ในยุคที่เงินทองหายากหาเย็น เราอาจมองว่าสินค้าฟุ่มเฟือยจะเป็นช้อยส์แรกที่ผู้บริโภคตัดออกจากลิสต์ใช้จ่าย แต่เรื่องจริงอาจไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป หากคุณรู้ความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับบริษัทผู้ผลิต การ์ด Pokémon TCG (Trading Card Game) เพราะท่ามกลางวิกฤตที่ธุรกิจต้องเอาตัวรอด ผู้บริโภคเองก็มองหาความคุ้มค่าจากการจับจ่าย แต่ของสะสมอย่างการ์ด Pokémon กลับต้องเร่งกำลังการพิมพ์! ให้เพียงพอกับความต้องการของเหล่าแฟนการ์ดเกมและนักสะสมทั้งหลาย ซึ่งมีข้อมูลว่าปี 2018 การ์ดดังกล่าวมียอดขายสูงถึง 25,700 ล้านใบ ส่วนในปี 2020 ก็มีสถิติใหม่ ยอดขาย 500,000 ชุดในเวลา 18 วันมาแล้ว
มองให้ดี เรื่องนี้ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะในยุคที่ทุกกูรูฟันธงว่ามีแต่ธุรกิจออนไลน์ที่จะมีโอกาสอยู่รอด แต่การ์ดเกม Pokémon กลับยังขายดิบขายดี โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเปิดตัวสินค้าคอลเลกชันใหม่ที่ฉลองครบรอบ 25 ปีนั่นเอง ยังไม่รวมถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างมากจากทั้งแฟนตัวจริงและเหล่านักสะสม ที่มองถึงโอกาสจากการซื้อขายการ์ดระดับเทพ ๆ ซึ่งวัดกันจากปีที่ผลิต จำนวนการผลิต และสภาพความสมบูรณ์ของการ์ดนั่นเอง โดยการได้มาของการ์ดแต่ละใบก็ต้องซื้อมาลุ้นเท่านั้น! (ราคาเริ่มต้นหลักร้อยบาท) ว่าในเซ็ตการ์ดที่ซื้อมานั้นจะมีการ์ดใดอยู่บ้าง และถ้าโชคดีก็อาจเจอการ์ดสุดแรร์เข้าสักใบ
ก่อนหน้านี้ เคยมีการประมูลการ์ด Pokémon สุดแรร์เมื่อช่วงกลางปี 2020 ซึ่งราคาพุ่งไปถึง 230,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว ๆ 6.9 ล้านบาท แต่เมื่อปลายเดือนมกราคม เพิ่งมีคนไทยที่เป็นเจ้าของการ์ดซูเปอร์แรร์สามารถล้มประวัติศาสตร์วงการประมูลการ์ด Pokémon ไปสด ๆ ร้อน ๆ โดยมีผู้ประมูลให้การ์ดของเขา ที่ 481,200 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 14.4 ล้านบาท กลายเป็นสถิติสูงสุดของโลกในตอนนี้
เอาเป็นว่า ถึงหลายคนจะมองการ์ด Pokémon เป็นเพียงของสะสม แต่ตอนนี้ต้องบอกว่าเทรนด์ดังกล่าวพัฒนาเป็น Sportcards ไปแล้ว และหากมีใบเจ๋ง ๆ ที่เป็นที่ต้องการของบรรดานักสะสมแล้วล่ะก็การ์ด Pokémon ในความครอบครองอาจกลายเป็น Alternative Investments ที่สร้างเม็ดเงินมหาศาลให้คุณก็เป็นได้ แนวคิดแบบนี้สิ เตรียมตัว Win – Win ทั้งแบรนด์และลูกค้า
ที่มา: cnet