AIS ตอกย้ำความพร้อมให้บริการ 3G เต็มสูบ ล่าสุดขยายเครือข่าย Super 3G ด้วยเทคโนโลยี HSPA บนความถี่ 900 MHz. เพิ่มเติมที่หัวหิน หลังจากเปิดให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ใช้งาน 3G จริงใน 2 พื้นที่คือ เชียงใหม่ และชลบุรี
คุณสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด AIS กล่าวว่า 3G เป็นเทคโนโลยีที่คนไทยทั้งประเทศเฝ้ารอคอย เพราะเป็นอีก 1 โครงสร้างพื้นฐานหลักด้านระบบสื่อสารโทรคมนาคมที่จะเข้ามาเสริมศักยภาพทางการแข่งขัน และอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการเชื่อมต่อเข้าสู่ Online ผ่านเครือข่าย Wireless Boardband ดังนั้นที่ผ่านมาตั้งแต่ พฤษภาคม 2551 ระหว่างรอความชัดเจนจากภาครัฐในการเปิดให้ประมูลในอนุญาต 3G บนคลื่นความถี่ 2.1 GHz AIS จึงนำเทคโนโลยี HSPA (High Speed Packet Access) บนคลื่นความถี่ 900 MHz มาเริ่มใช้บริการจริงในพื้นที่ต่างจังหวัด คือ เชียงใหม่ และชลบุรี ภายใต้แนวคิดไร้ขีดจำกัด AIS Super 3G ซึ่งลูกค้าได้ให้การตอบรับเป็นอย่างดี
“AIS ถือเป็นผู้ให้บริการรายเดียวในตลาดที่ให้บริการจริง (Commercial Trial) อันแสดงให้เห็นถึงความพร้อมและความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ เพราะการที่จะเข้าใจความต้องการลูกค้าได้นั้น ควรต้องให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การใช้งาน Hi Speed Data บน Wireless Broadband อย่างแท้จริงในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการคิดค่าบริการ, รูปแบบของ Application ที่ตรงใจ รวมไปถึงรูปแบบของอุปกรณ์ที่ใช้งาน ซึ่งลูกค้าเองก็ได้ให้คำแนะนำ ทำให้เราทราบถึงความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้า อันจะนำมาเป็นข้อมูลสำคัญที่จะทำให้สามารถพัฒนาบริการได้อย่างสมบูรณ์แบบเมื่อถึงเวลาให้บริการ 3G บนคลื่น 2.1 GHz”
ทั้งที่ล่าสุด AIS เริ่มขยายเครือข่าย Super 3G ไปที่ อ.หัวหิน โดยมีพื้นที่ครอบคลุมตั้งแต่ค่ายพระรามหกจนถึงเขาตะเกียบ ซึ่งนายสมชัยกล่าวว่า “จะเห็นว่า AIS เน้นการทำ Commercial Trial ในพื้นที่ซึ่งมีพฤติกรรมการใช้งานแตกต่างและหลากหลาย โดยเรามีเครือข่ายทั้งที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งจำลองชีวิตคนเมืองที่มีลักษณะทางภูมิศาสตร์เป็นภูเขา, จ. ชลบุรี ที่มีลักษณะเป็นเมืองอุตสาหกรรม และล่าสุดคือ อ.หัวหิน ที่มีลักษณะเป็นเมืองท่องเที่ยวและมีผู้ประกอบการท้องถิ่นจำนวนมาก เนื่องจากในความเป็นจริงแล้วลูกค้าต่างจังหวัดเองก็มีความต้องการใช้งาน Broadband อีกทั้ง พื้นที่ดังกล่าวก็จะมีทั้งผู้ประกอบการท้องถิ่น นักท่องเที่ยว นักธุรกิจ ที่เดินทางเข้า-ออก และต้องการเชื่อมต่อ online ระหว่างเคลื่อนที่ตลอดเวลา AIS ที่มีความแข็งแกร่งเรื่องเครือข่ายจึงให้ความสำคัญที่จะขยายเครือข่าย Super 3G ไปในภฺมิประเทศที่แตกต่างดังกล่าว เพื่อตอบสนองความต้องการ ในขณะเดียวกันก็ได้รับประสบการณ์และเรียนรู้ถึงการพัฒนาเครือข่ายในหลากหลายพื้นที่ด้วย”
ด้านนายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด AIS กล่าวเพิ่มเติมว่า “จากการที่เริ่มให้บริการ AIS Super 3G มาตั้งแต่ปี 2551 พบว่าลักษณะการใช้บริการของลูกค้า จะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ
