แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เราได้เห็นร้าน “Lawson 108” เปิดให้บริการบนสถานีรถไฟฟ้า BTS แต่การขยายสาขาจนครบ 5 แห่ง ภายในเวลา 6 เดือน กับสาขาล่าสุดบนสถานี BTS แบริ่ง อะไรคือเป้าหมาย…ภายใต้การผนึกกำลังของ 3 พาร์ทเนอร์รายใหญ่ อย่าง “VGI – สหลอว์สัน – SPI” และอะไรจะเป็นปัจจัยสร้างความสำเร็จให้ร้าน Lawson 108 ตามแนวทางใหม่ที่ต้องการขยายสาขาไปยังสถานี BTS ศูนย์กลางการเดินทาง รวมถึงทำเลอื่น ๆ และความท้าทายของสมรภูมิ “ร้านสะดวกซื้อ” อันดุเดือด
จดทะเบียนบริษัท “SLV Retail” ดำเนินการแบบ Joint Venture
สำหรับร้าน Lawson 108 ที่เราเห็นตามสถานีรถไฟฟ้า BTS เป็นการดำเนินการในรูปแบบกิจการร่วมค้า (Joint Venture) ระหว่างทั้ง 3 บริษัท ซึ่งร่วมกันเปิดตัวบริษัทใหม่ในชื่อ SLV Retail ด้วยทุนจดทะเบียนราว 20 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนการถือหุ้นเป็น สหลอว์สัน (บริษัท สหลอว์สัน จำกัด) 60% VGI (บมจ.วีจีไอ โกลบอล มีเดีย) 30% และ SPI (บมจ.สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง) 10%
สาขาใหม่ใช้พื้นที่น้อย แต่ได้ประโยชน์หลายทาง!
รูปแบบร้าน Lawson 108 ที่เปิดให้บริการบนสถานีรถไฟฟ้า BTS จะมีจุดเด่น คือ การเป็นร้านคีออสซึ่งใช้พื้นที่ไม่มากเท่ากับรูปแบบอื่น แต่ยังคงเอกลักษณ์ของร้านด้วยการขาย “โอเด้ง” และ “ของทอด” ซึ่งเป็นสินค้ายอดนิยมในประเทศไทย ขณะเดียวกัน ประโยชน์จากการขยายสาขาโดยยึดทำเล BTS ก็ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์เข้าถึงผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสินค้าที่นิยมคือซอฟต์ดริ้งค์ เพราะ BTS ถือเป็นระบบคมนาคมที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากในแต่ละวัน ซึ่งนอกจากช่วยเพิ่มยอดขายให้แบรนด์ได้เป็นอย่างดี ก็ยังสร้างการรับรู้ในแบรนด์จากผู้คนที่สัญจรด้วย BTS สามารถพบเห็นและจดจำแบรนด์ได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การได้รับสิทธิ์ในการเปิดสาขาบนสถานีรถไฟฟ้า BTS นั้น ยังถือเป็นความพิเศษที่ร้าน Lawson 108 จะได้รับ เพราะปัจจุบันไม่มีร้านสะดวกซื้อแบรนด์อื่นที่ตั้งอยู่บนทำเลดังกล่าวแล้ว ส่วนสาขาของร้าน Lawson 108 บน BTS ได้แก่ สถานีทองหล่อ, สถานีสะพานควาย, สถานีเพลินจิต สถานีอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และสถานีแบริ่ง
ส่วนเป้าหมายของร้าน Lawson 108 บนสถานี BTS นั้น บริษัท SLV มีเป้าหมายจะเปิดให้บริการครอบคลุมตามสถานีหลักของ BTS ภายใน 2-3 ปีนี้ ซึ่งอาจมีบางสาขาที่ปรับรูปแบบเป็นร้านขนาดใหญ่กว่าแบบคีออสเพื่อสร้างโอกาสในการจำหน่ายสินค้าและรองรับลูกค้าได้มากขึ้น โดยปัจจุบันสาขา BTS ทองหล่อ มีขนาดใหญ่ที่สุด (32 ตร.ม.) และสาขา BTS แบริ่ง มีขนาดเล็กที่สุด (10 ตร.ม.)
