนใหญ่ก็เป็นตัวอักษรไม่ค่อยมีรูปภาพสวยๆ ไม่เชิญชวนให้อยากอ่านหรือติดตาม จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเว็บไซต์แรกในชื่อ tourdoc.net ซึ่งเริ่มต้นเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา กับแนวคิดการเป็นแพลทฟอร์มรวมแพ็คเกจทัวร์อย่างง่าย เปิดให้บริษัททัวร์ที่สนใจส่งข้อมูลมาลงเว็บของเราได้ฟรีๆ ซึ่งมีบริษัททัวร์ต่างประเทศชั้นนำสนใจลงข้อมูลกับเรากว่า 36 แห่ง มียอดการเข้าชมเฉลี่ย 3,000-4,000 ครั้งต่อวัน และติดอันดับเว็บที่คนไทยนิยมเข้าชมในลำดับที่ 6,000
“สาเหตุที่เราทำธุรกิจเฉพาะแพ็คเกจทัวร์ต่างประเทศก็เพราะการท่องเที่ยวต่างประเทศนั้นยากกว่าการท่องเที่ยวในประเทศไทย ลูกค้าของเราคือกลุ่มคนที่ไม่เชี่ยวชาญในการวางแผนท่องเที่ยวด้วยตัวเอง กลุ่มครอบครัว กลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งจากจุดเริ่มต้นในวันนั้นผมรู้สึกว่าการรวมแล้วนำเสนอข้อมูลแบบนั้นทำให้การค้นหาแพ็คเกจท่องเที่ยวง่ายขึ้น แต่ก็ยังไม่ใช่ที่สุด เพราะการขายทัวร์ยังมีรูปแบบเป็นตลาดออฟไลน์มากกว่า จึงไปเรียนเขียนโปรแกรมเพิ่มเติมเพื่อนำมาต่อยอดธุรกิจที่เราตั้งใจสร้าง ซึ่งในตอนนั้นผมก็ยังทำงานประจำด้านอื่นอยู่ แต่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ก็เริ่มจริงจังและทุ่มเทกับการพัฒนา Tourkrub อย่างเต็มที่ เพราะมองเห็นโอกาสจากการทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ที่มีต้นทุนต่ำ สามารถเปิดตัวและออกสู่ตลาดได้เร็วกว่าธุรกิจรูปแบบอื่นที่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่หรือการเข้าถึงลูกค้า”
ความสำเร็จเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว!
เพียงแค่เดือนแรกที่เปิดตัว Tourkrub ก็ทำให้รายได้ของเราเติบโตอย่างชัดเจน จากจุดเด่นทั้งเรื่องความน่าเชื่อถือของบริษัททัวร์ในระบบซึ่งเรามีระบบการคัดกรอง เช่น ต้องดำเนินธุรกิจมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี มีใบอนุญาตดำเนินธุรกิจท่องเที่ยว และมีสถานะการเงินน่าเชื่อถือ อีกทั้งระบบยังมีความง่ายในการค้นหาและการเข้าถึงข้อมูล แต่ใช้เวลาน้อย ภายใต้รูปแบบที่เราให้บริการผ่านเว็บไซต์และ Mobile Responsive ซึ่งปัจจุบันมีบริษัททัวร์ที่ให้บริการพาเที่ยวต่างประเทศราว 37 แห่งอยู่ในระบบ Tourkrub ยอดการเข้าชมเว็บอยู่ที่ 4,000-5,000 คนต่อวัน และมียอดการใช้จ่ายประมาณ 30,000 บาทต่อคน ซึ่งภายในระยะเวลา 2 ปีในการดำเนินธุรกิจ เราสามารถสร้างยอดขายได้ถึง 250 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขรายได้ที่บริษัททัวร์รูปแบบเดิมต้องใช้เวลาเป็น 10 ปี จึงสามารถทำได้
