ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา นอกจากมีกระแสการปลดพนักงานจนเป็นปรากฏการณ์โดมิโน่แล้ว บริษัทส่วนใหญ่ได้ใช้วิธีการแช่แข็งจำนวนพนักงานด้วย โดยยังไม่มีกำหนดการที่จะรับพนักงานคนใหม่อย่างชัดเจน
ดังนั้น บริษัทที่ทำเกี่ยวกับการจัดหาแรงงานให้กับบริษัทต่างๆ จึงได้รับผลกระทบไปด้วย โดยรายล่าสุด คือ ‘LinkedIn’ แพลตฟอร์มหางานและรับสมัครงานที่ Microsoft เคยเข้าซื้อกิจการในปี 2559 โดยในปัจจุบันมีพนักงานอยู่ทั้งหมด 16,000 คน ในกว่า 30 เมืองทั่วโลก
บริษัทได้ประกาศเตรียมจะปลดพนักงานประมาณ 960 คน หรือราว 6% ของจำนวนพนักงานทั่วโลก รวมถึงในสหราชอาณาจักรด้วย ซึ่งมีจำนวนพนักงานของ LinkedIn จำนวนไม่น้อย
ข้อความของ ‘Ryan Roslansky’ CEO ของ LinkedIn ระบุว่า “สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงการวางแผนเท่านั้น และลองประเมินจำนวนพนักงานที่จะได้รับผลกระทบคร่าวๆ ซึ่งแน่นอนว่า บริษัทหวังว่าจะมีตัวเลือกที่ดีกว่านี้ แต่เราเองก็ไม่สามารถรอดพ้นจากผลกระทบที่เกิดจากไวรัส COVID-19 ได้”
ทั้งนี้ บริษัทยังไม่เห็นสัญญาณว่า การจ้างงานจะกลับมาเร็วๆ นี้ ซึ่งหลายๆ ธุรกิจยังคงพิจารณาการปลดจำนวนพนักงานต่อเนื่อง และอย่างที่ล่าสุด ‘Mark & Spencer’ ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ของสหราชอาณาจักร ได้ประกาศเลิกจ้างพนักงาน 950 คน ขณะที่เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ‘IndiGo’ สายการบินโลว์คอสต์ และเป็นรายใหญ่ที่สุดในอินเดีย ตัดสินใจปรับลดพนักงานออก 10%
สำหรับบริษัทพนักงานที่ได้รับผลกระทบ บริษัทอนุญาตให้พวกเขาสามารถเก็บโทรศัพท์มือถือ, แล็ปท็อป และอุปกรณ์อื่นๆ ที่บริษัทออกให้ในระหว่างที่ทำงานกับ LinkedIn นอกจากนี้จะจ่ายเงินชดเชยให้ 10 สัปดาห์ รวมถึงการให้ประกันสุขภาพสำหรับพนักงานในสหรัฐอเมริกา 1 ปี โดย CEO ยังกล่าวด้วยว่า หากมีการจ้างงานใหม่อีกครั้ง บริษัทจะเริ่มพิจารณาผู้สมัครจากกลุ่มพนักงานที่ถูกปลดจากครั้งนี้