“ความสำเร็จบางอย่างต้องขับเคลื่อนด้วยเป็ด และคนที่เก่งเฉพาะทางมาก ๆ คนหนึ่งก็อาจผ่านการเป็นเป็ดมาก่อน”
หนึ่งในประโยคน่าสนใจจากการได้พูดคุยกับ วู้ดดี้ – ธนพล ศิริธนชัย ประธานอำนวยการ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือโกลเด้นแลนด์ ในงานทอล์กไม่ธรรมดาอย่าง WORST OF THE BEST ทอล์กที่เหล่า THE BEST จะมาเล่าอีกด้านของเส้นทางสู่ความสำเร็จ ที่ถูกจัดขึ้นโดย บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นแลนด์ องค์กรที่ให้น้ำหนักอย่างมากกับเรื่อง ‘การสร้างคน’ เราจึงไม่แปลกใจที่บริษัทเลือกจัดทอล์กโดยเลือกกลุ่มผู้ฟังหลักเป็นเด็กวัยรุ่นที่กำลังจะก้าวไปสู่การเป็นผู้ใหญ่
ความสำเร็จบางอย่างต้องขับเคลื่อนด้วยเป็ด
วู้ดดี้ – ธนพล ศิริธนชัย: ปรัชญาของ โกลเด้นแลนด์ คือ การพัฒนาทุกอย่างโดยทำอย่างดีที่สุด หรือ Developing The Best ทีนี้เราก็กลับมามองในแง่ของสังคม ถ้าเราอยากจะพัฒนาสิ่งที่ดีที่สุดเราต้องเริ่มจาก ‘คน’ และเรามองว่าเด็กในวัยที่กำลังจะก้าวข้ามไปสู่การเป็นผู้ใหญ่คือกลุ่มที่เราคิดว่าเหมาะในการพัฒนา ซึ่งจากการที่สำรวจเด็กในวัยนี้มักจะยังไม่รู้ว่าตัวเองมีศักยภาพอะไรและอยากจะเลือกเดินทางไหน พอเราจับตรงนี้ได้ เราก็ไปดูที่มุมมองต่อความสำเร็จของเด็กในวัยนี้ ซึ่งเด็กส่วนมากเค้าจะมีไอดอลในแขนงต่างๆเป็นของตัวเอง และเค้ามักจะโฟกัสไปที่ความสำเร็จของคนที่เค้าชื่นชม ก็จะเกิดความคิดตามมาว่าเค้าอยากจะเป็นแบบนี้ เค้าอยากจะทำสิ่งนั้น แล้วเดี๋ยวนี้ก็มีอาชีพใหม่ๆเยอะ อย่างบาริสต้า บล็อกเกอร์ หรือพวกสตาร์ทอัพ สิ่งที่เราอยากให้เด็กมองไปถึงคือก่อนหน้าที่ไอดอลเค้าจะประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ คนพวกนั้นผ่านอะไรมาบ้าง ระหว่างทางเค้าเจออะไร เราจึงชวนสปีกเกอร์มาพูดถึงอุปสรรคและความล้มเหลว ซึ่งแค่เรามีฝันอาจจะไม่พอ พวกเค้าต้องมีความอดทน ต้องล้มเพื่อเรียนรู้ ต้องผิดหวัง นั่นคือสิ่งที่เหล่าคนประสบความสำเร็จเจอกันมาหมดทุกคน มันเป็นจุดที่เราอยากให้เด็กได้คิดตรงนี้ เลยสื่อออกไปให้เข้าใจง่ายๆเป็นเรื่องของ ‘เป็ด’ ซึ่งเราไม่ได้บอกว่าการเป็นเป็ดนั้นดีหรือไม่ดี อย่างงานบางอย่างก็ต้องใช้เป็ด ความสำเร็จบางอย่างต้องขับเคลื่อนด้วยเป็ด และคนที่เก่งเฉพาะทางมาก ๆ คนหนึ่งก็อาจผ่านการเป็นเป็ดมาก่อน
