ประเด็นการประท้วงต่อต้านเรื่องการเหยียดสีผิว ที่จุดชนวนเริ่มต้นมาตั้งแต่สหรัฐอเมริกา จนตอนนี้ลุกลามใหญ่โตไปทั่วโลก ท่ามกลางปัญหาการระบาดของไวรัส COVID-19 ที่กว่า 200 ประเทศกำลังเผชิญหน้าอย่างยาวนานกว่า 5 เดือน นั่นหมายความว่า ผลกระทบทางธุรกิจนั้นขยายเป็นวงกว้าง ขณะที่ธุรกิจขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ พยายามมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูประเทศให้รอดพ้นจากวิกฤตนี้ และต้องการแสดงพลังบวกเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
ประเด็นนี้จึงทำให้ Aurora James ผู้ก่อตั้ง Brother Vellies บริษัทที่สร้างสรรค์และสนับสนุนงานศิลปะ งานแฟชั่น และงานฝีมือสไตล์แอฟริกัน ได้ออกมาโพสต์ใน Instargram เรียกร้องให้เหล่าธุรกิจยักษ์ใหญ่อย่าง Whole Foods, Saks, Target, Walmart และ Sephora หันมาสนับสนุนสินค้าและธุรกิจของคนผิวสีมากขึ้น เนื่องจากได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ด้วยเช่นกัน หรืออาจจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ
ดังนั้น Aurora James จึง challenges ผู้ค้าปลีกทั้งหลายช่วยกันออกมาแบ่งพื้นที่ 15% ให้กับสินค้าที่มีเจ้าของเป็นชาวผิวสี เพื่อสนับสนุนสินค้าของพวกเขามากขึ้น ให้มีจุดยืนเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น
ล่าสุด Sephora ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ของโลก ศูนย์รวมเครื่องสำอางเค้าเตอร์แบรนด์ชั้นนำจากทั่วโลก เป็นเจ้าแรกที่ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่า ทุกร้านทุกสาขาของ Sephora จะแบ่งพื้นที่ในร้าน 15% สำหรับวางสินค้าแบรนด์ที่เป็นเจ้าของโดยชาวผิวสี อีกทั้งยังประกาศด้วยว่า ทางร้านจะช่วยค้นหาวิธีเพื่อสนับสนุนแบรนด์ของคนผิวสีให้เป็นที่รู้กันกันอย่างแพร่หลายมากขึ้นด้วย
อีกทั้งยังโพสต์ใน Instragram ด้วยว่า “เราจะใช้ความรู้ทั้งหมดที่เรามีช่วยและพัฒนาแบรนด์ของพวกเขาให้ดีขึ้น เราจะ take action เพื่อสนับสนุนพวกเขากับความสำเร็จในระยะยาว”
ทั้งนี้ แบรนด์สินค้าที่มีเจ้าของเป็นคนผิวสีที่ทั่วโลกน่าจะพอรู้จักกันดี เช่น Briogeo ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมจากธรรมชาติ, แบรนด์ Fenty Beauty ของ Rihanna, แบรนด์ Pat McGrath Labs และ Qhemet Biologics ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม เป็นต้น
ที่มา : newbeauty