บริษัท เดนท์สุ มีเดีย (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะหนึ่งในผู้นำเอเจนซี่โฆษณาในประเทศไทย และผู้ผลิตนวัตกรรมด้านการโฆษณา ได้จัดงาน “Media Decoded 2015” เพื่อแนะนำรูปแบบการโฆษณาใหม่ด้วยการนำเทคโนโลยีมาช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมโฆษณาดิจิตอลในประเทศไทยโดยเฉพาะสื่อเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคและแบรนด์ พร้อมกับสร้างโอกาสในการพัฒนาธุรกิจและสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างองค์กร และนำมาต่อยอดในการสร้างกลยุทธ์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถเพิ่มรายได้และลดข้อจำกัดในการดำเนินธุรกิจ
ทั้งนี้ ในงานมีตัวแทน Publisher และแพล็ทฟอร์มดังจากต่างประเทศมาร่วมงาน อาทิ Nikkei, Outbrain, BeOn, Openx และ Teads โดยมี ชาญชัย พงศนันทน์Director บริษัท เดนท์สุ มีเดีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวสรุปการสัมมนา ดังนี้
การสัมมนาถอดรหัส มีเดีย 2015 ในแง่ของ service ต่างๆ ที่มีให้กับทาง Publisher มีตัวเลือกค่อนข้างหลากหลายมาก เราต้องเลือกดูว่าแพล็ทฟอร์มไหน หรือว่า service ไหนเหมาะกับการที่เอามาใช้กับเว็บไซต์ของเรา
สำหรับของ Nikkei ทุกคนน่าจะได้เห็นเรื่องของการแชร์ประสบการณ์ ในแง่ของการจัดการคอนเท้นต์ และเห็นว่าการทำออนไลน์นั้นสามารถเป็นช่องทางในการสร้างรายได้ให้กับหนังสือพิมพ์ได้ด้วย ด้วยเทคนิคการนำคอนเท้นต์จากสื่อดั้งเดิมมาไว้ในออนไลน์ รวมไปถึงการคิดเรื่อง subscriber ว่าเขาสามารถหารายได้จากการรับสมาชิกที่มา subscribe ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ และยังใช้เรื่องของ programmatic บนเว็บไซต์อีกด้วย เพื่อเป็นรายได้อีกช่องทางหนึ่ง
ส่วนอีก 4Platformer ได้แก่ Outbrain, BeOn, Openx และ Teads เป็นการสะท้อนว่าปัจจุบันนี้ไม่ได้มีส่วนของโฆษณาที่เป็นดิสเพลย์อย่างเดียวเท่านั้น แต่เราต้องมองไปที่ “คอนเท้นต์ มารเก็ตติ้ง” ด้วย ที่สำคัญคือ ตอนนี้เริ่มเป็นเทรนด์ที่น่าสนใจทั้งกับ Publisher และ Brand ต่างๆ ที่หันมาสนใจการครีเอท คอนเท้นต์มากขึ้น เพราะเขาทราบดีว่าปัจจุบันผู้บริโภคเริ่มไม่เชื่อโฆษณา ดังนั้น อยากให้ Publisher ทุกเจ้าลองพิจารณาดูว่าเว็บไซต์ของเราพร้อมที่จะรับโฆษณาในรูปแบบนี้แล้วหรือยัง
รวมถึงอีก 2 แพล็ทฟอร์ม ทั้งอ BeOn และ Teads เราจะเห็นว่าวิดีโอ แอดเวอร์ไทซิ่งในเมืองไทย ได้รับการตอบรับค่อนข้างดีมาก อย่างไรก็ตาม เราจึงอยากให้ Publisher และ Brand มองเห็นถึงโอกาสต่างๆ และการหาโซลูชั่นหรือแพลทฟอร์มอื่นๆ ที่มีความสามารถรองรับความต้องการของแบรนด์หรือของลูกค้าของเราได้
“ที่สำคัญคือให้ได้รู้ว่าโฆษณาวิดีโอมันไม่ได้มีแค่แพลทฟอร์มเดียว ถ้าเรารู้ว่าเว็บไซต์ของเราสามารถรองรับโฆษณาในรูปแบบวิดีโอในแบบอื่นๆ ที่ทำให้เกิดความดีเลิศกับผู้ใช้ได้ ผมก็มองว่าเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้รู้จักลูกค้าของเรามากขึ้น”
Ad Blocking จะเห็นว่า 3 ใน 4 แพล็ทฟอร์มเมอร์นี้ มีการพูดถึง Ad Blocking แล้ว และค่อนข้างจะเป็นเทรนด์ที่อันตรายมากสำหรับ Publisher ทุกคนรู้อยู่แล้วว่ามือถือเป็นดีไวซ์ที่เจอเว็บไซต์ของเราได้มากที่สุด และยังสร้างทราฟฟิคเข้ามาในเว็บไซต์ของเราได้เยอะมาก และถ้าวันหนึ่งผู้ใช้ iPhone ใช้ Ad Blocking โฆษณาลูกค้าที่ลงเว็บไซต์ของเราไม่ถูกส่งไปถึงกลุ่มเป้าหมายล่ะ เราจะทำอย่างไร เพราะฉะนั้นโอกาสที่แบรนด์ต่างๆ ควรจะต้องเริ่มหันมาใช้โฆษณารูปแบบอื่นๆ เช่น อาจจะเป็นเรื่องของคอนเท้นต์ มาร์เก็ตติ้ง หรือใช้วิดีโอ คอนเท้นต์มากขึ้น ก็อาจจะเป็นช่องทางหนึ่งที่ลูกค้าเอามาพัฒนาในเชิงของการอ่านเว็บไซต์ของตัวเองได้
สุดท้ายเรื่องของ programmatic เชื่อว่าทุกท่านน่าจะได้ยินหรือได้รับการรีเควสจากทั้งลูกค้าเอง หรือว่าเอเจนซี่เองก็แล้วแต่มากขึ้นในปีนี้ และผมคิดว่าปีหน้าน่าจะเป็นปีที่ programmatic จะเป็นสัดส่วนที่มีปริมาณของลูกค้าหรือแอดเวอร์ไทเซอร์มากขึ้น ขอให้ลองพิจารณาดูว่าเราจะจัดการกับวัตถุดิบอย่างไร ในการสร้างรายได้ให้มากขึ้น นอกเหนือจากการที่เราพึ่งพาเฉพาะพาร์ทเนอร์ที่เป็นเจ้าใหญ่เจ้าเดียวในเมืองไทย ลองพิจารณาพาร์ทเนอร์เจ้าอื่นเราจะขยายวัตถุดิบในการรองรับ programmatic media ในอนาคตได้.