การเป็นเป็ดอาจทำให้เราได้ลอง ได้เจออะไรกว้างๆ ได้รู้ว่ามันยังมีสิ่งที่ชอบมากกว่า หรือยังมีสิ่งที่เราทำได้ดีกว่านี้จากการได้เอาตัวเองไปทดลองกับหลายๆอย่าง โดยคอนเซ็ปต์มันจึงม้วนกลับมาเป็น WORST OF THE BEST ในวันนี้ ซึ่งมันเป็นหนึ่งส่วนในพอยต์ใหญ่ที่เราอยากจะพัฒนาคือเรื่อง ‘การศึกษา’ แต่ถึงจะเป็นจุดเริ่มต้นเราก็อยากทำให้ดีที่สุด เริ่มจากการจุดประกายให้เด็กวัยหัวเลี้ยวหัวต่อได้ ‘คิด’ ได้ตกผลึกในสิ่งที่เห็นออกมาได้หลาย ๆ มุม เราสอนเด็กได้ด้วยวิธีที่หลากหลาย การสอนไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นแค่ในห้องเรียน เพราะการศึกษาทั้งหมดในปัจจุบันนี้มันคือ ‘การเรียนรู้’
‘เป็ด’ ถูกยกมาเป็น issue ในการทอล์คครั้งนี้เพราะอย่างที่เราทราบกันดีว่า เป็ดเป็นสัตว์ที่ว่ายน้ำได้ แต่ก็ไม่ดีเท่าปลา บินได้แต่ก็ไม่เก่งเหมือนนก เปรียบเสมือนคนที่ทำอะไรได้หลายอย่าง แต่ไม่เก่งสักอย่าง WORST OF THE BEST จึงเป็นงานทอล์กที่ทำให้เราได้ฉุกคิดได้ว่า…ในเมื่อโลกนี้มีทั้งคนเก่งแบบปลาและเก่งแบบนกแล้ว ทำไมเราจะเก่งแบบเป็ดไม่ได้ล่ะ?
“ส่วนตัวแล้วผมเชื่อว่า “เป็ด” มีข้อดี
คนที่มีความสามารถหลากหลายย่อมน่าสนใจ
หนังเรื่องนี้พูดถึง “เป็ด” ในมุมชวนคิด
ว่า “เป็ด” อาจเกิดจากการที่เราไม่เอาจริงสักทาง
คนที่ทำได้หลายอย่าง แต่ไม่ถนัดเลยสักอย่าง
อาจทำให้อนาคตไม่ชัดเจน“เป็ด” อาจไม่ได้ผิด
แต่การเป็น “เป็ด” ที่มีความถนัดชัดๆ สักอย่าง
เช่น เป็นเป็ดที่ว่ายน้ำเก่ง เป็นเป็ดที่บินได้สูง
ย่อมทำให้เราเป็น “เป็ด” ที่แตกต่าง
กระทั่งวันหนึ่งที่เราถนัดในสิ่งนั้นมากๆ
เราอาจไม่ต้องเป็น “เป็ด” อีกต่อไปหนังเรื่องนี้มีเรื่องราวชวนคิดว่า
คนเราถ้าจะทำอะไรก็ควรทำได้สุดทาง ให้ดีที่สุด
ไม่เพียงหนังที่น่าสนใจ งานทอล์คก็น่าสนใจอย่างยิ่ง
ฟังแล้วอาจได้แรงบันดาลใจในการเลิกเป็น “เป็ด”
หรือเป็น “เป็ด” ที่แตกต่างจาก “เป็ด” ทั่วไป
เพราะ speaker แต่ละคนก็ “สุด” ในทางของตัวเองทั้งนั้น น่าดู น่าฟังครับ”– นิ้วกลม –
WORST OF THE BEST เป็นเสมือนพื้นที่ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อส่งผ่านพลังจากเหล่าสปีกเกอร์ตัวเอทั้ง 7 คน จาก 6 สายอาชีพ อันได้แก่
1. สายใย สระกวี Head of Communications and Public Affairs จาก Google Thailand
“ถ้าเราเป็นเป็ด เราต้องเป็นเป็ดที่อร่อย เป็ดที่ใครๆก็อยากกิน” หนึ่งในประโยคบอกเล่าจาก สายใย สระกวี จาก Google Thailand สปีกเกอร์คนแรกที่ขึ้นมาแชร์เรื่องราวระหว่างทางในฐานะเด็กเรียนไม่เก่ง ก่อนจะได้มาทำงานกับองค์กรที่คนทั่วโลกใฝ่ฝันแน่นอนว่าการจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งใน Google ได้ เธอต้องแข่งกับคนมากมายที่มี passion ไม่น้อยไปกว่าเธอ
