รู้จักบริษัทขายตรง Top 5 ของไทย มีใครบ้าง ขายตรงที่ถูกต้องทำอย่างไร? พร้อมเปิดรายได้ 3 ปีล่าสุด

  • 1.7K
  •  
  •  
  •  
  •  

ท่ามกลางข่าวคราวใหญ่โตของบริษัทที่มีโมเดลธุรกิจคล้ายขายตรงยักษ์ใหญ่มีดาราดังหลายคนเข้าไปเกี่ยวข้อง พร้อมกับการมีผู้เสียหายจำนวนมากออกมาเปิดเผยตัว เรื่องนี้ยังคงต้องรอการตรวจสอบกับกระบวนการทางกฎหมายกันต่อไป แต่สำหรับบทความนี้เราจะไปดูธุรกิจขายตรงในประเทศไทยยังคงเติบโตพร้อมๆกับความท้าทายต่างๆ โดยเฉพาะการแข่งขันที่สูงขึ้นและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยในประเทศไทยเองก็มีบริษัทขายตรงหลายแห่งที่ดำเนินธุรกิจได้แบบถูกต้องตามกฎหมายและสามารถสร้างยอดขายในแต่ละปีได้ในหลักหลายพันจนถึงระดับหมื่นล้าน

วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ 5 บริษัทขายตรงระดับท็อปของไทยแต่ละบริษัทมีที่มาที่ไปอย่างไรและมีรายได้เท่าไหร่บ้างในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พร้อมกับไปรู้จักกับธุรกิจขายตรงที่ทำอย่างถูกต้องทำอย่างไร โดยก่อนอื่นธุรกิจขายตรงในประเทศไทยจะมี 2 รูปแบบหลักๆ คือ

  • ขายตรงแบบหลายชั้น (Multi-level Marketing: MLM) เป็นระบบการขายที่ผู้จำหน่ายมีรายได้จากการขายสินค้า และจากการชักชวนผู้อื่นเข้ามาเป็นผู้จำหน่ายในสายงานของตน โดยจะได้รับส่วนแบ่งจากยอดขายของผู้ที่ตนชักชวนเข้ามาด้วย
  • ขายตรงแบบชั้นเดียว (Single-level Marketing: SLM) เป็นระบบการขายที่ผู้จำหน่ายมีรายได้จากการขายสินค้าเท่านั้น ไม่มีการรับส่วนแบ่งจากยอดขายของผู้อื่น

สำหรับธุรกิจขายตรงที่ถูกต้องนั้น “สมาคมธุรกิจขายตรงไทย” ได้ชี้แจงรูปแบบธุรกิจขายตรงที่ถูกต้อง 8 ข้อซึ่งมีประเด็นสำคัญอยู่ในข้อที่ 4 และ 5 

  1. ผู้ประกอบธุรกิจต้องจดทะเบียนก่อนการประกอบธุรกิจขายตรงกับสำนักงาน คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
  2. ค่าธรรมเนียมในการสมัครเป็นผู้จำหน่ายอิสระหรือตัวแทนขายตรงต้องมี ความเหมาะสม เงินค่าสมัครจ่ายเพื่อคู่มือความรู้ เอกสารฝึกอบรม และ สินค้าตัวอย่างเท่านั้น
  3. มีความรับผิดชอบต่อผู้จำหน่ายอิสระหรือตัวแทนขายตรงโดยมีแผนธุรกิจกิจที่ เป็นไปได้จริง และคำนึงถึงการดำเนินธุรกิจในระยะยะยาว
  4. การจ่ายผลตอบแทน รายได้ และตำแหน่ง ให้แก่ผู้จำหน่ายอิสระหรือตัวแทน ขายตรง ต้องมาจากการขายสินค้าหรือบริการ ไม่ใช่การระดมทุนหรือใช้เงินซื้อตำแหน่ง โดยผู้ประกอบการจะต้องยื่นแผนธุรกิจในการจ่ายผลตอบแทนเพื่อให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคพิจารณาและอนุมัติ
  5. เน้นการจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพ ยอดขายมาจากการจำหน่ายสินค้าไปสู่ ผู้บริโภคโดยตรง ไม่ได้มาจากการกักตุนสินค้าของผู้จำหน่ายอิสระหรือ ตัวแทนขายตรง และคำนึงถึงความพึงพอใจของลูกค้าเป็นสำคัญ
  6. มีการรับประกันความพอใจของสินค้า โดยลูกค้าสามารถคืนสินค้ากับบริษัท ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด
  7. มีกฎระเบียบที่เข้มงวดในการดำเนินธุรกิจ เพื่อปกป้องผู้จำหน่ายอิสระหรือ ตัวแทนขายตรง และผู้บริโภค
  8. ผู้ประกอบธุรกิจ ผู้จำหน่ายอิสระหรือตัวแทนขายตรง ต้องไม่กล่าวอ้างหรือ โฆษณาสรรพคุณของสินค้าเกินจริง

สำหรับปัจจุบันธุรกิจขายตรงในปี 2566 มีมูลค่า 60,000 ล้านบาทยังคงซบเซาเห็นได้จากยอดขายของบริษัทส่วนใหญ่ที่ยังคงมียอดขายที่การเติบโตที่ติดลบอยู่ ส่วนกำไรนั้นก็ลดลงจากปีก่อนหน้า ส่วนหนึ่งเนื่องจากสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ที่ยังส่งผลกระทบกับสภาพเศรษฐกิจมาถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตามต้องติดตามกันต่อไปว่าธุรกิจขายตรงในปี 2567 นี้จะเป็นอย่างไร