เดินหน้าขยายสาขาต่อเนื่อง ปักธงลุย…ไปมากกว่าทำเล BTS
การเปิดสาขาใหม่บนทำเล BTS นั้น ร้าน Lawson 108 เพิ่งดำเนินการมาได้เพียง 6 เดือน แต่มีเป้าหมายสาขาบนทำเลสถานีรถไฟฟ้า 15 แห่งภายในสิ้นปี เท่ากับว่าจะมีสาขาใหม่ ๆ เกิดขึ้นไม่ต่ำกว่า 10 แห่งภายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จากปัจจุบันที่มีสาขาทั้งหมด 123 แห่ง เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบและต้องการความสะดวกสบายของคนในปัจจุบัน
“เมื่อต้นปี ในไทยมีร้าน Lawson 108 ทั้งสิ้น 99 แห่ง นั่นหมายถึงช่วง 6 เดือนนี้ เราขยายไปถึง 24 แห่ง ซึ่งนอกจากเราจะมองหาทำเลสาขาใหม่บน BTS แล้ว ก็ยังมองย่านชุมชนและสำนักงานที่มีชาวญี่ปุ่นจำนวนมากอีกด้วย แต่เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของชาวญี่ปุ่นนิยมอยู่เป็นกลุ่มจำกัดทำให้บริษัทเน้นตอบโจทย์ลูกค้าชาวไทยมากกว่า ยกตัวอย่างชัดเจนอีกเรื่อง คือ การขายโอเด้งและของทอดซึ่งในประเทศญี่ปุ่นไม่ขายสินค้าดังกล่าว แต่ในไทยเราถือเป็นสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ของร้าน” คุณโคอิชิ ฮิโรเสะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหลอว์สัน จำกัด
ปัจจุบันสาขาของร้าน Lawson 108 แบ่งเป็นประเภทต่าง ๆ ได้แก่ ร้านทั่วไป 91 แห่ง, ร้านที่ตั้งภายในปั๊มน้ำมันซัสโก้ 20 แห่ง, ร้านที่ตั้งใน Metro Mall สถานี MRT ราว 7 แห่ง และร้านบนสถานี BTS อีก 5 แห่ง ซึ่งการขยายสาขาใหม่ ๆ ในอนาคตนั้น บริษัทจะพิจารณาจากหลายทำเล เช่น สาขาใหม่บน BTS, ร้านสาขาในปั๊มน้ำมันซัสโก้, ทำเลเพิ่มเติมในกรุงเทพฯ เป็นต้น ส่วนการต่อยอดธุรกิจสู่แฟรนไชส์แบบ B2C นั้น ยอมรับว่ามีความสนใจแต่ยังอยู่ระหว่างการศึกษา เนื่องจากคู่แข่งในธุรกิจร้านสะดวกซื้อมีจำนวนมากและเป็นรายใหญ่ทั้งสิ้น
ต่อยอดสังคม Cashless รับชำระผ่านแพลตฟอร์มแรบบิท
และเพื่อรองรับความต้องการใช้จ่ายที่หลากหลายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ปัจจุบันร้าน Lawson 108 จึงพัฒนาช่องทางรับชำระเงินให้สามารถใช้จ่ายผ่านบัตรแรบบิท และ Rabbit Line Pay ร่วมกับการใช้เงินสดได้ด้วย โดยทุกสาขาบนสถานี BTS จะสามารถใช้แพลตฟอร์ม Cashless ได้ทุกแห่ง ส่วนสาขาอื่น ๆ ปัจจุบันได้ขยายการรองรับราว 80% แล้ว แต่ทุกสาขายังคงรองรับการใช้จ่ายด้วยเงินสดซึ่งเป็นพฤติกรรมที่คนไทยคุ้นชินและชื่นชอบ
ไทยเกิด “วิกฤต” ร้านสะดวกซื้อ
“ต้องยอมรับว่าธุรกิจของเราอยู่ในภาวะวิกฤต ทั้งเรื่องการหาทำเลที่น่าสนใจและปัญหาจากการปรับขึ้นค่าเช่าพื้นที่ รวมถึงการที่ประเทศไทยมีเจ้าตลาดรายใหญ่อยู่แล้วจึงยากต่อการแข่งขัน แต่ผลประกอบการของเราก็ยังเติบโตและน่าพอใจตามเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าบริษัทยังมีโอกาสเติบโตอีกมากเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรไทย และรายรับของคนไทยที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคกล้าจับจ่ายและลองซื้อสินค้าต่าง ๆ มากขึ้น สอดคล้องกับบทบาทของร้าน Lawson 108 ที่ถือเป็นทางเลือกใหม่แก่ผู้บริโภค”