Omni channel การเชื่อมช่องทางออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างประสบการณ์ในการจับจ่ายให้กับผู้บริโภค ถือเป็นกลยุทธ์ที่ธุรกิจรีเทลให้ความสำคัญ เพราะช่วยสร้าง Brand experience ที่ดีให้ลูกค้า ซึ่งเมื่อลูกค้ารู้สึกชอบ และรักที่จะมาชอปกับที่ใดที่หนึ่งบ่อย ๆ แล้ว นั่นหมายถึงโอกาสทางธุรกิจและยอดขายที่เพิ่มขึ้นจะตามมา
ที่มาของการพัฒนาแฟลกชิพสโตร์ ‘Powerbuy x B2S’ ที่รวมแบรนด์ Powerbuy ศูนย์รวมสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ กับ B2S ไว้ในพื้นที่เดียวกัน ใช้งบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 6,000 ตารางเมตร ณ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ แบ่งออกเป็น 12 โซนหลัก ได้แก่
1.Vision & Sound Gallery , 2. Gadget Paradise , 3. Wireless World , 4. Cooking Studio , 5. Smart Home Living , 6. AirZone , 7. Gaming Arena , 8. Computers , 9. CreativeLeisure , 10. Plearnground (Play &Learn) , 11.Passion Library และ 12. Stationery Gallary
โลร็องต์ โปซ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีโอเเอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แฟลกชิพสโตร์แห่งนี้จะเป็นการสร้าง One-stop destination ผ่านช่องทาง Omni channel เพื่อต้องการสร้าง Brand Experience และเรียนรู้พฤติกรรมของลูกค้าว่าเป็นอย่างไร ชอบแบบไหน
สำหรับการสร้าง Brand Experience แฟลกชิพสโตร์แห่งนี้ จะนำเสนอผ่านกลยุทธ์ Omni channel ด้วยรูปแบบหลากหลายในการเชื่อมโยงช่องทางออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกัน ประกอบด้วย
-สั่งซื้อออนไลน์ทาง www.powerbuy.co.th และรับสินค้าที่ร้านได้ภายใน 1 ชม.
-ค้นพบสินค้าและข้อมูลเพิ่มเติมด้วยหน้าจอสัมผัส 4 จุดในร้าน
-พนักงานในร้าน จะมีแท็บเล็ตเพื่อนำเสนอสินค้ามากกว่า 20,000 รายการให้กับลูกค้า
-บัญชี Line Official ที่พัฒนาขึ้นเป็นช่องทางสำหรับลูกค้าในการติดต่อกับทีมงาน พร้อมอัพเดทกิจกรรมของแฟลกชิพสโตร์ ไอเท็มมาใหม่ และการสาธิตนวัตกรรมต่างๆ
“แฟลกชิพสโตร์แห่งนี้เป็นการนำจุดเด่นของทั้งเพาเวอร์บายและบีทูเอสมานำเสนอ เพื่อตอบโจทย์ในเรื่องความต้องการและไลฟ์สไตล์ของทุกคนในครอบครัว โดยมีการปรับเปลี่ยนสินค้าในแต่ละโซนตามธีมที่น่าสนใจสลับหมุนเวียนทุกเดือน ตั้งเป้าว่า จะทำให้ยอดขายเติบโต 20-30%”