User Experience สำคัญที่สุด
แม้ว่าตลาดธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทยจะมีอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เราเชื่อว่าจำนวนบริษัททัวร์ที่มีคุณภาพและเชื่อถือได้นั้นอยู่กับ Tourkrub เกือบทุกแห่งแล้ว ในขณะที่รายอื่นอาจมีเครือข่ายบริษัททัวร์เพียง 1-2 แห่ง เนื่องจากข้อจำกัดเรื่องข้อมูลที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก และสิ่งสำคัญคือ เรานำเสนอสิ่งที่เราต้องการในฐานะลูกค้าที่เคยต้องรวบรวมข้อมูลและแพ็คเกจการท่องเที่ยวต่างประเทศจริงๆ ดังนั้น Tourkrub จึงมีจุดเด่นที่ความง่ายในการใช้งานและข้อมูลที่มีให้เลือกได้หลากหลาย ทั้งแพ็คเกจราคาโดนใจ ประเทศยอดนิยม หรือจะเลือกเฉพาะประเทศ เมืองที่ชื่นชอบ เทศกาลที่สนใจ แม้แต่กิจกรรมที่ต้องการ-ไม่ต้องการ หรือเลือกจากภาพถ่ายสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณชื่นชอบก็ได้
แนะ อย่าเลือกเที่ยวจากราคา…
เราพบว่าปัญหาส่วนใหญ่ที่สร้างความไม่พอใจจากลูกค้า คือ การที่ลูกค้าตัดสินใจเลือกทัวร์จากราคาโดยเน้นราคาต่ำเป็นหลัก ทำให้ไม่ได้ตรวจสอบเงื่อนไขการท่องเที่ยวในแพ็คเกจนั้นๆ ว่าบริษัททัวร์จัดโปรแกรมไว้อย่างไร ทำให้ได้ทัวร์ที่ไม่ถูกใจ จึงอยากให้ทุกคนเลือกซื้อทัวร์โดยศึกษารายละเอียดของแต่ละแพ็คเกจให้ครบถ้วน ซึ่งในอนาคตเราจะพัฒนาให้ระบบสามารถค้นหาโปรแกรมทัวร์ที่ต้องการได้ภายในเวลาที่รวดเร็วกว่านี้ รวมถึงระบบการใช้งานที่จะง่ายขึ้นอีก
หวังแชร์ตลาดไทยทัวร์ต่างประเทศ 30%
ตั้งแต่ปี 2009-2015 พบว่าคนไทยนิยมท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้นทุกปี โดยในปี 2015 พบว่ามีคนไทยเลือกท่องเที่ยวต่างประเทศผ่านบริษัททัวร์ถึง 1.8 ล้านคน ตัวเลขดังกล่าวยังไม่รวมถึงกลุ่มนักเดินทางแบบ Business Travel ที่เดินทางไปทำธุรกิจพร้อมกับท่องเที่ยวซึ่งตลาดดังกล่าวก็มีมูลค่ามากเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ในปี 2014 มูลค่าธุรกิจด้านการท่องเที่ยวต่างประเทศของไทยนั้นสูงถึง 27,000 ล้านบาท ซึ่งเรามีส่วนแบ่งอยู่ประมาณ 1% แต่คาดว่าภายใน 1-3 ปีจากนี้ เราจะสามารถชิงส่วนแบ่งจากตลาดดังกล่าวได้ไม่ต่ำกว่า 30% ของมูลค่าตลาด เนื่องจากคนไทยเริ่มนิยมท่องเที่ยวต่างประเทศ ประกอบกับสังคมผู้สูงอายุวัยเกษียณมีจำนวนมากขึ้นและถือเป็นกลุ่มคนที่มีกำลังเงินพร้อมใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวอีกด้วย
