เนสท์เล่ ตอบรับยุค Healthy Conscious มาแรง เดินหน้าดันพอร์ตสินค้าสุขภาพออกสู่ตลาด โดยปีนี้เตรียมเปิดสินค้าใหม่เพิ่มอีก 2-3 ตัว จากปัจจุบันมีอยู่ 48 ตัว พร้อมตั้งเป้าในอนาคตสินค้ากลุ่มนี้จะสร้างรายได้เป็น 50% ของยอดขายทั้งหมด
วิคเตอร์ เซียห์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า เปิดเผยว่า ข้อมูลจาก นีลเส็น ประเทศไทย ระบุว่า ตลาดอาหารและเครื่องดื่มในไทยในปี 2561 มีมูลค่าราว 104,000 ล้านบาท เติบโต 1.9% โดยเนสท์เล่มีการเติบโต 3.1% ซึ่งสูงกว่าตลาดอาหารและเครื่องดื่มโดยรวม
ปัจจัย ก็เนื่องจากการพัฒนาโปรดักท์ที่มีนวัตกรรมตอบโจทย์ผู้บริโภคทั้งในเรื่องรสชาติและความต้องการ สำหรับโปรดักท์ที่น่าสนใจ ก็คือ กลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ ทั้งในกลุ่ม Low sugar และ No sugar ที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งปัจจุบันสินค้าของเนสท์เล่ได้รับเครื่องหมาย HCL (Healthier Choice Logo) หรือ เครื่องหมาย ‘ทางเลือกเพื่อสุขภาพ’ อยู่ 48 รายการ ในสินค้ากลุ่มต่าง ๆ อาทิ เนสกาแฟ , เครื่องดื่มไมโล , แม็กกี้ , ไอศกรีม เป็นต้น
โดยเครื่องหมายดังกล่าว จะมอบให้กลุ่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลต่ำกว่า 6 กรัม ต่อ 100 มิลลิกรัม ส่วนในกลุ่มอาหาร ต้องมีน้ำตาลต่ำกว่า 8 กรัม ต่อ 100 มิลลิกรัม
“เทรนด์สุขภาพมาแรงทั่วโลก ที่ผ่านมาเรามีการปรับมาเรื่อย ๆ ในเรื่องโปรดักท์ โดยนอกจากตอบโจทย์เรื่องสุขภาพแล้ว ที่สำคัญ ต้องรสชาติอร่อย ซึ่งเป็นความท้าทายในเรื่อง R&D โดยในไทยเราตั้งเป้าให้สินค้าในกลุ่มนี้เป็นพอร์ตที่สร้างรายได้ให้ 50% ของยอดขายทั้งหมดในอนาคต”
เปิดแคมเปญ ‘เนสท์เล่ คนไทยแข็งแรง’ กระตุ้นตลาด
ไม่เพียงนำเสนอโปรดักท์ ในปีนี้ยังใช้งบกว่า 85 ล้านบาท ทำแคมเปญ ‘เนสท์เล่ คนไทยแข็งแรง (Nestlé Active Thailand)’ สะท้อนแนวคิดของแบรนด์ที่วางไว้ตั้งแต่เริ่มต้น ก็คือ Good Food, Good Life ด้วยการให้ความรู้ด้านโภชนาการเพื่อสุขภาพที่ดี ตลอดจนส่งเสริมให้คนไทยใช้ชีวิตอย่างกระฉับกระเฉงทุกวัน ผ่าน 3 อ. ได้แก่ อาหาร-ออกกำลังกาย-อารมณ์
เพราะข้อมูลจากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างผู้บริโภคชาวไทยเกี่ยวกับสุขภาพและคุณภาพชีวิตของนีลเส็น ประเทศไทย พบว่า แม้ผู้บริโภค 92% มีความคิดว่า ตนเองมีสุขภาพดี เนื่องจากไม่เจ็บป่วย แต่จริงๆ แล้วจากจำนวนผู้บริโภคดังกล่าว พบว่า 53% มีน้ำหนักตัวเกิน และยังเชื่อว่า การจะมีสุขภาพดีได้นั้นต้องใช้เงิน และมีความเห็นสอดคล้องกันว่า ตนเองมีชีวิตประจำวันที่เร่งรีบไม่มีเวลาออกกำลังกาย และขาดวินัยในตัวเอง
โดยแคมเปญดังกล่าว จะสื่อสารผ่านการตลาดในรูปแบบหลากหลาย เริ่มจาก ‘เว็บฟิล์ม’ ที่นำเสนอแนวคิด 3 อ ผ่าน เนื้อหา 3 ตอน ที่นำรูปแบบของรายการขายตรงแบบโฮมช้อปปิ้งทางโทรทัศน์ ที่คุณแม่ชาวไทยต่างคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ที่หาง่ายๆ ภายในบ้าน มาทำให้เป็นนวัตกรรมที่จะช่วยให้ ‘ชีวิตดีๆ เริ่มง่ายๆ’ ที่ทุกคน
รวมถึง ‘ซูเปอร์มัมแช็ตบอต’ (Supermom Chatbot) แช็ตบอตแรกของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในประเทศไทย ที่ให้ความรู้ด้านโภชนาการเพื่อสุขภาพที่ดีแก่ผู้บริโภค และจัดคาราวานครอบครัวแข็งแรง ซึ่งจัดเป็นปีที่ 11 พร้อมทั้งกิจกรรมบนโซเชียลมีเดียและสื่อดิจิทัล เพื่อเข้าถึงคนไทยกว่า 10 ล้านคนทั่วประเทศ
“โปรดักท์อย่างเดียวไม่พอจะเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภค จำเป็นต้องมีแคมเปญและกิจกรรมอื่น ๆ มาช่วย ซึ่งแคมเปญนี้ถือเป็นแคมเปญใหญ่ของเราที่จำย้ำทั้ง Brand Purpose และสะท้อนแนวคิดของเนสท์เล่ คือ Good Food, Good Life ที่สุดท้ายจะสะท้อนกลับมาที่ยอดขาย”