สำหรับ 5 บริษัทขายตรงระดับท็อปของไทยมีบริษัทอะไรบ้างไปดูกัน

1. แอมเวย์ (Amway)

บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็น “บริษัทสัญชาติอเมริกัน” ที่ก่อตั้งโดยริช เดอโวส และ เจย์ แวน แอนเดลตั้งแต่ปี 1959 จดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในประเทศไทยในปี 1985 หรือเกือบ 40 ปีมาแล้ว นำเสนอผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ ความงาม ของใช้ในครัวเรือน และผลิตภัณฑ์เพื่อบ้าน ภายใต้แบรนด์ดังเช่น Nutrilite, Artistry, eSpring และ Amway Home

คุณทศพร นิษฐานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย)

ปัจจุบันบริหารงานโดยคุณทศพร นิษฐานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย)

ผลประกอบการ 3 ปีล่าสุดจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

  • ปี 2021: รายได้ 18,705 ล้านบาท กำไร 882 ล้านบาท
  • ปี 2022: รายได้ 17,810 ล้านบาท กำไร 512 ล้านบาท (-41.89%)
  • ปี 2023: รายได้ 16,848 ล้านบาท กำไร 943 ล้านบาท (83.94%)

2. กิฟฟารีน (Giffarine)

บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด “บริษัทสัญชาติไทย” จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นในปี 2001 โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ ความงาม เครื่องสำอาง อาหารเสริม และของใช้ในครัวเรือน 

พญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการบริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด

ปัจจุบันพญ.นลินี ไพบูลย์ ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด

ผลประกอบการ 3 ปีล่าสุดจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

  • ปี 2021: รายได้ 4,751 ล้านบาท กำไร 468 ล้านบาท
  • ปี 2022: รายได้ 4,249 ล้านบาท กำไร 297 ล้านบาท (-36%)
  • ปี 2023: รายได้ 4,123 ล้านบาท กำไร 258 ล้านบาท (-13%)

3. ชูเลี่ยน (ZHULIAN)

บริษัท ชูเลี่ยน (ประเทศไทย) จำกัด เป็น “บริษัทสัญชาติมาเลเซีย” ที่ก่อตั้งโดยเตีย เบง เซง เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยในปี 1989 จำหน่ายสินค้าประเภทเครื่องประดับ ก่อนจะขยายไปสู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆเช่นกาแฟคอฟฟี่ พลัส ยาสีฟัน SmileOn เครื่องดื่มชนิดผง อย่าง โกโก้พลัส และซีเรียลพร้อมทานผสมน้ำผึ้ง นูทรีพลัสเป็นต้น รวมไปถึงสินค้าแฟชั่นหลายชนิด

ดร.ปิยะวัฒน์ จุลล์จักรวงศา ประธานกรรมการบริษัท ชูเลี่ยน (ประเทศไทย) จำกัด

ปัจจุบันมี ดร.ปิยะวัฒน์ จุลล์จักรวงศา ดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการบริษัท ชูเลี่ยน (ประเทศไทย) จำกัด

ผลประกอบการ 3 ปีล่าสุดจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

  • ปี 2021: รายได้ 2,262 ล้านบาท กำไร 272 ล้านบาท
  • ปี 2022: รายได้ 1,988 ล้านบาท กำไร 206 ล้านบาท (-24.37%)
  • ปี 2023: รายได้ 1,975 ล้านบาท กำไร 143 ล้านบาท (-30.41%)

4. เลกาซี่ (LEGACY)

บริษัท เลกาซี่ คอร์ป จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2014 “บริษัทสัญชาติไทย” ที่เน้นจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพเช่นแบรนด์ nfinite โปรตีนเชค และความงามภายใต้แบรนด์ Body N Joy, Callis, Noroma รวมไปถึงสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ปัจจุบันบริหารงาน

คุณวรรณ โชติกะวรรณ กรรมการผู้จัดการบริษัท เลกาซี่ คอร์ป จำกัด

ปัจจุบัน คุณวรรณ โชติกะวรรณ ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัท เลกาซี่ คอร์ป จำกัด

ผลประกอบการ 3 ปีล่าสุดจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

  • ปี 2021: รายได้ 1,969 ล้านบาท กำไร 56 ล้านบาท
  • ปี 2022: รายได้ 1,395 ล้านบาท กำไร 6 ล้านบาท (-87.66%)
  • ปี 2023: รายได้ 1,076 ล้านบาท กำไร 3 ล้านบาท (-47.34%)

5. ซัคเซสมอร์ (SCM)

บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) เป็น “บริษัทสัญชาติไทย” ก่อต้งขึ้นในปี 2012 โดยนายสิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ และ นายนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทมหาชนในปี 2021 จำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณ โดยสินค้าที่มียอดขายสูงสุด 2 กลุ่มแรกยังคงเป็นสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการเกษตรตามลำดับ

นพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน)

ปัจจุบัน มีคุณนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน)

ผลประกอบการ 3 ปีล่าสุดจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

  • ปี 2021: รายได้ 1,269 ล้านบาท กำไร 203 ล้านบาท
  • ปี 2022: รายได้ 1,182 ล้านบาท กำไร 183 ล้านบาท (-9.38%)
  • ปี 2023: รายได้ 988 ล้านบาท กำไร 112 ล้านบาท (-38.99%)

  • 1.7K
  •  
  •  
  •  
  •