“อยากฝากถึงผู้ที่สนใจอยากเป็น Startup ว่าปัจจุบันเราอยู่ในยุค 4.0 ซึ่งมีซอฟต์แวร์และผู้ให้บริการด้านต่างๆ เป็นจำนวนมาก ถ้าคุณคิดจะเริ่มต้นทำธุรกิจซักอย่างก็ไม่จำเป็นว่าคุณต้องทำและเข้าใจทุกอย่างตั้งแต่แรก เพราะคุณสามารถเลือกใช้งานจากสิ่งที่คุณชื่นชอบและเป็นสิ่งที่มีผู้ให้บริการด้วยความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว ขณะเดียวกันก็อย่าเพิ่งคิดลงทุนจำนวนมากๆ แต่ขอให้เริ่มต้นและทดลองดูก่อนว่าแนวคิดนั้นเป็นไปได้จริงหรือไม่ โดยมีสิ่งสำคัญอย่างเดียวคือ อย่าคิดนาน”
Indie Dish : บริการสั่งอาหารสุขภาพผ่านแอปพลิเคชัน
ทีม Indie Dish (อินดี้ ดิช) ก็เป็นอีกหนึ่ง Startup ที่เกิดขึ้นด้วยแนวคิดที่ถูกมองว่าเป็นปัญหา! แถมยังเป็นปัญหาปากท้อง…เกี่ยวกับอาหารการกินซะด้วย เราจะพาคุณไปไขข้อข้องใจกับแนวคิดแบบคนรุ่นใหม่ใส่ใจสุขภาพพร้อมกัน ตามคำบอกเล่าของ ณัฐนรี ชุมมานนท์ Co-founder และ CMO ของ Indie Dish
“จุดเริ่มต้นคือเอมและอิง เราเป็นเพื่อนที่เคยได้ทำงานอยู่ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเอมทำงานเป็น Global Brand Manager ของ Starbucks Coffee Company USA ส่วนเพื่อนทำงานในตำแหน่ง User Experience Design ด้าน Delivery ที่บริษัท Amazon แต่เราทั้งคู่ชอบทำอาหารกินเองโดยเฉพาะอาหารไทย ซึ่งหลายๆ ครั้งเรามีโอกาสกินอาหารจากร้านที่มีชื่อเสียงแต่รู้สึกว่ารสชาติไม่คงที่ ประกอบกับเรามีอาการแพ้อาหารจึงทำให้รู้สึกว่าอยากกินอาหารสุขภาพมากกว่าอาหารทั่วไป ซึ่งช่วง 1-2 ปีก่อนเริ่มมีเทรนด์สั่งอาหารคลีนผ่านเฟซบุ๊กเกิดขึ้นแล้ว แต่มีขั้นตอนยุ่งยากในเวลาการสั่งและส่งอาหาร จึงกลายเป็นความคิดเริ่มต้นในการทำแพลทฟอร์มรวมร้านอาหารสุขภาพ ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเป็นร้านที่อาหารอร่อย สด และสะอาดเท่านั้น”
รวม 70 ร้านอร่อย พร้อมเสิร์ฟถึงปาก
ปัจจุบัน Indie Dish มีร้านอาหารสุขภาพและอาหารคลีนถึง 70 ร้านในเครือข่าย ซึ่งก่อนหน้าจะเริ่มต้นธุรกิจดังกล่าว เราเคยสอบถามรายละเอียดจากทั้งร้านอาหารและลูกค้า ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ระบุว่าแม้จะถูกใจรสมือของร้านที่สั่งอาหารอยู่ประจำแต่ก็มีอาการเบื่อและอยากลองเปลี่ยนไปชิมอาหารจากร้านอื่นบ้าง แต่การค้นหาร้านอาหารใหม่ก็มีปัญหาในการสั่งซื้อและไม่มั่นใจรสชาติ จึงกลายเป็นที่มาที่ Indie Dish ต้องรวบรวมร้านอาหารไว้มากเกือบ 100 ร้าน เพื่อให้ลูกค้าได้หมุนเวียนเมนูและรสชาติ
ดึงออฟไลน์สู่ออนไลน์ ไม่ใช่เรื่องง่าย!
ต้องยอมรับว่าการนำธุรกิจออฟไลน์ที่ค้าขายดีเป็นที่รู้จักอยู่แล้วมาสู่ช่องทางออนไลน์นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากเจ้าของร้านยังไม่มั่นใจว่าแพลทฟอร์ม Indie Dish จะเพิ่มโอกาสหรือรายได้ให้พวกเขาได้อย่างไร เพราะเราทำราคาขายเท่ากับราคาหน้าร้านขายเอง แต่ความแตกต่างคือการรวบรวมร้านอร่อยที่เราคัดสรรแล้วมารวมกัน แต่เมื่อทำไปได้ 8-9 เดือน ก็พบปัญหา…
“เราพบว่าเมื่อมีลูกค้าเยอะขึ้น ก็อาจเกิดปัญหารุมสั่งจากร้านใดร้านหนึ่งมากกว่ากระจายการสั่งไปหลายๆ ร้าน ส่งผลให้เกิดปัญหาผลิตไม่ทัน ส่งอาหารได้ไม่ตรงเวลา ลูกค้าก็จะเกิดความรู้สึกที่ไม่ดี จึงมีการปรับระบบใหม่มีผู้ดูแลระบบที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนครัวกลางเพื่อควบคุมไม่ให้เกิดปัญหา มีการปรับรูปแบบเป็นการสั่งแบบออเดอร์ เช่น สั่งวันนี้ได้วันนี้เพื่อคงรสชาติ ความสดอร่อย และตอบสนองความรวดเร็วที่ลูกค้าต้องการ โดยร่วมกับบริการรับส่งสินค้าอย่าง Skootar และ Lalamove พร้อมจัดโปรโมชั่นแบบรายสัปดาห์ซึ่งเราจะจัดอาหารแบบหมุนเวียนเมนูและร้านให้ แต่ลูกค้าก็สามารถเลือกเมนูได้เองด้วย เพราะนอกจากความชื่นชอบส่วนตัวเกี่ยวกับอาหารสุขภาพ เราอยากให้คนไทยได้เข้าถึงอาหารสุขภาพได้ง่ายขึ้นด้วย เมื่อหิวแล้วก็อยากให้คิดถึงอาหารสุขภาพที่มีประโยชน์และอร่อยมากกว่าอาหารประเภทอื่น”
ลูกค้าในระบบ 4,000 คน! วัยทำงานรักสุขภาพ
ปัจจุบันมีลูกค้าที่ลงทะเบียนใช้งานผ่านแอปพลิเคชันบน iOS , Android เฟซบุ๊กเพจ รวมถึง Line@ และเว็บ Indie Dish รวมกว่า 4,000 คน และมีการจัดส่งอาหารไปแล้วมากกว่า 30,000 มื้อ โดยลูกค้าหลักของ Indie Dish คือ คนที่ต้องการลดน้ำหนัก กลุ่มหนุ่มสาวออฟฟิศที่รักสุขภาพ และกลุ่ม Look Good Feel Good ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าประจำ มีสัดส่วนกว่า 53% ที่เคยซื้อแล้วกลับมาซื้อซ้ำ โดยมูลค่าการสั่งจะอยู่ที่ 850-1,000 บาทต่อครั้ง เนื่องจากคนไทยนิยมสั่งครั้งละมากๆ เพราะมีการวางแผนเพื่อซื้อเก็บไว้รับประทาน หรือไม่ก็สั่งแล้วแบ่งปันกับคนในครอบครัวหรือคนในออฟฟิศ
ธุรกิจอาหารสุขภาพทั่วโลกมูลค่าแสนล้านบาท! เร่งขยายตลาด
มูลค่าธุรกิจอาหารสุขภาพทั่วโลกเกือบ 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเกือบ 100,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตน่าสนใจโดยเฉพาะประเทศจีน อินเดีย และไทย ทั้งยังเป็นที่นิยมในโซนยุโรปและเอเชีย
แม้ว่าธุรกิจอาหารสุขภาพในไทยยังต้องทำความเข้าใจกับตลาดอีกมากและเป็นเรื่องเฉพาะกลุ่ม ประกอบกับเริ่มมีผู้ให้บริการมากขึ้นแต่ยังขาดระบบการจัดการที่ดี ทำให้ Indie Dish ต้องการขยายตลาดด้วยจุดเด่น คือ รสชาติอร่อย ราคาเข้าถึงได้ สามารถรับประทานได้ทุกวัน มีตัวเลือกมาก และทำให้อาหารไทยกลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ก็ได้มีการขยายตลาดไปยังต่างจังหวัด เช่น ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา สระบุรี เป็นต้น โดยเน้นจังหวัดที่สามารถใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ไม่นานนัก เพื่อคงความสดใหม่ของอาหารก่อนถึงมือลูกค้า แต่ในอนาคตก็มีแผนขยายสู่ต่างจังหวัดให้มากขึ้น อาจเป็นการขยายศูนย์กลางเพื่อกระจายสินค้าได้มากขึ้น
รักษาจุดเด่นให้ลูกค้าติดใจ ติดแบรนด์
“แบรนด์ใหญ่ๆ เริ่มหันมาให้ความสนใจธุรกิจอาหารสุขภาพทั้งร้านสะดวกซื้อและแบรนด์อาหาร แต่ Indie Dish สร้างความแตกต่างด้วยการเจาะกลุ่มผู้บริโภคโดยตรง เช่น หนุ่มสาวออฟฟิศ คนดูแลสุขภาพ คนลดน้ำหนัก และในอนาคตอาจขยายไปสู่กลุ่มคนที่มีความต้องการพิเศษ เช่น คนแพ้อาหารบางประเภท ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ พร้อมกับการคงราคาเริ่มต้นที่ 65 บาทสำหรับข้าวกล่องทานได้ 1 มื้อ รวมถึงเรื่องรสชาติ ความจัดจ้านแบบฉบับอาหารไทย เมนูต้องหลากหลายพัฒนาอยู่เสมอ คงคุณภาพวัตถุดิบ และความพิเศษเรื่องปลอดภัยไร้สารเคมี 100% เพื่อทำให้ลูกค้าติดใจและชื่นชอบความง่ายในการเข้าใช้งานที่สามารถเลือกสรรได้นับร้อยร้าน”
แนะเทคนิคสร้างโอกาส…
ถ้าคุณเริ่มสนใจเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ขอแนะนำให้ทำ Research หรือวิธีที่ง่ายที่สุด คือ ลองถามจากกลุ่มคนที่คิดว่าอาจเป็นลูกค้าของคุณในอนาคตว่าพวกเขาเจอปัญหาเรื่องที่คุณสนใจหรือไม่ หรือเขามีความต้องการอะไร และพวกเขาต้องการโซลูชั่นอะไรในการแก้ไขปัญหาเหล่านั้น สิ่งเหล่านี้อาจทำให้คุณได้ไอเดียบางอย่าง ซึ่งหากได้แนวคิดแล้วก็ควรลงมือทำและเริ่มทดลองตลาดแบบเล็กๆ ก่อน เพื่อพิจารณาว่าไอเดียนั้นกลายเป็นธุรกิจได้หรือไม่ จากนั้นก็เดินหน้าพูดคุยกับพันธมิตรทางธุรกิจ และลงมือทำอย่างจริง ต่อเนื่อง แม้จะเจอปัญหาในขั้นต่อไปก็ต้องแก้ไขและเดินหน้าต่อไป
ได้เห็นคนรุ่นใหม่มีไอเดียเจ๋งๆ จากจุดเริ่มต้นที่ต้องการแก้ไขปัญหาให้กลายเป็นโอกาส! ทั้งยังมุ่งมั่นพัฒนาจนนำมาสู่การสร้างรายได้ สร้างอาชีพ สร้างความสำเร็จให้ตัวเองได้เช่นนี้ อยากสนับสนุนให้ทุกคนลองทบทวนและค้นหาโอกาสให้ตัวเองแบบนี้เยอะๆ จัง ไม่แน่ว่า…วันข้างหน้าเราอาจกลายเป็น Startup เลือดใหม่อีกราย ก็เป็นได้!.
Copyright © MarketingOops.com