เพิ่งเปิดตัวไปสด ๆ ร้อน ๆ ภายในงาน “Samsung Galaxy Unpacked 2020” ณ เมืองซานฟรานซิสโก แคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเวทีโชว์โฉมสมาร์ทโฟน Galaxy ซีรีส์ ที่คราวนี้มาพร้อมกัน ในรุ่น “Galaxy S20” และ “Galaxy Z Flip” กับโฉมใหม่มือถือพับได้ทรงตลับแป้ง ว่าแต่รายละเอียดของทั้ง 2 รุ่นจะเป็นอย่างไร เราสรุปมาให้แล้ว 10 ข้อ อ่านแล้วอินเทรนด์แน่นอน!
1. เริ่มต้นที่ Galaxy S20 ซีรีส์ ซึ่งถือเป็นแฟลกชิปรุ่นล่าสุดของ Samsung ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นมือถือที่มี “กล้องวิดีโอดีที่สุด” ของแบรนด์ ส่วน Galaxy Z Flip หรือกาแลคซี่ ซี ฟลิป ก็มาพร้อมดีไซน์เก๋ แหวกแนวสมาร์ทโฟนในตลาดตอนนี้ ด้วยลุคพับเป็น “ทรงตลับแป้ง” ด้วยเทคโนโลยีกระจกบานพับที่เรียกว่า Hideaway Hinge
2. ถามว่าทำไม Samsung ต้องเปิดตัวมือถือพับได้ทรงตลับแป้ง ? อาจเป็นเพราะ Samsung ต้องการสร้างสีสันให้กับตลาดสมาร์ทโฟน เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการความโดดเด่น ชื่นชอบความแปลกใหม่ โดยเมื่อพับแล้วจะมีขนาดกะทัดรัดพอดีมือ
3. คุณสมบัติของ Galaxy Z Flip มาพร้อมกับหน้าจอกระจกขนาด 6.7 นิ้ว แน่นอนว่าสามารถพับได้ในแนวตั้ง รองรับการใช้งานแบบแฮนด์ฟรีสำหรับถ่ายเซลฟี่เมื่อพับครึ่งในโหมด Flex หรือการถ่ายวิดีโอแบบ Hyperlapse ในเวลากลางคืนหรือในที่มีแสงน้อย โดยมาพร้อมเฉดสีใหม่ 3 สี คือ Mirror Purple, Mirror Black และ Mirror Gold แต่ในไทยจะ “ไม่มีสี Mirror Gold” วางขาย
4. ทีเอ็ม โรห์ ประธานและหัวหน้ากลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด อธิบายว่า Samsung เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ผู้คนมาตลอด 10 ปี ขณะนี้โลกกำลังพัฒนาสู่ยุคแห่งอนาคต สมาร์ทโฟนรูปแบบเดิมอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ทำให้แบรนด์เลือกพัฒนาสมาร์ทโฟนให้ตอบโจทย์ได้ทุกการใช้งาน ทั้งเรื่องภาพ วิดีโอ ความบันเทิง และ 5G พร้อมกับตอกย้ำว่าปี 2020 ต้องเป็น Galaxy S20 เท่านั้น
5. แต่ Galaxy S20 ซีรีส์ มาพร้อมกัน 3 รุ่น ได้แก่ S20, S20+ และ S20 Ultra 5G ซึ่งมีความพิเศษอยู่ที่รุ่น S20 Ultra กับการซูมสูงสุด 100 เท่า ส่วนเรื่องความคมชัดนั้นเริ่มต้นที่ความละเอียด 64 ล้านพิกเซลเพื่อถ่ายทอดความละเอียดของภาพ รวมถึงคุณสมบัติ AI ช่วยให้การบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นผ่านฟีเจอร์ต่าง ๆ ทั้ง Live Focus, Cropped, Ultra Wide 123 องศา เป็นต้น ส่วนวิดีโอก็รองรับความคมชัดแบบ 8K ที่สามารถครอปเป็นภาพนิ่งได้ที่ความละเอียด 33 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยโหมดป้องกันการสั่น Super Steady โฉมใหม่ที่มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