2. โอ๊ต-ชัยสิทธิ์จุนเจือดี ช่างภาพคิวทองผู้ติดอันดับ 1 ใน 20 ช่างภาพที่ดีที่สุดในโลก (Wedding and Non Wedding Photography แห่ง PAAP Production) อันดับที่เขาได้มานั้นเข้ามาพร้อมกับความคาดหวังที่ต้องพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่เสมอ การเดินในเส้นทางที่มีคนเก่งอยู่ทั่วโลกเช่นช่างภาพนั้นไม่ง่าย สิ่งที่ผลักดันและทำให้เขายังคงอยู่ในเส้นทางนี้ได้อย่างสตรองและภาคภูมิคือ การซื่อสัตย์ในสิ่งที่ตัวเองรัก และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
3. เต้-วรัตต์ วิจิตรวาทการ เจ้าของธุรกิจร้านอาหารและร้านกาแฟ Roast, Roots Coffee, theCOMMONS ตัวอย่างของคนรุ่นใหม่ที่ขีดเส้นทางให้ตัวเอง ก่อนจะพบว่าเส้นทางของเขานั้นไม่ง่าย จากร้านเล็กๆ 8 ที่นั่งของผู้ที่หลงใหลในกาแฟ สู่ community space ที่ต้องคิดให้มากกว่าการชงกาแฟ กำเนิดขึ้นจากสกิลความอดทน ความทะเยอทะยานที่มากพอ และวิสัยทัศน์ที่กลั่นจากประสบการณ์ แน่นอนว่าระหว่างทางคุณเต้ต้องผจญกับอุปสรรคและสภาพเศรษฐกิจที่คาดเดาไม่ได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกันนั้นคือความสนุก และความสุขที่ได้ลงมือทำและทดลองในเส้นทางธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม จง Keep trying, Keep doingคือคำจำกัดความประสบการณ์ของคุณเต้ได้ชัดเจนเห็นภาพที่สุด
4. หมอหมู-มานพ พิทักษ์ภากร คุณหมอที่ควบงานรักษาคนไข้และวิจัยยาแห่งอนาคต โรงพยาบาลศิริราช เราค่อนข้างเซอร์ไพรส์กับสปีกเกอร์ท่านนี้ เพราะน้อยครั้งที่จะไปงานทอล์กแล้วเจอหมอ หมอหมูเป็นหนึ่งในบุคคลตัวอย่างที่ทำให้เราเห็นความหายของคำว่า ‘อดทน’ และ ‘จิตอาสา’ อย่างเป็นรูปธรรมในฐานะแพทย์เพียงคนเดียวจากประเทศไทยที่ทำงานร่วมกับองค์กรสาธารณสุขระดับโลก ก่อนจะเลือกกลับเมืองไทยเพื่อนำประสบการณ์และความรู้มาพัฒนาวงการแพทย์ในบ้านเรา แม้จะมีโอกาสและเส้นทางอนาคตที่สวยงามในเมืองนอกก็ตาม เป็นตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นว่าความเนิร์ดสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้มวลมนุษย์ได้ แม้คุณจะทุ่มเทศึกษาวิจัยงานอยู่กับตัวเองเงียบๆ แต่เมื่อความสำเร็จเกิดขึ้นแล้ว นั่นคือนาทีที่โลกต้องหันมามองคุณ
