หลังจาก Riot Game เจ้าของเกมในตำนานอย่าง League of Legends เข้ามาตั้งทีมทำตลาดเกมในประเทศไทยอย่างเต็มตัว ล่าสุดบุกตลาดไทยด้วยกลยุทธ์ Hyper-Localization เปิดตัวแผนที่ใหม่ในเกม VALORANT ในชื่อว่า “DRIFT: ลอยธารา” ที่มีแรงบันดาลใจจากประเทศไทย ทั้งอาคารสถานที่ อาหาร เครื่องแต่งกาย รวมไปถึงดนตรี ให้ผู้เล่นทั่วโลกได้สัมผัสกับพลัง Soft Power ของไทยอย่างใกล้ชิด โดยแผนที่นี้เปิดให้เล่นพร้อมกับ Episode 7: Act III ของ VALORANT เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา
VALORANT เกม FPS แบบ Tactical Shooter
VALORANT เป็นเกมจาก Riot Games ค่ายเกมยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกาที่เปิดตัวตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2020 โดย VALORANT เป็นเกมยิงปืนในรูปแบบ 5v5 ที่ผู้เล่นสามารถเลือกตัวละคร (Agent) ที่มีความสามารถแตกต่างกันไปได้
โดยเกมเป็นรูปแบบของ FPS (First-person shooter) หรือ เกมที่เห็นมุมมองจากตัวผู้เล่นเอง ที่เน้นการยิงที่แม่นยำพร้อมกับใช้ความสามารถของตัวละครในแต่ละกลุ่มเสริมกับเพื่อนในทีม เพื่อเอาชนะทีมฝั่งตรงกันข้าม
สำหรับสนามแข่งขันจะเป็นแผนที่ซึ่งแตกต่างกันไปโดย แฟนที่ใหม่อย่าง DRIFT: ลอยธารา ก็จะเป็นหนึ่งในหลายสนามรบที่ผู้แข่งขันไม่เฉพาะเกมเมอร์ชาวไทยเท่านั้น แต่เกมเมอร์ในแต่ละเซิร์ฟทั่วโลกก็จะได้สัมผัสด้วยเช่นกัน
สื่อสาร Soft Power ด้วยกลยุทธ์ Localization
สำหรับความเป็นไทยที่ใส่ลงไปใน DRIFT คุณจอน ลอร์ ผู้จัดการ Riot Games ประจำประเทศไทย ระบุว่าเป็นกลยุทธ์ในการทำ Hyper-Localization เพื่อสร้างประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับท้องถิ่น ในแต่ละประเทศซึ่ง DRIFT: ลอยธารา จะเปิดให้แฟนเกม VALORANT ทุกประเทศได้สัมผัสกันเรียกได้ว่าเป็นการผลักดัน Soft Power ไทยไปทั่วโลก
สำหรับแผนที่ DRIFT จะมีใส่เอกลักษณ์ของประเทศไทยลงไปหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาคารสถานที่เช่นบ้านทรงไทย “ตลาดน้ำ” ที่มีฉากหลังเป็นตึกทรงเกลียวแบบตึกมหานคร มีวัฒนธรรมใส่ลงไปเช่น อาหารไทย ผลไม้ไทย นอกจากนี้ยังมีเครื่องแต่งกายและไอเท่มจากเทศกาลต่างๆเช่น กางเกงช้าง ปืนฉีดน้ำ ป้ายบอกทางภาษาไทย รวมไปถึง ดนตรีประกอบที่ให้บรรยากาศเพลงพื้นบ้าน รวมไปถึง easter egg ต่างๆเช่นโน้ตเพลงที่สามารถนำมาเล่นเป็นเพลงจริงๆได้
ที่น่าสนใจก็คือแผนที่ DRIFT นี้ยังมีนักออกแบบชาวไทยอย่างน้องเป๋าเป้ ที่ได้เข้าไปร่วมออกแบบในตำแหน่ง Art Director ด้วยเรียกว่าเป็นการไปแสดงฝีมือของคนไทยให้คนทั่วโลกได้เห็นกันเลยทีเดียว
