จบลงไปแล้วสำหรับงาน Thailand International Motor Expo 2023 ที่ในปีนี้ทำสถิติยอดจองแบบพุ่งกระฉูดถึง 54,323 คันเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 32.5% โดยแบรนด์รถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นอย่าง Toyota ยังครองแชมป์ยอดจองสูงสุดเอาไว้ได้
อย่างไรก็ตามแบรนด์รถยนต์จากประเทศจีนโดยเฉพาะ BYD สามารถทำยอดจองได้มากถึง 6,119 คัน ครองอันดับที่ 3 เอาไว้ได้อย่างแข็งแกร่งและที่สร้างเซอร์ไพรส์ ก็คือรถยนต์ EV แบรนด์ ChangAn Deepal S07 ที่มีคนให้ความสนใจมากที่สุดในงานที่สัดส่วน 8.5% เรียกว่าแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากจีนกำลัง Distrupt ตลาดรถยนต์ในบ้านเราอย่างแท้จริง เมื่อครองตำแหน่งไปแล้ว 5 อันดับจากยอดจอง 10 อันดับแรกโดยหากนับเฉพาะแบรนด์จีนแล้วสามารถครองส่วนแบ่งรถยนต์ในงาน Motor Expo 2023 ไปได้มากกว่า 40% เลยทีเดียว
สำหรับการจัดอันดับยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Expo 2023 ครั้งที่ 40 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา มีดังต่อไปนี้
- อันดับ 1 Toyota 7,245 คัน
- อันดับ 2 Honda 6,149 คัน
- อันดับ 3 BYD 6,119 คัน
- อันดับ 4 Aion 4,568 คัน
- อันดับ 5 MG 3,568 คัน
- อันดับ 6 ChangAn 3,549 คัน
- อันดับ 7 GWM 3,524 คัน
- อันดับ 8 Isuzu 2,460 คัน
- อันดับ 9 Nissan 2,459 คัน
- อันดับ 10 Mazda 2,159 คัน
- อันดับ 11 NETA 1,766 คัน
- อันดับ 12 Mitsubishi 1,675 คัน
- อันดับ 13 Suzuki 1,615 คัน
- อันดับ 14 Ford 1,415 คัน
- อันดับ 15 Mercedes-Benz 1,333 คัน
- อันดับ 16 BMW 1,188 คัน
- อันดับ 17 Hyundai 680 คัน
- อันดับ 18 TESLA 528 คัน
- อันดับ 19 Volvo 485 คัน
- อันดับ 20 KIA 321 คัน
- อันดับ 21 Wuling 312 คัน
- อันดับ 22 NEX 229 คัน
- อันดับ 23 Subaru 206 คัน
- อันดับ 24 MINI 172 คัน
- อันดับ 25 Lexus 140 คัน
- อันดับ 26 Audi 120 คัน
- อันดับ 27 Peugeot 101 คัน
- อันดับ 28 Porsche 72 คัน
- อันดับ 29 Lotus 41 คัน
- อันดับ 30 Jeep 26 คัน
- อันดับ 31 TATA 15 คัน
- อันดับ 31 Maserati 15 คัน
- อันดับ 33 Bentley 1 คัน
ส่วน Top 20 อันดับ รถยนต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในงาน Motor Expo 2023
จัดอันดับจากตัวเลขที่ได้จากการคำนวณ รายการ ซื้อรถ…ชิงรถ โดยผู้จัดงาน Motor Expo 2023 บริษัท สื่อสากล จำกัด มีดังต่อไปนี้
- อันดับ 1 ChangAn Deepal S07 8.5%
- อันดับ 2 GAC Aion Y Plus 6.5%
- อันดับ 3 Honda HR-V 5.9%
- อันดับ 4 BYD Dolphin 3.7%
- อันดับ 5 Honda City 3.7%
- อันดับ 6 Toyota Yaris Cross 3.7%
- อันดับ 7 NETA V 3.4%
- อันดับ 8 Ford Everest 3.3%
- อันดับ 9 Ford Ranger 3.0%
- อันดับ 10 Honda Civic 2.5%
- อันดับ 11 Nissan Kicks 2.4%
- อันดับ 12 BYD Atto 3 2.4%
- อันดับ 13 Honda CR-V 2.1%
- อันดับ 14 GWM ORA 07 2.0%
- อันดับ 15 Toyota Corolla Cross 1.7%
- อันดับ 16 BYD Seal 1.7%
- อันดับ 17 Isuzu MU-X 1.6%
- อันดับ 18 GWM ORA Good Cat 1.6%
- อันดับ 19 Toyota Yaris ATIV 1.4%
- อันดับ 20 MG4 1.3%
เรียกได้ว่าแบรนด์รถยนต์จากประเทศจีนเข้ามาครองส่วนแบ่งตลาดได้อย่างแท้จริงโดยหากมองเฉพาะ 10 อันดับแรกก็มีแบรนด์รถยนต์ EV จากประเทศจีนไปแล้วถึง 5 อันดับ และจากยอดจองทั้งหมดแบรนด์จีนสามารถครองส่วนแบ่งตลาดไปได้เกิน 40% ก็ว่าได้ โดยหากเเรียงตามลำดับยอดจองเฉพาะแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าก็คือ
- อันดับ 1 BYD 6,119 คัน
- อันดับ 2 Aion 4,568 คัน
- อันดับ 3 MG 3,568 คัน
- อันดับ 4 ChangAn 3,549 คัน
- อันดับ 5 GWM 3,524 คัน
จากนี้น่าจับตามองว่าแบรนด์จีนโดยเฉพาะการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะสามารถเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าตลาดรถยนต์ในประเทศไทยไปได้อีกแค่ไหน จะก้าวขึ้นมาโค่นแบรนด์รถยนต์สันดาบจากประเทศญี่ปุ่นที่ครองตลาดมาอย่างยาวนานในเร็วๆนี้ได้หรือไม่ และแบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่นเหล่านั้นจะแก้เกมนี้อย่างไรน่าติดตามจริงๆ