อย่างที่รู้ๆ กันว่า อุตสาหกรรมสตรีมมิ่ง มีแต่จะได้รับอานิสงส์ในช่วงการแพร่ระบาด Coronavirus เพราะในแต่ละประเทศต่างบังคับใช้กฎระเบียบให้ทุกคนต้องกักตัวอยู่ในบ้าน เพื่อลดความเสี่ยงการเพิ่มผู้ติดเชื้อไวรัสได้
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นการเติบโตของ Netflix รุ่งเรืองมากขึ้น โดยล่าสุด ผู้ให้บริการวิดีโอสตรีมมิ่งรายนี้ของสหรัฐอเมริกา ได้เปิดเผยตัวเลขการเปิดบัญชีผู้ใช้รายใหม่ในไตรมาส 1/2020 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.63 โดยชี้ว่า มีผู้ใช้รายใหม่เพิ่มมากถึง 15.8 ล้านคน เพิ่มเป็น 2 เท่าตัวจากจำนวนผู้ใช้งานรายใหม่ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2019
ทั้งยังมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 7.2 ล้านคน ด้วยสาเหตุหลักมาจากการที่หลายประเทศใช้มาตรการปิดประเทศ หรือ lockdown ตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้
ทั้งนี้ ในจำนวนผู้ใช้รายใหม่ดังกล่าว พบว่า มาจากกลุ่มประเทศ EMEA หรือ ทวีปยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ซึ่งมีผู้ใช้งานใหม่เพิ่มถึง 7 ล้านคนในไตรมาส 1/2020 ตามด้วย ‘เอเชีย-แปซิฟิก’ 3.6 ล้านคน, ละตินอเมริกา 2.9 ล้านคน และ สหรัฐฯ กับ แคนาดา 2.3 ล้านคน ส่งผลให้ปัจจุบัน Netflix มียอดผู้ใช้งานรวมทั้งหมด 182 ล้านรายทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ใช้รายใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด Netflix อธิบายเอาไว้ว่า เป็นการเพิ่มขึ้นแบบ ‘ชั่วคราว’ เท่านั้น หากมาตรการ quarantine หรือ การกักตัวสิ้นสุดลง ยอดผู้ใช้รายใหม่จะชะลอตัวสู่ภาวะปกติ
ในจดหมายที่ส่งตรงถึงผู้ถือหุ้น ยังระบุด้วยว่า ถึงแม้ว่า Netflix จะมีจำนวนผู้ใช้งานรายใหม่เพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่า ‘รายได้’ หรือ ผลตอบแทนจะเพิ่มขึ้นในระดับเดียวกัน นั่นมีสาเหตุมาจาก ‘เงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่า’
โดยผลประกอบการในไตรมาส 1/2020 ของบริษัทอยู่ที่ 5,770 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 27.6% ซึ่งถือว่าเป็นรายรับที่ไม่มากนัก เมื่อเทียบกับยอดผู้ใช้งานรายใหม่ที่เพิ่มขึ้น
สำหรับ อัตรากำไรจากการดำเนินงานของ Netflix อยู่ที่ 16.6% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 18% เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา Netflix พยายามเพิ่มเนื้อหาและเพิ่มคุณภาพขึ้นในหลายๆ ส่วน ทำให้บริษัทมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในช่วง COVID-19
ทั้งนี้ Netflix ได้คาดการณ์ตัวเลข ‘ผู้ใช้งานรายใหม่’ ในไตรมาส 2/2020 จะเพิ่มขึ้น 7.5 ล้านคน ซึ่งจะชะลอตัวลงเนื่องจากหลายๆ ประเทศทั่วโลกเริ่มที่จะทยอย/ผ่อนปรนมาตรการ lockdown บ้างแล้ว
ที่มา : campaignasia