โรบินสันจับมือพันธมิตรคู่ค้ากว่า 200 บริษัท ร่วมโชว์แผนธุรกิจที่จะไปต่อร่วมกัน กับงาน ‘‘Robinson Business Conference 2018’ ภายใต้แนวคิด ‘To The Next Level, Together We Grow’ ชี้แจงวิสัยทัศน์ และเปิด 4 กลยุทธ์ดำเนินงาน ที่ครอบคลุมทั้งแนวโน้มในปัจจุบัน และเปิดมุมมองทางธุรกิจใหม่ๆ ในอนาคต
คุณวุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน)กล่าวว่าปัจจัยที่สำคัญในความสำเร็จของโรบินสันตลอด 39 ปีที่ผ่านมา 1 ในนั้นก็คือ การมีพันธมิตรคู่ค้าที่แข็งแกร่ง ซึ่งมีส่วนทำให้โรบินสัน เป็นห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้ายอดนิยมอันดับต้นๆ ของคนไทย
ปัจจุบันโรบินสันมีฐานลูกค้ามากที่สุดในกลุ่มค้าปลีกถึงกว่า 8 ล้านคน มีศักยภาพในการขยายสาขา มากเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มค้าปลีกที่จะครอบคลุม 34 จังหวัดในปลายปี 2561 Next step ต่อไปจากนี้ไป โรบินสันจะยังคงวางกลยุทธ์ที่จะเติบโต ไปพร้อมๆ กับพันธมิตรคู่ค้าภายใต้ 4 กลยุทธ์การดำเนินงานที่สำคัญ
ทั้งในด้านการบริหารแบรนด์สินค้า, การบริหารฐานข้อมูลลูกค้า, การขยายสาขาและการบริหารพื้นที่ขาย และการพัฒนาธุรกิจ เพื่อก้าวสู่การเป็น Omni Channel ที่จะตอบรับไลฟ์สไตล์ และพฤติกรรมของนักช็อปยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไป
ซึ่งเน้นความรวดเร็วและสะดวกสบาย การแสวงหาประสบการณ์การช็อปปิ้งที่แตกต่างจากที่ผ่านมา รวมทั้งตอบรับต่อโลกของเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทในไลฟ์สไตล์ของนักช็อป ที่ทำให้ธุรกิจใกล้ชิดและเข้าถึงนักช็อปอย่างไร้รอยต่อมากขึ้น
4 กลยุทธ์การดำเนินงานที่สำคัญของโรบินสัน ที่จะเป็น The Next Level ของธุรกิจประกอบด้วย
1 กลยุทธ์การบริหารแบรนด์สินค้า ที่จะสร้างให้โรบินสันกลายเป็น Lifestyle Destination ของนักช็อป ในการสร้างประสบการณ์ในการข็อปปิ้งรูปแบบใหม่ ที่พร้อมตอบทุกโจทย์ความต้องการของนักช็อปได้อย่างครบวงจร กับ 4 กลุ่มสินค้าหลัก
ทั้งกลุ่ม Home Appliances ที่ได้ปรับวิธีการนำเสนอสินค้า เครื่องใช้ และของตกแต่งบ้าน ในรูปแบบใหม่ ให้มีความเป็นไลฟ์สไตล์มากขึ้น เพื่อปรับตัวตามเทรนด์การตกแต่งบ้านจากทั่วโลกที่เกิดขึ้นมากมาย รวมทั้งพฤติกรรมการซื้อสินค้าของนักช็อปที่เปลี่ยนแปลงไป
กลุ่มสินค้า Kids and Family ที่มีการปรับทั้งในส่วนสินค้า และเพิ่มเติมบริการอย่าง Mom Assistants, Baby Care Room และ Mom & Baby Club เพื่อตอบรับกับรูปแบบครอบครัวสมัยใหม่ ที่เป็น Young Mom Young Family มากขึ้น
กลุ่มสินค้า Fashion ที่จุดแข็งของโรบินสันอยู่ที่การเป็น No.1 Jeans และ Lingerie Destination ที่ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกเพศ ทุกวัย ซึ่งโรบินสันจะเดินหน้าคัดสรรสินค้าแบรนด์ใหม่ๆ ที่มีคุณภาพ และมีความหลากหลาย เพื่อนำเสนอแก่นักช็อป และมุ่งสร้างประสบการณ์ที่มากกว่าการช็อปปิ้งผ่านอีเว้นท์ มาร์เก็ตติ้งที่น่าสนใจ, การครีเอทโซนสินค้าใหม่ๆ, และบริการพิเศษต่างๆ ที่สร้างความประทับใจ อาทิ Bra Advisor,Personalized Service
กลุ่มสินค้า Cosmetic เน้นสร้างประสบการณ์ความสะดวกสบายในการช็อปปิ้ง ให้นักช็อปสามารถช็อปปิ้งสินค้าที่ถูกใจ ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า และรับบริการครบจบในที่เดียว
