เรื่อง “อาหาร” ไม่ได้เป็นแค่เสน่ห์ของประเทศไทยและคนไทย แต่รสนิยมการกินของคนไทยก็มีเอกลักษณ์ไม่แพ้ชาติอื่น มีร้านอาหารเปิดขายและหลากหลายให้เลือกกิน ตั้งแต่รุ่งเช้าไปจนถึงเช้ามืดของอีกวัน นี่ยังไม่นับเรื่องนิยมกินมื้อใหญ่ ทุกเทศกาลต้องฉลองด้วยอาหารการกินร่วมกับเพื่อนและครอบครัว แต่ไม่ใช่แค่เปิดกว้างกับการกิน เพราะเรื่อง “รสนิยม” คนไทยก็ “เปิดกว้าง” และชื่นชอบวัฒนธรรมอาหารจากต่างประเทศเช่นกัน สังเกตจากเทรนด์การกินที่หันมานิยม “อาหาร – เครื่องดื่ม – ขนม” หน้าตาใหม่ รสชาติใหม่ ๆ ยิ่งทำให้รู้ว่า คนไทยเปิดรับวัฒนธรรมอาหารมากขึ้นเรื่อย ๆ
จากโอกาสของเรื่องนี้ ทำให้ “คุณเป้ – ทศพล พิบูลสงคราม” ตัดสินใจนำร้าน “สตรีท ชูโรส” (Street Churros) คาเฟ่ชื่อดังจากประเทศเกาหลี ซึ่งมีสาขามากกว่า 100 แห่งทั่วโลก เข้ามาเปิดให้บริการในไทย ภายใต้การดำเนินงานโดยบริษัท สกายไรซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด
สนามนี้มี “ไอศกรีม – โดนัท” เป็นคู่แข่ง!
คุณเป้ บอกว่า “แม้ “ชูโรส” จะเป็นขนมใหม่ในกลุ่ม Mass แต่สำหรับคนวัยทำงาน ผู้ที่เคยท่องเที่ยวต่างประเทศ แม้แต่ชาวต่างชาติที่เข้ามาอยู่อาศัย ทำงาน หรือท่องเที่ยวในไทย จะรู้จักขนมชนิดนี้อยู่แล้ว” แต่ไม่ใช่แค่ความนิยมของขนมชูโรส เพราะชื่อของแบรนด์สตรีท ชูโรส เองก็โด่งดัง อย่างที่บอกไปแล้วว่ามีสาขานับ 100 แห่งทั่วโลก ทั้งในเกาหลี ไต้หวัน จีน อเมริกา มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ก็ยังเป็น Global Franchise ที่มียอดขายรวมกว่า 15 ล้านชิ้นอีกด้วย
การเข้ามาบุกตลาด “สแน็ค” หมายความว่าสตรีท ชูโรส จะสามารถแข่งขันได้ในหลายสถานการณ์ ทั้งขนมกินเล่น อาหารว่าง หรือแม้แต่เป็นขนมหวานปิดท้ายมื้ออาหาร จึงทำให้แบรนด์น้องใหม่กลายเป็นคู่แข่งโดยตรงกับแบรนด์ “ไอศกรีม” และ “โดนัท” ที่มีอยู่ในท้องตลาด รวมถึงขนมประเภทแป้งทอดหรืออบด้วย ซึ่งสตรีท ชูโรสมีจุดเด่นคือคุณภาพ นำเข้าวัตถุดิบจากเกาหลี แป้งทอดใหม่ชิ้นต่อชิ้นตามออเดอร์ และบรรยากาศของร้านที่เป็นธีมคาเฟ่ดูอบอุ่นในโทนสีน้ำตาลและสีเขียวมิ้นต์ พร้อมเครื่องดื่มและไอศกรีมซอฟท์เสิร์ฟสำหรับกินคู่กัน
“ถึงคนไทยจะเปิดรับวัฒนธรรมการกินและอาหารจากต่างประเทศ แต่ในแง่ของตลาดขนมยังถือว่าล้าหลังกว่าต่างประเทศโดยเฉพาะเกาหลีอยู่มาก เราจึงมั่นใจว่าการเลือกแบรนด์ที่เป็น Global Franchise เข้ามาทำตลาด และเปิดตัวชูโรสเป็นโปรดักท์แรก จะเป็นจุดเด่นในการเข้ามาเป็นขนมทางเลือกแก่คนไทย และมั่นใจว่ายังไงคนไทยก็ชอบกินขนมและของหวาน”
วางกลยุทธ์ “ติดใจ – อยากลอง” เลือกทำเล “ห้าง” ดูดลูกค้าทั้งเก่าใหม่