ตลาดเกมไทยมีศักยภาพสูง
ในมุมของตลาดประเทศไทยนั้นคุณจอนเล่าว่าในปีนี้ Riot Games เพิ่งจะเริ่มตั้งทีมและเข้ามาทำตลาดในการจัดจำหน่ายเต็มตัวหลังจากหมดสัญญากับ Garena ไปจึงเรียกได้ว่าเพิ่งจะเริ่มต้นเป็นการหัดเดินก่อนที่จะวิ่ง
คุณจอน ระบุว่าด้วยว่าประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง เป็นหนึ่งใน 4 ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ Riot Games ให้ความสำคัญนับเป็นตลาดใหญ่อันดับ 2 รองจากอินโดนีเซียเท่านั้น
สำหรับประเทศไทยมีประชากรเล่นเกมสัดส่วนมากถึง 50% ของประชากรทั้งประเทศหรือคิดเป็นจำนวนมากถึง 34 ล้านคน และในจำนวนเกมทั้งหมด เกมแบบ FPS แบบเกม VALORANT นั้นเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด โดยประเทศไทยเป็นประเทศที่มีผู้เล่นมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และมีจำนวนผู้เล่นเติบโตมากขึ้น 2 เท่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ระยะเวลาการเล่นเกมเฉลี่ยยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ตั้งเป้าสร้างประสบการณ์ทั้งในและนอกเกม
คุณจอน ระบุด้วยว่าเป้าหมายสำคัญที่สุดของ Riot Games นอกจากจากสร้างทีมให้แข็งแกร่ง ที่จะก้าวไปสู่การตั้งทีมพัฒนานอกเหนือไปจากที่ ลอสแองเจลิส เซี่ยงไฮ้ และสิงคโปร์ ก็คือการยกระดับประสบการณ์ทั้งในและนอกเกมที่ดีที่สุดให้กับแฟนเกมชาวไทยและทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง เพื่อเดินหน้าสู้เป้าหมายการป็น Top-of Mind ของเกม FPS ในประเทศไทย
คุณจอน ขยายความว่าการสร้างประสบการณ์ผู้เล่นให้ดีที่สุดก็เช่นการที่เกม VALORANT จะไม่มีระบบ Pay to Win เช่นการซื้อไอเท่มที่ทำให้เก่งขึ้น ปืนยิงแรงขึ้น วิ่งเร็วขึ้นหรือใช้เงินซื้อเพื่อทำให้ได้เปรียบผู้เล่นคนอื่นได้อย่างแน่นอน แต่จะมีระบบในเรื่องของการใช้เงินซื้อเพื่อความสวยงามเช่น Skin เสื้อผ้า อาวุธต่างๆสำหรับแฟนเกม Hardcore เท่านั้น และจะไม่เน้นในการทำโปรโมชั่นในเกมเลย แต่จะเน้นเป็นการทำให้ตัวเกมดีขึ้นให้ประสบการณ์ของผู้เล่นดีที่สุดมากกว่า ส่วนเรื่องรายได้จะตามมาเองโดยธรรมชาติ
ทั้งหมดคือกลยุทธ์บางส่วนในการทำตลาดเกม VALORANT ในประเทศไทยที่ Riot Games เปิดเผยออกมาโดยเฉพาะแผนที่ใหม่อย่าง DRIFT: ลอยธารา ก็น่าจะเป็นอีกแผนที่ที่แฟนๆ VALORANT ทั่วโลกรวมไปถึงคนไทยจะชื่นชอบและช่วยยกระดับประสบการณ์การเล่น รวมไปถึงขยายฐานผู้เล่นในประเทศไทยให้เพิ่มขึ้นได้ต่อไป
