ความโด่งดังของซีรีส์เรื่อง Squid Game จากผู้กำกับฝีมือดีของเกาหลี เรียกได้ว่าได้ใจคนดูหลายต่อหลายประเทศทั่วโลก ที่เป็นสาวกของ Netflix อยู่ก่อนแล้ว จนทำให้ Ted Sarandos, CEO ของ Netflix ถึงกับเอ่ยปากชมซีรีส์เรื่องนี้ว่าพลิกโฉมแนวทางการนำเสนอเรื่องราวในซีรีส์แนวการเอาตัวรอดไปเลย
ความสำเร็จของ Squid Game แรงสุดโต่งจริงๆ หากดูจากยอดผู้เข้าชมใน 28 วันแรกที่ฉายทาง Streaming Netflix มียอดคนดูถึง 111 ล้านบัญชี โค่นแชมป์เก่าอย่าง ซีรีส์ Bridgerton (season 1) ที่เคยทำสถิติไว้ที่ 88 ล้านบัญชีในเดือนแรก
ความแรงและความสำเร็จของ Squid Game เราสามารถดูได้จากไอเดียการเกาะกระแสของธุรกิจหลังจากนั้นได้เช่นกันว่า ซีรีส์เรื่องนี้สร้างอิทธิพลในระดับไหน อย่างล่าสุดที่มีโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดคังวอน (Gangwon) ประกาศเปิดรับผู้เข้าเล่นเกมการแข่งขันที่จะจัดขึ้นในวันที่ 24 ต.ค.ที่จะถึงนี้
ส่องไอเดียของโรงแรม St. John กับอิทธิพลจาก Squid Game
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้วว่า ซีรีส์ Squid Game แรงฉุดไม่อยู่แล้ว เพราะขนาดที่ว่าโรงแรม St. John ในจังหวัดคังวอน ได้เปิดจำหน่ายตั๋วให้กับคนทั่วไปสำหรับการจองล่วงหน้าในราคา 10,000 วอน (ราว 290 บาท) ทั้งแขกที่มาพักที่โรงแรมแห่งนี้ และบุคคลทั่วไปให้สามารถจองล่วงหน้า หรือจะ walk-in เข้ามาซื้อตั๋วได้ สำหรับเข้าร่วมแข่งขันเกมที่เซ็ตตามซีรีส์ Squid Game แบบเป๊ะๆ (แต่มีแค่ 4 เกมที่หยิบมาจากซีรีส์)
ทั้งยังมีเงินรางวัลสำหรับผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายด้วย(แต่น้อยกว่าในซีรีส์) เป็นเงินจำนวน 5 ล้านวอน (ประมาณ 139,127 บาท) แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะว่าเกมที่ว่านี้จะไม่มีการยิง หรือทำให้ผู้เข้าแข่งขันเสียชีวิตจริงๆ แบบในซีรีส์ นอกจากนี้ จะมีการเปิดตัว Host (เจ้าภาพ) ที่คุมเกมการแข่งขันทั้งหมด ในช่วงท้ายๆ เหมือนกับในซีรีส์ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ด้วยความที่รัฐบาลเมืองคังนึง (Gangneung) กังวลเรื่องการเว้นระยะห่างทางสังคมในช่วงที่มีการแพร่ระบาด ดังนั้นทางโรงแรมจึงจัดเป็นกลุ่มเพื่อเข้าแข่งขันทีละ 8 คนเท่านั้น และผู้เข้าแข่งขันต้องได้รับวัคซีนป้องกัน COVID-19 ครบแล้ว
มองว่า นี่เป็นไอเดียสร้างสีสันให้กับโรงแรม St. John ในช่วงภาวะที่ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจกันมากขึ้น ทั้งยังถือว่าเป็นไอเดียที่น่าสนใจเพราะบางครั้งธุรกิจก็ต้องเกาะกระแสจากสิ่งที่กำลังปอปปูล่าอย่างสร้างสรรค์ เพราะนอกจากเราจะกระตุ้นเม็ดเงินให้ธุรกิจได้ ยังช่วยให้คนรู้จักธุรกิจเรามากขึ้นด้วย
ที่มา: koreatimes, kotaku