คุณเป้ อธิบายว่า การทำธุรกิจภายในศูนย์การค้า ถือเป็นโอกาสและพื้นที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้บริโภคชาวไทย เพราะนอกจากสภาพอากาศเมืองร้อนจะทำให้ห้างกลายเป็นสถานที่โปรดของผู้คนจำนวนมากแล้ว ภายในพื้นที่ยังเป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเดินคนเดียวหรือมากับเพื่อน กับครอบครัว ห้างก็ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้บริโภค แม้ว่าภายในห้างจะมีร้านอาหาร เครื่องดื่ม และขนมเป็นจำนวนมากให้เลือกกิน แต่…
“เราเลือกเปิดสาขาแรก ที่ชั้น 6 เซ็นทรัลเวิลด์ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีผู้ใช้บริการนับแสนคนในช่วงเวลาปกติ มีทั้งนักท่องเที่ยวที่คุ้นเคยกับชูโรสดีอยู่แล้ว มีนักเรียน วัยทำงาน และครอบครัว ถึงบางคนจะไม่เคยรู้จักชูโรสมาก่อนแต่อาจมีเพื่อนหรือคนใกล้ตัวที่เคยกินและบอกต่อถึงความอร่อย หรืออยากลิ้มลองในสักวัน และแม้ว่าภายในห้างจะมีร้านอาหาร ร้านขนมเป็นจำนวนมาก แต่ร้านที่เป็นอินเตอร์แบรนด์หรือ Global Franchise ยังมีไม่มาก จึงมองว่าเป็นโอกาสในการเข้ามาของสตรีท ชูโรส ซึ่งในไทยก็ยังไม่เคยมีร้านขายขนมชูโรสอยู่ในห้างมาก่อน”
หวังขยาย 3 – 4 สาขาภายในปีหน้า ทำรายได้หลักล้านต่อเดือน
หลังจากประเดิมเปิดสาขาแรกไปแล้ว คุณเป้ บอกอีกว่า ตั้งเป้าหมายขยาย 3 – 4 สาขา ซึ่งจะเลือกทำเลอยู่ในห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพฯ ทั้งหมด โดยรอดูผลตอบรับจากสาขาแรก รวมถึงพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ เช่น ด้านนักท่องเที่ยวที่จะเริ่มกลับมาท่องเที่ยว และความมั่นใจของผู้บริโภคที่จะกล้ากลับมาเดินห้างมากหรือน้อย ส่วนงบประมาณการลงทุนสาขาแรกอยู่ที่ 5 ล้านบาท โดยการลงทุนส่วนใหญ่อยู่ที่ด้านการผลิต
ส่วนเรื่องการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย คุณเป้ อธิบายว่า ขนมชูโรสเป็นที่รู้จักในต่างประเทศมาหลายสิบปีแล้ว จึงวางกลุ่มเป้าหมายหลักอยู่ที่ผู้สูงวัย แต่ก็ยังคงมองถึงลูกค้าอื่น ๆ อีก 4 กลุ่ม คือ…
วัยรุ่น กลุ่มนี้ถือเป็นลูกค้าที่มาไวและไปไวมากกว่ากลุ่มอื่น เมื่อแบรนด์มีโปรโมชันก็จะชื่นชอบและอยากลองซื้อทันที และมีพฤติกรรมเดินห้างหลังเลิกเรียน หรือรอผู้ปกครองรับกลับบ้าน
วัยทำงาน เป็นกลุ่มที่ชื่นชอบอาหาร เครื่องดื่ม ขนม ที่ตั้งร้านภายในห้างอยู่แล้ว และเป็นกลุ่มที่เดินห้างบ่อยไม่แพ้กลุ่มอื่น
ครอบครัว หมายรวมถึงกลุ่มเด็ก ๆ ที่มาห้างพร้อมกับครอบครัว ซึ่งกลุ่มนี้เป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีอิทธิพลต่อการซื้อสูงมาก เนื่องจากเด็ก ๆ จะเลือกกินเฉพาะของที่ตนเองชอบ และชูโรสก็เป็นประเภทขนมในลักษณะที่เด็กนิยมกินอยู่แล้ว คือ แป้งทอดกรอบ ยิ่งหากเป็นครอบครัวที่เคยเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศก็อาจเคยรู้จักและกินชูโรสมาบ้างแล้ว ทำให้ติดใจอยากกินอีกครั้ง
นักท่องเที่ยว ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มหลัก เนื่องจากมีความคุ้นเคยและนิยมกินขนมชูโรสอยู่แล้ว
“เรามั่นใจว่าทำราคาอยู่ในระดับที่แข่งขันได้กับธุรกิจกลุ่มเดียวกัน สินค้าหลักคือชูโรส แต่ก็ต้องเติมเต็มความต้องการลูกค้าให้ครบ ทั้งไอศกรีม กาแฟ ชาไข่มุก อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ห้างเพิ่งกลับมาเปิดให้บริการแบบครบวงจร แต่รายได้จากการขายของเรากว่า 75% ก็ยังมาจากหน้าร้าน และอีก 25% มาจากแอปเดลิเวอรี่ โดยเราพยายามเน้นการจัดโปรโมชันเป็นเมนูเซ็ต 200 – 250 บาท เพื่อเพิ่มยอดขายต่อบิล ซึ่งคาดหวังรายได้เบื้องต้น 1 – 1.5 ล้านบาทต่อเดือน จากโอกาสที่มีอยู่ในตลาดไอศกรีมและโดนัทซึ่งมียอดขายหลายร้อยล้านบาทต่อปี”
หากสตรีท ชูโรส เข้ามาเปิดตลาดชูโรสที่ขายบนห้างแล้วจะมีคู่แข่งรายอื่นเกิดขึ้น ก็เชื่อว่ามีโอกาสเป็นไปได้ แต่เรามั่นใจในจุดแข็งกับการเป็น Global Franchise ที่ให้ความสำคัญกับวัตถุดิบและบรรยากาศร้านเหมือนต้นฉบับในเกาหลี แม้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้สถานการณ์การใช้จ่ายของผู้บริโภคและพฤติกรรมการเดินห้างอาจยังไม่กลับมาคึกคักเหมือนช่วงก่อนเกิด COVID-19 ซึ่งในเดือนสิงหาคมทางร้านจะมีการเปิดตัวโปรดักท์ใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดผู้บริโภคและสร้างสีสันในการกินชูโรสมากขึ้นด้วย
เตือน “Entrepreneur” ยุค COVID-19 ห้ามตัดเส้นเลือดใหญ่ตัวเอง!
คุณเป้ ได้เล่าถึงมุมมองการทำธุรกิจว่า จากประสบการณ์การทำงานทั้งจากสายเอเยนซี่ สายโทรคมนาคม และค้าปลีก ทำให้รู้ว่าการที่ทุกคนมีฝันเป็นเจ้าของธุรกิจอะไรสักอย่างนั้น มีคำแนะนำอย่างหนึ่งคือ “ไม่ควรเลือกเป็น Entrepreneur 100% แต่ต้องมีเส้นเลือดใหญ่ที่แข็งแรง เดินไปพร้อมกัน” เพราะในยุคนี้สถานการณ์และเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน แม้การลงทุนธุรกิจใหม่ ๆ สามารถทำได้แต่ต้องทำด้วยความระมัดระวัง
“ผมมีแจ็ค หม่า เป็น Inspire ในการดำเนินธุรกิจ เคล็ดลับส่วนตัวคือการนำประสบการณ์จากการทำงานในสายการพัฒนาธุรกิจกับ CPN (บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา) เข้ามาปรับใช้กับธุรกิจแรกและบริษัท สกายไรซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ ได้ค่อนข้างมาก เพราะทำให้เรารู้จักพฤติกรรมและเทรนด์ของผู้บริโภคในการใช้จ่ายภายในห้างมากขึ้น และมั่นใจว่าขนมกลุ่มอินเตอร์แบรนด์ยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้คน”