แอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน หรือแม้แต่บนคอมพิวเตอร์ (ในลักษณะ Web base คือทำงานผ่านอินเทอร์เน็ต) หลายคนอาจจะคิดถึง Line, Facebook, Twitter, Google ซึ่งมีปริมาณคนใช้ เฉพาะในประเทศไทยก็หลายสิบล้านคนต่อแอพพลิเคชั่นแล้ว ฟังแล้ว ว้าว!! ทันที เพราะนั่นคือบริการสำหรับลูกค้าทั่วไปและพัฒนาโดยบริษัทต่างประเทศ
แต่สำหรับ ไผท ผดุงถิ่น หรือ คุณโบ๊ต ผู้ก่อตั้ง Builk.com แอพพลิเคชั่นแพล็ตฟอร์มระบบหลังบ้าน สำหรับผู้รับเหมาก่อสร้างโดยเฉพาะที่มีผู้ใช้งานประมาณ 8,500 บริษัทอยู่ในวันนี้ บอกตั้งแต่เริ่มคุยกันว่า
“Builk ไม่ใชแอพพลิเคชั่นที่เซ็กซี่ ไม่มีคนใช้เป็นล้าน แต่เรารู้ pain point ของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เราให้บริการเฉพาะกลุ่ม เน้นบริหารข้อมูล และสามารถรับรู้รายได้จริง นี่คือสิ่งที่ Startup ต้องมองให้ออก” คุณโบ๊ต กล่าว
Builk บริหารรายได้ คุมรายจ่ายเพื่อธุรกิจรับเหมา
คุณโบ๊ต บอกว่า ส่วนตัวคลุกคลีอยู่ในวงการรับเหมาก่อสร้างมาตลอด เพราะเป็นธุรกิจของที่บ้าน และได้เห็นว่าปัญหาของผู้ประกอบการคือ ไม่มีวินัยในทางบัญชี ใช้การหมุนเงิน หมุนแรงงาน หมุนวัสดุก่อสร้างในหลายๆ โครงการ สุดท้ายถ้าบริหารจัดการไม่ดี ก็จะขาดทุนและทิ้งงาน ดังนั้นถ้ามีการบริหารจัดการระบบอย่างดี น่าจะช่วยธุรกิจมีสภาพที่ดีขึ้นได้
ดังนั้นเป้าหมายแรกของ Builk คือ เปลี่ยนวัฒนธรรมของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ให้ทำงานอย่างเป็นระบบ ซึ่งกลายเป็นสิ่งที่ท้าทายตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เพราะ อย่างที่รู้กันว่า ผู้รับเหมาที่มีอยู่กว่า 800,000 รายทั่วประเทศ ส่วนใหญ่คือ ช่างทั่วไป ที่ทำงานแบบบ้านๆ ไม่ใช้งานอินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟน แต่อยู่ๆ ต้องมาใช้งาน แอพพลิเคชั่น SAAS หรือ Software as a Service
และสิ่งที่จะดึงดูดให้ผู้รับเหมาเปลี่ยนมาใช้ระบบไอที ก็คือ Builk ให้ใช้งานฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย และมีนโยบายชัดเจนว่าจะไม่คิดค่าบริการตลอดชีพ พร้อมกับแสดงให้เห็นประโยชน์ที่จะได้รับ เช่น การควบคุมรายจ่ายจนถึงลดรายจ่าย สั่งซื้อวัสดุและบริหารโครงการอย่างเป็นระบบ ผ่านมา 4 ปีมีผู้ใช้งาน 8,500 ราย คิดเป็น 10% ของตลาดรวม ถือว่ายังน้อย แต่ก็แสดงว่ามีโอกาสเติบโตอีกมาก
ที่สำคัญคือ Builk เป็นซอฟต์แวร์เฉพาะทางที่ต้องการความเข้าใจ ต้องแข่งกับตัวเอง ต้องสร้างตลาดเอง จึงไม่มีคู่แข่งเข้ามาในตลาด
บริหารข้อมูล หัวใจของทุกธุรกิจในปัจจุบัน
ผู้รับเหมา ที่ใช้บริการ Builk จะเก็บข้อมูลของธุรกิจทั้งหมดอยู่ใน Builk ซึ่งเป็นระบบคลาวด์ ถ้าเปรียบเทียบก็คล้ายๆ กับ คนทั่วไปใช้งาน Facebook และเก็บรูป เก็บข้อมูลต่างๆ ไว้นั่นเอง ซึ่งทาง Builk รับประกันว่าข้อมูลทางธุรกิจทั้งหมดเป็นความลับ ไม่มีการเปิดเผยอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่ Builk นำมาสร้างให้เกิดประโยชน์คือ การได้รับรู้ว่า ทั่วประเทศไทยมีโครงการก่อสร้างอะไรเกิดขึ้นบ้าง อยู่ในขั้นตอนไหน ทำให้รู้ความต้องการของตลาด
เมื่อ Builk ให้บริการฟรีไม่มีการเก็บค่าใช้จ่าย ดังนั้น รายได้ในช่วงเริ่มต้นจึงมาจากโฆษณาบนเว็บ และข้อมูลโครงการต่างๆ ซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้รับเหมาก่อสร้างเช่นกัน
