หลังจากเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมามีกระแสข่าวรายงานว่า Meta บริษัทเจ้าของแพลทฟอร์มใหญ่อย่าง Facebook และ Instagram กำลังซุ่มพัฒนาแอปพลิเคชั่นที่จะเป็นสื่อสังคมออนไลน์ทางเลือกที่อาจมาแทน Twitter หลังจาก อีลอน มัสก์ เข้ามาเทคโอเวอร์และเปลี่ยนแปลงนโยบายหลายอย่างที่สร้างความไม่พอใจให้ผู้ใช้งานเป็นวงกว้าง
เรื่องนี้ถูกมองว่ากลายเป็นโอกาสที่ Meta อาจสามารถสร้างสื่อสังคมออนไลน์ใหม่สำหรับบรรดาครีเอเตอร์และบุคคลสาธารณะใช้เป็นแพลทฟอร์มในการสื่อสารได้ โดยข่าวก่อนหน้านี้รายงานว่าแอปพลิเคชั่นดังกล่าวถูกเรียกว่า “Barcelona” และมีการเผยแพร่ภาพบางส่วนจากแอปที่อยู่ระหว่างการพัฒนาออกมาด้วย
ล่าสุด Alessandro Paluzzi นักวิจัยแอปพลิคเชั่นได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับแอปฯ Barcelona อีกครั้งโดยครั้งนี้ได้ออกมาเผยแพร่หน้าตาไอคอนของแอปพลิเคชั่นที่จะถูกติดตั้งลงบนสมาร์ทโฟนของผู้ใช้งานหลังจากดาวน์โหลด โดยไอคอนดังกล่าวมีสีฟ้าและยังคงใช้การออกแบบไล่ Gradient แบบเดียวกับแอป Instagram ที่เราคุ้นเคย
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา Meta กำลังซุ่มพัฒนาแอปพลิเคชั่น Social Media ที่จะเป็นทางเลือกนอกเหนือไปจาก Twitter หลังจากชาวทวิตจำนวนมากทั่วโลกเกิดความไม่พอใจนโยบายใหม่ของ มัสก์ และมองหาแพลทฟอร์มแชร์ข้อความสั้นลักษณะเดียวกันเป็นทางเลือก ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีภาพหลุดของแอปที่ถูกเรียกว่า “Instagram for your thoughts” รวมถึงรูปแบบ UI ในการโต้ตอบในแอปที่แยกออกมาอีกแอป ปล่อยออกมาให้เห็นก่อนหน้านี้ด้วย
ซึ่งจากภาพ UI ที่เผยแพร่ออกมาด้านบนนี้ก็แสดงให้เห็นรูปลักษณ์ที่คล้ายกับ Twitter ที่ถูกลดความซับซ้อนลง และมีหน้าฟีดแบบ chat-based รูปแบบที่จะช่วยให้ Meta เข้าถึงพฤติกรรมของผู้คนที่เลือกที่จะอัพเดทชีวิตผ่านกลุ่มคนในวงแคบลงผ่านระบบส่งข้อความเช่นใน DM แทนที่จะเป็นกลุ่มเพื่อนใน Main Feed รวมไปถึงได้ประโยชน์จากชาวทวิตจำนวนมากที่กำลังหาพื้นที่ใหม่นอกจาก Twitter ในเวลานี้
แอปนี้ยังคงมีชื่อเรียกว่า “Barcelona” เป็นแอปใหม่ในการแชร์ข้อความสำหรับผู้ใช้ Instagram โดยผู้ใช้งานจะสามารถโพสต์ข้อความได้สูงสุด 500 ตัวอักษร สามารถโพสต์ link รูแภาพ รวมถึงวิดีโอได้สูงสุด 5 นาที อย่างไรก็ตามความหมายของการเป็นแอปที่ decentralized นั้นยังไม่ชัดเจนนัก ขณะที่การเปิดตัวนั้นถูกคาดหมายว่าอาจมีขึ้นภายในเดือนกันยายนหรืออาจเร็วกว่านั้น
น่าสนใจว่าการเกิดขึ้นของแอป Barcelona จะเปลี่ยนแปลง landscape ของสื่อสังคมออนไลน์ไปมากแค่ไหน โดยเฉพาะเมื่อมองไปถึงจำนวนผู้ใช้งาน Instagram ที่มีมากกว่าผู้ใช้งาน Twitter ถึง 4 เท่า และจากนี้ก็ยังไม่รู้ว่ามัสก์จะมีนโยบายอะไรใหม่ๆออกมาที่อาจทำให้ผู้ใช้งานหนีออกมาอีกมากแค่ไหน ก็คงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไปว่า Barcelona จะได้รับความสนใจ หรือมีฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์การใช้งานมาน้อยแค่ไหนด้วยเช่นกัน