- 1. การใช้งานแบบ Mobile Broadband ด้วยการใช้ Aircard เชื่อมต่อกับโน๊ตบุ๊คเพื่อเข้าถึงอินเตอร์เน็ตหรือ Online ซึ่งส่วนนี้จะพบว่าได้รับความนิยมมากทั้งกลุ่มที่มใช้งาน HI Speed Data อยู่แล้ว และในกลุ่มใหม่ที่เริ่มเข้ามาใช้งานหลังจากได้สัมผัสประสบการณ์จากเรา
- 2. การใช้งาน Mobile Internet ซึ่งตอบโจทย์ lifestyle คนรุ่นใหม่ที่นิยม Upload ภาพถ่ายหรือ Comment ไปยัง Social Networking ผ่านทางมือถือ รวมไปถึงการดู VDO Clip ผ่านยูทูบ หรือ การดู TV On Mobile ส่วนลักษณะของการคิดค่าบริการตามปริมาณการใช้งานนั้น ลูกค้าก็มีความเข้าใจเป็นอย่างดี นอกจากนี้การที่ AIS เองมีอุปกรณ์ให้เลือกใช้งานได้หลากหลายตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่, Air Card หรือการนำ Wireless Router ,าให้บริการในกลุ่ม Home use ก็ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ปัจจุบันลูกค้าให้การตอบรับและมี Demand ของใช้งานสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงบนโครงข่ายไร้สายเป็นอย่างมาก”
“สำหรับลูกค้าปัจจุบันซึ่งอยู่ในพื้นที่ซึ่งมีเครือข่ายครอบคลุม คือ เชียงใหม่, ชลบุรี และ หัวหิน สามารถเปลี่ยนมาใช้ AIS Super 3G ได้โดยใช้เบอร์เดิม เพียงโทรสมัครบริการผ่าน AIS Call Center เท่านั้น ทั้งนี้โปรโมชั่น Voice Call จะเป็นโปรโมชั่นเดิมที่ใช้งานอยู่ ส่วนโปรโมชั่นการใช้งาน Data จะคิดตามปริมาณการใช้งาน (Volume Base)”
“3G นอกจากจะเป็นเทคโนโลยีที่จะเข้ามาอำนวยความสะดวกเสริมประสิทธิภาพระบบสื่อสารทั้งสำหรับประชาชนทั่วไปและผู้ประกอบการ หรือ องค์กรธุรกิจแล้ว ยังถือเป็นเครื่องมือเสริมศักยภาพทางการแข่งขันให้แก่ประเทศอีกด้วย ดังนั้น AIS ในฐานะผู้ประกอบการจึงมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการส่งมอบเทคโนโลยีดังกล่าวเพื่อประโยชน์แก่ประเทศไทยต่อไป” – นายสมชัย กล่าวย้ำในตอนท้าย
AIS Super 3G เป็นระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ใน Generation ที่ 3 บนมาตรฐาน WCDMA (Wide Band CDMA) ที่คลื่นความถี่ 900 เม็กกะเฮิร์ตซ หรือที่เรียกกันว่า 3G ซึ่งสามารถรองรับการใช้งานรับ-ส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูง (HSPA) ขนาด 7200 กิโลบิทต่อวินาที ซึ่งแตกต่างจาก GPRS หรือ EDGE ปัจจุบันที่ให้ความเร็วเพียง 160 กิโลบิทต่อวินาที หรือต่างกันถึง 45 เท่า ดังนั้นจึงทำให้สามารถมอบบริการต่างๆ ได้เป็นอย่างดี อาทิ อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงบนมือถือ (High Speed Internet), โทรศัพท์แบบเห็นหน้า (Video Call) หรือบริการดาวน์โหลดข้อมูลขนาดใหญ่ในลักษณะของ Video Clip, Video Streaming, Full Song, Music Video ฯลฯ ซึ่ง Super 3G พร้อมที่จะเปิดให้บริการดังกล่าวทั้งหมด
AIS เปิดให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่ 900 MHz ครั้งแรกที่ จ.เชียงใหม่ ในเดือน พฤษภาคม 2551, เปิดให้บริการที่กรุงเทพฯ ในเดือนธันวาคม 2551 และเปิดให้บริการที่ จ.ชลบุรีเมื่อต้นปี 2552