หลังจากช่วงปลายเดือนพฤษภาคม มีข่าวว่ารถยนต์ส่วนบุคคลที่นำมาให้บริการรับจ้างผ่านแอปกำลังจะได้รับการผลักดันให้ถูกกฎหมาย ล่าสุด เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ กฎกระทรวง รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2564 เพื่อให้สามารถนำรถยนต์ส่วนบุคคลไปจดทะเบียนเปลี่ยนประเภท เพื่อให้บริการในฐานะ ‘รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์’ ตามแนวทาง Sharing Economy
โดยหลังจากนี้ กรมการขนส่งทางบอก จะออกประกาศเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และเงื่อนไข และจะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องและออกประกาศ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 เดือน
สำหรับ กฎกระทรวง รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2564 นั้น มีการระบุเงื่อนไขไว้ทั้งสิ้น 12 ข้อ ซึ่งมีเนื้อหาที่น่าสนใจ ดังนี้
– รถยนต์รับจ้าง หมายความว่า รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน
– การจดทะเบียนรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ ขนาดเล็ก คือมีกำลังขับเคลื่อนตั้งแต่ 50-90 กิโลวัตต์, ขนาดกลาง 90-120 กิโลวัตต์ และขนาดใหญ่ 120 กิโลวัตต์ขึ้นไป หากเป็นรถที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนต้องมีความเร็วสูงสุดไม่น้อยกว่า 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
– สามารถจดทะเบียนได้เพียงคนละ 1 คันเท่านั้น
– มีอายุการใช้งานไม่เกิน 9 ปี นับตั้งแต่วันที่จดทะเบียนครั้งแรก
– โดยรถที่จะจดทะเบียนฯ ต้องเป็นรถที่มีไม่น้อยกว่า 4 ประตู ต้องมีลักษณะเป็นรถเก๋งสองตอน รถเก๋งสองตอนแวน รถเก๋งสามตอน รถเก๋งสามตอนแวน รถยนต์นั่งสองตอน รถยนต์นั่งสองตอนแวน รถยนต์นั่งสามตอน รถยนต์นั่งสามตอนแวน หรือรถยนต์ลักษณะอื่น ตามที่อธิบดีประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของรัฐมนตรี
– รถยนต์รับจ้างฯ จะต้องมีและใช้อุปกรณ์เครื่องสื่อสาร โดยอย่างน้อยต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับตัวรถและผู้ขับ ระบบการแสดงตัวตนของผู้ขับ ระบบการคิดอัตราค่าโดยสารล่วงหน้า ระบบติดตามตัวรถ ระบบตรวจสอบเวลาและสถานที่รับส่ง และระบบแจ้งการร้องเรียนหรือขอความช่วยเหลือ โดยระบบอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวต้องดำเนินการโดยผู้ให้บริการระบบอิเล็อทรอนิกส์ที่กรมการขนว่งทางบกให้การรับรอง และต้องมีการจัดเก็บข้อมูลให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้อย่างน้อยหนึ่งเดือน
– ให้ใช้สีของตัวถังรถตามสีเดิม ที่ปรากฎในใบคู่มือการจดทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลก่อนจดทะเบียนเปลี่ยนประเภทเป็นรถยนต์รับจ้างฯ
– อัตราค่าจ้าง ทั้งการบรรทุกคนโดยสารและค่าบริการอื่น จะแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ
- รถยนต์รับจ้างฯ ขนาดเล็กและขนาดกลาง
1.1 กรณีบรรทุกคนโดยสาร ระยะ 2 กิโลเมตรแรก คิดไม่เกิน 50 บาท และกิโลเมตรต่อไป ไม่เกิน 12 บาทต่อกิโลเมตร กรณีคิดอัตราค่าโดยสารล่วงหน้าประเมินสภาพการจราจรว่าไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ตามปกติ คิดไม่เกิน 3 บาทต่อนาที
1.2 กรณีค่าบริการอื่น หากจ้างผ่านศูนย์บริการสื่อสารหรือระบบสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ คิดไม่เกิน 50 บาท และค่าบริการเพิ่มกรณีอื่น ไม่เกิน 200 บาท
- รถยนต์รับจ้างฯ ขนาดใหญ่
2.1 กรณีบรรทุกคนโดยสาร ระยะ 2 กิโลเมตรแรก ไม่เกิน 200 บาท และกิโลเมตรต่อไป ไม่เกิน 30 บาทต่อกิโลเมตร กรณีคิดอัตราค่าโดยสารล่วงหน้าประเมินสภาพการจราจรว่าไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ตามปกติ คิดไม่เกิน 10 บาทต่อนาที
2.2 กรณีค่าบริการอื่น หากจ้างผ่านศูนย์บริการสื่อสารหรือระบบสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ คิดไม่เกิน 100 บาท และค่าบริการเพิ่มกรณีอื่น ไม่เกิน 200 บาท
– รถยนต์รับจ้างฯ ต้องมีการตรวจสภาพรถตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนด รวมทั้งต้องรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยทั้งภาพนอกและภายในตัวรถ เป็นต้น