2 กลยุทธ์การบริหารฐานข้อมูลลูกค้า ซึ่งถือเป็นบิ๊กดาต้าที่แข็งแกร่งในธุรกิจค้าปลีก ปัจจุบันโรบินสันมีฐานลูกค้า จากกลุ่มสมาชิกบัตรเดอะวันกว่า 14 ล้านคน ซึ่งโรบินสันเดินหน้าสร้างประสบการณ์ร่วมที่ดี กับกลุ่มนักช็อปอย่างต่อเนื่อง
โดยมีการปรับรูปแบบการสื่อสาร กับกลุ่มนักช็อปตามไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน ด้วยแพลทฟอร์มการสื่อสารทางออนไลน์ที่มีศักยภาพ ซึ่งโรบินสันได้รับความสำเร็จเป็นอย่างดี เช่น ทาง Line ผ่าน Line Smart Connect ปัจจุบันโรบินสันมี Line Friends กว่า 15.8 ล้านคน การสื่อสารบน Facebook ที่มี Fanpage กว่า 1.8 ล้านคน รวมทั้งบน Instagram มี Follower 470,000 คน และ Youtube Channel มี Follower กว่า 21,000 คน
โรบินสันได้นำฐานข้อมูลช่องทางออนไลน์ดังกล่าว มาต่อยอดและขยายโอกาสทางธุรกิจ ทั้งด้านการแบ่งส่วนตลาด การกำหนดตลาดเป้าหมาย การกำหนดตำแหน่งสินค้าและการบริการ ทำให้เกิดความแข็งแกร่งทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
3 กลยุทธ์การขยายสาขาและการบริหารพื้นที่ขาย ปัจจุบันโรบินสันมีสาขา 47 สาขา ทั้งในรูปของห้างสรรพสินค้า และศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ พื้นที่ให้บริการรวมกว่า 1,000,000 ตร.ม.มีจำนวนผู้เช่ากว่า 1,500 ราย มีจำนวนนักช็อปใช้บริการ 90 ล้านคนต่อปี
ช่วงเดือนธันวาคม 2561 นี้ โรบินสันจะมีการเปิดสาขาเพิ่ม ในรูปแบบศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์อีก 1 แห่งชื่อ ‘ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ชัยภูมิ’ รวมเป็น 48 สาขาในปลายปี 2561 ที่มุ่งเน้นสู่การเป็นศูนย์กลางของชุมชน การเป็นไลฟ์สไตล์เดสติเนชั่นของครอบครัว เป็นส่วนหนึ่อนุรักษ์วัฒนธรรม สนับสนุนธุรกิจ SME ภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นองค์กรสีเขียวคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และความรับผิดชอบต่อสังคม
4 กลยุทธ์การพัฒนาธุรกิจก้าวเป็น Omni Channel ที่สมบูรณ์แบบ ผ่านช่องทาง Robinson Shopping Online และระบบช้อปปิ้งออนไลน์ ‘Click and Collect’ บน www.robinson.co.th โดย ‘Click and Collect’ ถือเป็นการรวม Online และ Offline ช็อปปิ้งเข้าด้วยกัน
รวมทั้งบริการล่าสุด Robinson Chat & Shop ผ่าน Line @RobinsonOnline มีพนักงานรอให้บริการช่วยหาสินค้า และส่งให้ถึงบ้าน เสมือนมีผู้ช่วยช็อปส่วนตัว ที่โรบินสันมีแผนเปิดเป็นบริการใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้ง Omni Mall, IG Shop, Market Place เพื่อก้าวสู่การเป็น Omni Channel สมบูรณ์แบบในอนาคต
“โรบินสันมั่นใจจาก 4 กลยุทธ์ที่จะทำให้โรบินสันอยู่ใน Position ที่ดีและมีความได้เปรียบ เพื่อการเติบโตและแข่งขันในธุรกิจรีเทล ที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถนำพันธมิตรเติบโตสู่ความสำเร็จไปด้วยกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้โรบินสันครองความเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจที่แข็งแกร่ง ในตลาดรีเทลไทยในอนาคตได้อย่างแน่นอน” คุณวุฒิเกียรติ กล่าว