“หัวใจคือ เราต้องการยกระดับคุณภาพของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างทั้งระบบ ดังนั้นเรามีความจริงใจกับผู้ใช้งาน และใช้ข้อมูลที่มีเกี่ยวกับโครงการต่างๆ ทั่วประเทศในการสร้างรายได้ ทำให้แบรนด์สินค้าต่างๆ รู้ว่า มีความต้องการสินค้าที่ไหน เช่น ความต้องการใช้งานปูน ความต้องการใช้งานหลอดไฟฟ้า เป็นต้น นี่คือพลังอำนาจของข้อมูล” คุณโบ๊ต กล่าว
พัฒนาสู่ e-Commerce ธุรกิจรับเหมา
วันนี้ Builk เริ่มมีคอมมูนิตี้ที่เข้มแข็งมากขึ้น มีข้อมูลต่างๆ ในอุตสาหกรรมมีมากขึ้น จึงพัฒนาสู่ขั้นต่อไปเป็นเฟส 3 นั่นคือ การให้บริการ e-Commerce ด้านรับเหมาก่อสร้าง เป็นอีกหนึ่งการใช้ประโยชน์จากข้อมูลในมือ เป้าหมายคือ การทำ e-commerce วัสดุก่อสร้างราคาประหยัด ลดต้นทุนให้กับผู้รับเหมา จับคู่ผู้ซื้อ-ผู้ขายให้มาเจอกัน
แต่เดิมรายได้ของ Builk จะมาจากโฆษณา และการบริหารจัดการข้อมูล ซึ่งถือว่าพอเลี้ยงตัวเองได้ แต่หลังจากทำ e-Commerce วัสดุก่อสร้าง ต่อไป Builk จะมีรายได้ที่ชัดเจนมากขึ้น เป็นโมเดลแบบ Win-Win-Win นั่นคือ ผู้ขายวัสดุ สามารถขายได้ในราคาที่ดี ผู้ซื้อได้ซื้อในราคาประหยัด และ Builk ได้ค่าธรรมเนียมเล็กน้อย ทั้งหมดเพื่อยกระดับวงการผู้รับเหมาก่อสร้างให้ดีขึ้น โดยจากการสำรวจผู้ใช้ พบว่าลดต้นทุนได้ 2-4% ต่อโครงการ
คุณโบ๊ต บอกว่า การพัฒนาระบบ e-commerce ของ Builk ยังอยู่ในขั้นต้น มีข้อมูลทำให้รู้ว่าโครงการใดต้องการวัสดุก่อสร้างอะไร แต่สินค้าที่มียังไม่หลากหลาย ต้องหามาเพิ่มอีก การขนส่งยังมีข้อจำกัด และสุดท้ายคือ การชำระเงินยังทำได้แค่เงินสดเท่านั้น ทำให้ Builk ต้องการพันธมิตรในเชิงกลยุทธ์มาช่วยขยายธุรกิจ เช่น พันธมิตรด้านโลจิสติกส์ หรือพันธมิตรสถาบันการเงิน เป็นต้น
“หัวใจของ e-Commerce คือ Logistics และ Fulfillment นั่นคือ ระบบขนส่ง และระบบชำระเงิน ซึ่งยังต้องใช้เวลาในการพัฒนาอีกระยะหนึ่ง ถ้าทุกอย่างสมบูรณ์ ผู้รับเหมาทุกคนบน Builk จะสามารถค้นหาร้านค้าวัสดุก่อสร้าง จับคู่ตามความต้องการ เช่น ราคา ปริมาณ และระยะเวลาการจัดส่ง รวมถึงการชำระเงิน นี่คือการยกระดับทั้งระบบอย่างแท้จริง” คุณโบ๊ต กล่าว
สร้างความแข็งแกร่ง บุกตลาดต่างประเทศ
การทำตลาดต่างประเทศ ได้เน้น 2 ประเทศ คือ ลาว ที่ชื่นชอบสินค้าแบรนด์ของคนไทยอยู่แล้ว จึงสามารถเข้าไปเปิดตลาดด้วยตัวเองได้ไม่ยากนัก แม้การใช้งานจะยังไม่สูงมากแต่มีแนวโน้มที่ดี อีกประเทศคือ อินโดนีเซีย ที่จับมือกับพันธมิตรในท้องถิ่นเพื่อเจาะตลาด มีผู้รับเหมาใช้งานประมาณ 2,000 รายจากทั้งหมด 4 แสนราย เรียกว่ายังมีงานให้ทำอีกเยอะ
ดังนั้นนอกจากในประเทศไทยที่ต้องเดินสร้างทำตลาดแบบเน้นการอบรมสัมมนาเพื่อให้ความรู้แล้ว แน่นอนว่าในต่างประเทศก็ต้องใช้วิธีไม่ต่างกัน เพื่อสร้างการเรียนรู้และดึงให้ผู้รับเหมาก่อสร้างยอมเปลี่ยนแปลงมาใช้ระบบ Builk ในการบริหารจัดการ
ถ้าถามถึงจุดยืนของ Builk ในวันนี้ คุณโบ๊ต ยืนยันว่า เราคือสังคมออนไลน์สำหรับผู้รับเหมาก่อสร้าง ที่มีบริการแบบครบวงจร ตั้งแต่ระบบบริหารจัดการ และบริการซื้อขายวัสดุก่อสร้าง และได้เตรียมเฟสต่อไปสำหรับ Builk ในอนาคตไว้แล้ว แม้ว่าจะไม่ใช้บริการที่เซ็กซี่ดึงดูดใจ แต่รับรองว่าช่วยยกระดับวงการผู้รับเหมาก่อสร้าง และเป็นแรงบันดาลใจให้ Startup ใหม่ๆ ได้แน่นอน