5. ท้อป-ศรัณย์ ภิญญรัตน์ และ พาย- ปิยะพงษ์ หมื่นประเสริฐดี เจ้าของเว็บ Fungjai เว็บเพลงอินดี้ที่ป๊อปที่สุดในยุคนี้ แฉเบื้องหลังความเหน็ดเหนื่อยอย่างหฤโหดของบทบาท CEO บริษัทสตาร์ทอัพที่ต้องลงไปทำงานทุกอย่างแทนลูกน้องได้ และรันธุรกิจด้วยงบประมาณส่วนตัวที่เก็บหอมรอมริบมาได้จากงานฟรีแลนซ์ยิบย่อยมาตลอดหลายปี อาศัยลูกอึด แรงผลักดัน และความเนิร์ดจนเกิดเป็นพื้นที่และชุมชนของศิลปินและผู้ฟังดนตรีที่กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
6. ด้วง-ดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิกและนักสร้างสรรค์ ผู้พัฒนา Jam Factory, Warehouse30 และ DBALP พี่ด้วงถ่ายทอดเรื่องราวความทำงานแบบเป็ดของเขาออกมาได้อย่างดุเด็ดเห็นภาพ ในฐานะสถาปนิกมากประสบการณ์ที่ผ่านงานมาหลายรูปแบบ พี่ด้วงย้ำเสมอว่า หากคุณลงมือทำ…อย่างน้อยยังมีโอกาส 50:50 ที่ผลของมันอาจจะออกมา worst หรือ best แต่หากคุณไม่กล้าทำเพราะคุณกลัว นั่นเท่ากับทุกอย่างคือศูนย์อย่าง 100%
ผู้ฟังส่วนมากในงานคือเด็กมัธยมปลายวัยละอ่อนที่กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านของชีวิต WORST OF THE BEST จึงต้องไม่ใช่งานที่สร้างแรงบันดาลใจแบบฉาบฉวย แต่เป็นการแฉ ‘ความจริง’ เบื้องหลังความสำเร็จที่แตกต่างกันของสปีกเกอร์ทั้ง 7 คน ที่ล้วนแต่เคยเกลือกกลิ้งกับอุปสรรค ความล้มเหลว ‘ความ WORST’ และต่อสู้กับมันอย่างถึงที่สุดจนพาตัวเองมาแตะในจุดที่ BEST ได้ในวันหนึ่ง
ระยะเวลากว่าสี่ชั่วโมงในงาน WORST OF THE BEST อัดแน่นไปด้วยแรงบันดาลใจสไตล์หักดิบ กระตุ้นคนทุกหมู่เหล่าทั้งเด็ก ๆ และไม่เว้นวัยทำงานอย่างเรา สัมผัสได้ถึงพลังบวก พลังอึด พลังสร้างสรรค์จากเหล่าสปีกเกอร์ ผสานกับแววตามุ่งมั่นและตั้งใจฟังจากเด็ก ๆ ซึ่งมีปฏิสัมพันธ์ร่วมถาม-ตอบกับเหล่าสปีกเกอร์อยู่ต่อเนื่องทำให้เวลาสี่ชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ให้ฉุกคิดพิจารณาถึงศักยภาพและความชอบของตัวเอง คนเราพัฒนาตัวเองได้ในทุกช่วงอายุ เราสามารถเจอสิ่งใหม่ที่ชอบมากกว่าและถนัดมากกว่าได้ทุกวัน เพราะฉะนั้นจงอดทนต่อการค้นหาและทดลองทำ ปลาไม่มีวันได้บิน เช่นกันกับนกที่จะไม่ว่ายน้ำ แต่เป็ดได้ทำในสิ่งที่ทั้งนกและปลาไม่เคยทำก่อน จงเชื่อมันในศักยภาพของตัวเอง วันหนึ่งคุณจะเป็นเป็ดที่เก่งขึ้นจนนกต้องก้มหน้าและปลาต้องแหงนมองอย่างแน่นอน
หากคุณสนใจ สามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Worst of the Best