6. จุดเด่นอย่างหนึ่งของ Samsung คือการเชื่อมโยงอีโคซิสเต็มส์ร่วมกับพาร์ทเนอร์ อาทิ มอบคอนเทนต์พิเศษ Netflix Originals ผ่านมุมมองกล้อง Galaxy S20, จับมือกับ Google เพื่อให้บริการ Google Duo หรือวิดีโอแชท โดยสามารถใช้ Wide lens เพื่อพูดคุยได้พร้อมกันสูงสุด 8 คน หรือหากไม่มีผู้รับสาย ก็ยังสามารถส่งข้อความวิดีโอทิ้งไว้ได้ โดย Google Duo ฟีเจอร์ จะสามารถเริ่มใช้งานได้ใน Galaxy S20 และ Galaxy Z Flip นอกจากนี้ Galaxy S20 ซีรีส์ จะเป็นแอนดรอยด์รุ่นแรกที่สามารถใช้งาน Live Caption จาก Google ได้อีกด้วยโดยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 10 จะใช้ API ใหม่มาจับภาพและเสียงเพื่อเป็นคำบรรยายอยู่บนหน้าจอแบบเรียลไทม์, เพลิดเพลินกับเพลงโปรดเฉพาะตัวด้วยความร่วมมือระหว่าง Spotify และ Bixby Routines, ขยายขอบเขตการร่วมมือกับ Microsoft ผ่านการเป็นพันธมิตรกับ Xbox โดยเฉพาะในเกม Forza Street เกมแข่งรถที่พัฒนาโดย Xbox Game Studios พร้อมเพิ่มเจอร์การสตรีมเกมใหม่ รวมถึงยังมีโปรเจคการรวม xCloud เข้ากับอุปกรณ์ตระกูล Galaxy ในอนาคต
7. หมดกังวลเรื่องความจุเพราะ Galaxy S20 ซีรีส์ มาพร้อมกับพื้นที่เก็บข้อมูลสูงสุดถึง 1.5 เทราไบต์ พร้อมรองรับ SD Card ความจุสูงสุดอีก 1 เทราไบต์
8. ไม่ได้มีแค่สมาร์ทโฟน เพราะ Samsung ยังได้เปิดตัว “Galaxy Buds+” (กาแลคซี่ บัดส์ พลัส) หูฟังไร้สายออกมาด้วย กับคุณสมบัติระบบเสียงจาก AKG ลำโพง 2 ทิศทาง และไมโครโฟน 3 ตัว ให้คุณภาพทั้งเสียงเพลงและเสียงพูดคมชัด แบตเตอรี่ขนาดเล็กทำงานได้ต่อเนื่อง 11 ชั่วโมง และใช้งานได้เพิ่มเติมอีก 11 ชั่วโมงหลังนำไปชาร์จในเคส ซึ่งรองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ iOS ด้วย
9. นอกจากนี้ในฐานะที่ Samsung เป็นผู้สนับสนุนกีฬาโอลิมปิกในปีนี้ ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จึงได้เปิดตัว Galaxy S20+ 5G รุ่น Olympic Games Athlete Edition เป็นที่ระลึกด้วย
10. ส่วนใครที่สนใจอยากจับจองเป็นเจ้าของ Galaxy S20 ซีรีส์ จะเปิดให้จองซื้อพร้อมรับสิทธิพิเศษตั้งแต่ 14 ก.พ. – 5 มี.ค.นี้ โดย Galaxy S20 จะมีสี Cosmic Grey, Cloud Blue และ Cloud Pink ราคา 28,900 บาท หรือ Galaxy S20+ มีสี Cosmic Grey, Cloud Blue และ Cosmic Black ราคา 31,900 บาท ส่วน Galaxy S20 Ultra 5G มีสี Cosmic Grey และ Cosmic Black ราคา 39,900 บาท และ Galaxy Z Flip จะเริ่มขายในวันที่ 6 มี.ค. ราคา 44,900 บาท
Related posts:
เจ๋งมั้ยล่ะ!!! เมื่อ Huawei ก้าวสู่เบอร์ 1 ตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลก แม้จะถูกคว่ำบาตรจากประเทศลูกพี่ใหญ่
ถึงคราวตลาดสมาร์ทโฟนผลัดใบ? เมื่อ “บิ๊กอีเวนท์มือถือ” มี “HUAWEI – Studio 7” เสียบแทน “SAMSUNG” ฉายเดี่ยวจัดงานเอง!
ไม่ได้แค่เอาฮา! เผยเบื้องหลังปฏิบัติการ “Huawei” ตามเกรียน “iPhone” งานนี้มีนัยซ่อนเร้น!!
ไม่พลิกโผ! Samsung เผยโฉม Galaxy S9/S9+ กับ 9 ทีเด็ดเทคโนโลยีที่ย่อมาไว้ในมือคุณ
สำรวจความต้องการของผู้บริโภค ซื้อมือถือเครื่องต่อไป iPhone หรือ Samsung
20 อันดับ สมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในโลก
