ทักษะทางดิจิทัลถือเป็นหนึ่งใน Pain Point ของผู้ประกอบการและ SME หลายยุคหลายสมัย และเมื่อวิถีชีวิตของผู้คนต้องหันไปพึ่งพาออนไลน์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เรื่องนี้จึงกลายเป็นทั้งโอกาสและปัญหาของผู้ประกอบการ และเนื่องในโอกาสที่ 27 มิถุนายน เป็น International MSME Day เราจึงถือโอกาสนี้ พูดคุยกับ คุณไมค์ จิตติวาณิชย์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด Google ประเทศไทย ในประเด็นดังกล่าว รวมถึงภารกิจ Leave No Thai Behind สนับสนุน SME ไทยสู่ออนไลน์ และโครงการสะพานดิจิทัลของ Google ประเทศไทย ไปพร้อม ๆ กัน
โดย หัวหน้าฝ่ายการตลาด Google ประเทศไทย แสดงความเห็นว่า Pain Point ของผู้ประกอบการไทยอาจแตกต่างกันไป เช่น รายเล็ก อาจขาดความรู้ความเข้าใจในการใช้เครื่องมือ รายใหญ่ ที่ทำธุรกิจส่งออกอาจพบปัญหาด้านข้อมูล ภาษา การเข้าถึงลูกค้า หรือแม้แต่ขาดพนักงานช่วยตอบโจทย์ธุรกิจ แต่ประเด็นหลักที่พบมาก คือ พวกเขาขาดเวลาในการเรียนรู้และลงมือทำ ดังนั้น สิ่งที่ Google ใช้สนับสนุนและช่วยเหลือพวกเขาจึงตั้งโจทย์จากการทำให้พวกเขาสามารถเข้าถึงเครื่องมือต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น ภายใต้เวลาเรียนรู้ที่สั้น กระชับ ไม่ให้เสียเวลาในการทำธุรกิจ เพื่อส่งเสริมให้ SME ไทยสามารถเข้าสู่ธุรกิจออนไลน์ และเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยต่อไป
เตรียมพร้อม 3 เรื่อง สร้างตัวตน – ความสำเร็จบนออนไลน์
คุณไมค์ ให้คำแนะนำว่า ท่ามกลางสถานการณ์ที่บังคับให้ SME ต้องมีทักษะดิจิทัลและตัวตนบนโลกออนไลน์ ผู้ประกอบการจึงควรทำ 3 เรื่อง เพื่อเรียนรู้และเตรียมความพร้อมให้ธุรกิจ
การสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์: ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดของการทำธุรกิจออนไลน์ โดยจะเป็นแบบไหนก็ควรพิจารณาจากความเหมาะสมของธุรกิจเอง
การเข้าถึงข้อมูล: เช่น การเข้าถึงข้อมูลผ่านการเสิร์ช เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยให้การตัดสินใจเป็นไปได้ด้วยดี
เรียนรู้การโปรโมทธุรกิจ: เช่น วิธีทำโฆษณาออนไลน์ หรือการนำเสนอโปรโมชัน เพื่อทำให้ผู้บริโภครู้จักธุรกิจและแบรนด์ได้ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม อยากให้ผู้ประกอบการมองว่าการเข้าสู่ธุรกิจออนไลน์นั้นไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด หลายคนอาจยังไม่เริ่มต้นเพราะกังวลว่าจะยาก ต้องใช้เงินทุนเยอะ แต่ปัจจุบัน อินเทอร์เน็ตสามารถหาความรู้และมีหลัดสูตรการฝึกอบรมฟรีเป็นจำนวนมาก การเรียนรู้จึงสามารถทำได้ง่ายขึ้นมาก และไม่จำเป็นต้องลงทุนกับเครื่องมือเนื่องจากมีเครื่องมือฟรีให้ทดลองใช้งานอยู่หลายรูปแบบเช่นกัน ดังนั้น ก้าวแรกในการทำธุรกิจออนไลน์ก็สามารถเริ่มต้นจากการศึกษาและใช้งานฟรีได้
