Oxford Economics ได้เปิดเผยถึงการศึกษาล่าสุดว่า ภายในปี 2030 หรือในอีก 11 ปีข้างหน้า จะมีการใช้หุ่นยนต์กว่า 20 ล้านตัว เพื่อเข้ามาทำงานในหลายอุตสาหกรรม และอาจส่งผลให้คนตกงานเพิ่มกว่า 10 ล้านตำแหน่ง
การศึกษาดังกล่าวระบุว่า เฉพาะในจีน จะมีการใช้หุ่นยนต์เข้ามาทำงานราว 14 ล้านตัว ซึ่งการนำหุ่นยนต์มาใช้นั้น จะส่งผลดีในด้านประสิทธิภาพในการผลิต หรือ Productivity และการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยอาจทำให้จีดีพีของโลกมีการเติบโตขึ้น 5.3% หรือเท่ากับว่า จะมีเงินเพิ่มขึ้น 4.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ไปจนถึงปี 2030
ขณะเดียวกัน ก็ส่งผลกระทบในเรื่องแรงงาน ‘คน’ ที่อาจต้องตกงานเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 ล้านตำแหน่ง ภายในปี 2030 ยกตัวอย่าง ในจีน คาดการณ์ว่า จะมีคนตกงานมากกว่า 11 ล้านตำแหน่ง , ในสหรัฐอเมริกาฯ คาดการณ์ว่า จะมีคนตกงานมากกว่า 1.5 ล้านตำแหน่ง และรัฐที่เสี่ยงต่อคนตกงาน ได้แก่ เท็กซัส , หลุยเซียน่า , อินเดียน่า และโอเรกอน โดย โอเรกอน ถือเป็นรัฐที่มีความเสี่ยงมากที่สุดจากเรื่องนี้
ขณะที่ ยุโรป คาดว่า จะมีคนตกงานราว 2 ล้านตำแหน่ง ซึ่ง Midlands และทางตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษ เป็นรัฐที่มีความเสี่ยงมากที่สุดของสหราชอาณาจักรจากการนำระบบอัตโนมัติมาใช้ทำงาน
สำหรับตำแหน่งที่ถูกกระทบมากที่สุด ก็คือ งานที่ไม่ต้องใช้ทักษะมากนัก หรืองานที่ต้องทำซ้ำ ๆ ดังนั้น หากไม่อยากเผชิญปัญหาดังกล่าว คน จึงต้องพัฒนาตัวเอง โดยพัฒนาทักษะของตนเองให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง ให้สามารถควบคุมหรือทำงานร่วมกับระบบอัตโนมัติต่าง ๆ ได้
ที่มา : cnbc