พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์รับหิ้วของจากญี่ปุ่นเตรียมตัวให้พร้อม เพราะตอนนี้ทาง Shopee ได้เปิดตัวเวบไซต์ Shopee japan เพื่อรับสมัคร ‘แบรนด์และร้านค้าในญี่ปุ่น’ ให้มาเปิดร้านของตัวเองขายตรงสู่ผู้บริโภคโดยไม่ผ่านคนกลางใน 5 ประเทศ สิงคโปร์ , ไต้หวัน , มาเลเซีย , อินโดนีเซีย และไทย
เวบไซต์ดังกล่าว ยังไม่ได้บอกถึงวันเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ แต่มีการรายงานถึงรายละเอียดของ Shopee ว่า เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 ที่ประเทศสิงคโปร์ ปัจจุบันมีการใช้งาน 8 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย ไต้หวัน อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และบราซิล โดยทุกวันมีผู้บริโภคหลายสิบล้านคนมาช้อปออนไลน์ผ่าน Shopee
สำหรับตอนนี้ Shopee Japan ได้เปิดรับร้านค้าและแบรนด์ต่าง ๆ เข้ามา การส่งสินค้าจากญี่ปุ่นถึงลูกค้าโดยตรงไม่ผ่านคนกลางให้บริการใน 5 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ , ไต้หวัน , มาเลเซีย , อินโดนีเซีย และไทย
โดยการบริการตอนนี้ไม่มีค่าธรรมเนียมเริ่มต้นและค่าธรรมเนียมการใช้งานรายเดือน , มีพนักงานให้คำแนะนำและสนับสนุนผู้ขายเป็นภาษาญี่ปุ่น , มีแพลตฟอร์มรองรับภาษาอังกฤษ จีน และเกาหลี รวมถึง Shopee จะสนับสนุนค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศส่วนหนึ่งเพื่อลดภาระให้กับผู้ขาย (ตามเงื่อนไข)
พร้อมระบุว่า สินค้าที่สั่งซื้อจะจัดส่งโดยตรงจากญี่ปุ่นมาถึงลูกค้าภายใน 48 ชั่วโมง และหากเป็นสินค้าพรีออเดอร์ผู้ขายจะจัดส่งให้ผู้ซื้อไม่เกิน 10 วัน
‘พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์’ ต้องเตรียมตัว
ด้าน ‘ธนาวัฒน์ มาลาบุปผา’ นายกสมาคมอีคอมเมิร์ซไทย บอกกับทาง Marketing oops! ว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ของ Shopee น่าจับตามองมาก ในมุมนี้ถือว่าดีต่อผู้บริโภค เพราะการที่แบรนด์หรือร้านค้ามาทำ official shop เองจะทำให้ได้สินค้าในราคาถูก และมีความน่าเชื่อถือ
ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่รับออเดอร์นำสินค้าจากญี่ปุ่นมาขายนั้น จะได้รับผลกระทบอย่างแน่นนอน ซึ่งก่อนหน้านี้เราได้เห็นตัวอย่างมาแล้วจากกรณีที่ Shopee ไปดีลแบรนด์จีนมาเปิดขายแบบโดยตรงไม่ผ่านคนกลาง ดังนั้น จึงอยากจะขอแนะนำพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ไทยทั้งหลายหันมาสร้างแบรนด์ของตัวเอง เน้นสร้างความน่าเชื่อถือ และบริการที่ดี ไม่เช่นนั้นจะอยู่ได้ยาก เพราะตอนนี้อีคอมเมิร์ซ คือ สนามการค้าที่ไม่มีพรมแดนอีกต่อไป
ที่มา : shopee.jp