‘สะพานดิจิทัล’ เชื่อมประโยชน์ผู้ประกอบการ – เติม Digital Skill แรงงาน
คุณไมค์ ยังได้อัพเดทถึงโครงการสะพานดิจิทัลให้ฟังว่า Google ประเทศไทย มี Mission และ Vision ที่ยึดถือมาโดยตลอดคือ Leave No Thai Behind ซึ่งให้ความสำคัญกับ 4 ประเด็นหลัก คือ การช่วยเหลือ SME การเพิ่มทักษะให้ผู้คน การสนับสนุนด้วยโปรดักท์และเทคโนโลยีของ Google เพื่อช่วยแก้ปัญหาของคนทำธุรกิจ และการช่วย Digitize – Broadcast คอนเทนต์ ดังนั้น ในปีที่ผ่านมาจึงการต่อยอดสู่ โครงการสะพานดิจิทัล (Saphan Digital) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง Google กระทรวงพาณิชย์ และองค์กรชั้นนำในอุตสาหกรรมต่าง ๆ
เป้าหมายของสะพานดิจิทัล เกิดขึ้นเพื่อให้ความรู้ด้านดิจิทัลแก่ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็ก องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร (NGO) และบุคคลทั่วไปที่สนใจ เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและการสร้างอาชีพ โดยเปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนสิงหาคม 2563 และต่อยอดสู่เฟสสองเมื่อเดือนมีนาคม 2564
“โครงการสะพานดิจิทัลถูกพัฒนาขึ้นเพื่อประเทศไทยโดยเฉพาะ มีเป้าหมายให้ความรู้ SME และผู้ที่สนใจทักษะดิจิทัล รวม 1 แสนคน ด้วยเครื่องมือและโปรแกรมการฝึกอบรมต่าง ๆ ที่ Google มี”
เปิดเครื่องมือ & ทักษะ พร้อมเสิร์ฟจาก Google
เป้าหมาย Leave No Thai Behind ของ Google ประเทศไทย ดำเนินไปใน 2 ทิศทางหลัก คือ การสนับสนุนเครื่องมือ และการสนับสนุนทักษะ โดยเครื่องมือที่ Google เปิดให้ SME เข้าถึงและใช้งานได้ฟรี ได้แก่ Business Profile (หรือที่รู้จักในชื่อเดิมว่า Google My Business), Free Product Listing, Google Travel ส่วนโครงการสนับสนุนทักษะทางดิจิทัล ได้แก่ สะพานดิจิทัล ที่มีเป้าหมายไปยังกลุ่ม SME และ Skillshop ที่เน้นทักษะขั้นสูงกว่า มีการอบรมและมอบใบ Certificate รับรอง เหมาะกับ Digital Marketer กลุ่มธุรกิจขนาดกลางขึ้นไป และเอเยนซี่
Business Profile: เครื่องมือที่มีให้บริการนานแล้ว ใช้งานได้ฟรี เพื่อสร้าง Engagement และข้อมูลอย่างถูกต้อง โดยมีฟีเจอร์ที่ช่วยสนับสนุนการทำธุรกิจ SME มากขึ้น เช่น การอัพเดทข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ลูกค้าต้องการรู้ เช่น มีบริการเดลิเวอรี่หรือไม่ หรือเวลาการเปิด – ปิดร้าน เป็นต้น
Free Product Listing: บริการสำหรับร้านค้าที่มีหน้าร้านออนไลน์อยู่แล้ว จากในอดีตอาจต้องเสียค่าโฆษณาก่อนถึงจะได้เข้ามาใช้บริการดังกล่าวได้ แต่ตอนนี้ได้เปลี่ยนให้ SME เข้าใช้งานได้ฟรี เพื่อช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการได้เพิ่มโอกาสในการโฆษณาสินค้า
Google Travel: ขณะนี้เปิดให้ใช้งานฟรี เพื่อให้ธุรกิจท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น
โครงการสะพานดิจิทัล: หลังจากเปิดตัวเฟสแรกในปีที่ผ่านมา ถือเป็นโครงการทดลอง ซึ่งสามารถให้ความรู้และฝึกอบรมทั้ง SME และผู้สนใจทั่วไปได้ 8,000 คน และมีเว็บไซต์ธุรกิจสร้างใหม่ราว 2,000 เว็บไซต์ ส่วนเฟสสอง ตั้งแต่เริ่มต้นเมื่อเดือนมีนาคม 2564 กระทั่งปัจจุบัน สามารถฝึกอบรมได้แล้ว 16,000 คน ซึ่งปัจจุบันประสบความสำเร็จมากกว่า SME และผู้สนใจทั่วไป คือ โรงเรียนอาชีวะหลายแห่ง ได้นำคอนเทนต์จากโครงการสะพานดิจิทัลไปใช้ในการเรียนการสอนแล้ว
ซูมความสำเร็จ SME ตัวจริง ใช้
ยกตัวอย่าง SME ที่ได้เข้าร่วมโครงการสะพานดิจิทัล และใช้เครื่องมือของ Google เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ได้แก่…
ธุรกิจปลากรอบ KIAVEE
จากเดิมที่เคยเป็นสินค้าขายให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่เมื่อได้รับผลกระทบจากช่วง COVID-19 ทำให้แบรนด์ KIAVEE หันมาใช้ช่องทางออนไลน์ เพื่อเข้าถึงลูกค้าชาวไทยแทน โดยพัฒนาเว็บไซต์ และเรียรู้ทักษะดิจิทัล เช่น Digital Marketing, Google Ads
ร้านนวด ‘มีสติ’
แม้ว่าร้านมีสติ จะใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อเป็นช่องทางการขายอยู่แล้ว แต่เมื่อต้องการขยายตลาดสู่ต่างประเทศ จึงได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งในโครงการสะพานดิจิทัล เรียนรู้การพัฒนาหน้าร้านออนไลน์ เพื่อเข้าถึงลูกค้าต่างชาติโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ร้าน SC Thai Traditional Dress
จากร้านขายผ้าไหมจุล ที่เน้นการขายผ่านการออกบูธในสถานที่ต่าง ๆ ต้องได้รับผลกระทบจาก COVID-19 และหันมาเรียนรู้ทักษะทางดิจิทัลผ่านโครงการสะพานดิจิทัล เพื่อใช้ในการสร้างเว็บไซต์ฟรี และเข้าถึงฐานข้อมูลลูกค้าได้โดยไม่ต้องรอการออกบูธขายสินค้าเท่านั้น
แบรนด์สตีลเมทัล
แม้จะทำธุรกิจที่ไม่ได้ส่งสินค้าอย่างแบรนด์สตีลเมทัล แต่ก็สามารถเข้าร่วมโครงการสะพานดิจิทัล และใช้ประโยชน์ในการปักหมุดร้านบน Business Profile ทำให้ลูกค้าได้รู้จักร้านมากขึ้น และสามารถขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้นเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หัวหน้าฝ่ายการตลาด Google ประเทศไทย ทิ้งท้ายว่า โครงการสะพานดิจิทัลยังคงเปิดกว้างเพื่อให้ความรู้และสนับสนุน SME ตลอดจนผู้สนใจอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเข้าถึงลูกค้า สร้างโอกาสให้ธุรกิจ และสามารถต่อยอดสู่การมีตัวตนบนโลกออนไลน์ได้อย่างมีศักยภาพ ผ่านความรู้และเครื่องของสะพานดิจิทัล ที่ Google ประเทศไทย ออกแบบมาเพื่อคนทำธุรกิจโดยเฉพาะ ตอบโจทย์ธุรกิจที่ต้องไม่หยุดนิ่งและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอย่างเต็มที่