รู้จัก Quiet Firing และ Quiet Hiring กลยุทธ์นายจ้างใช้รับมือเทรนด์ Quiet Quitting ที่บริษัทใหญ่เริ่มใช้แล้ว

  • 203
  •  
  •  
  •  
  •  

หลายคนคงจะคุ้นเคยกันแล้วกับเทรนด์ในการทำงานที่เรียกว่า Quiet Quitting แนวคิดในการทำงานแบบใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มคน Gen Z ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของสุขภาพจิต มีเส้นแบ่งระหว่าง “งาน” และ “ชีวิต” อย่างชัดเจนเพื่อลดความเครียดในการทำงานหรือที่เรียกกันว่า “Burn Out” โดยทำงานให้เป็นไปตามมาตรฐานและไม่ “ทุ่มเท” ทำอะไรที่เกินไปกว่าหน้าที่รับผิดชอบของตัวเอง

ล่าสุดก็เกิดเทรนด์จากฝั่งของนายจ้างที่นำมาใช้รับมือกับกลุ่มพนักงานที่กำลัง Quiet Quitting แล้วนั่นก็คือ “Quiet Firing” และ “Quiet Hiring” วิธีการที่บริษัทใหญ่ๆเริ่มเอาหนึ่งในสองกลยุทธ์นี้มาใช้กันแล้ว ในจำนวนนั้นรวมไปถึงบริษัท Google บริษัท IT ยักษ์ใหญ่ที่เรารู้จักกันดี แต่คำถามก็คือกลยุทธ์ทั้งสองนั้นคืออะไรกันแน่

Quiet Firing ให้ออกแบบเงียบๆ

เช่นเดียวกันกับ Quiet Quitting ที่เริ่มถูกอธิบายใน Social Media เป็นที่แรกๆ ล่าสุด Quiet Firing ก็ถูกพูดถึงมากขึ้นด้วยเช่นกันว่าเป็นแนวทางที่เกิดขึ้นในกลุ่มของนายจ้างเพื่อรับมือกับกลุ่ม Quiet Quitter ที่ถูกมองว่าไม่ได้สร้าง Productivity ให้กับบริษัท ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทำอะไรบางอย่างให้พนักงานคนนั้นยอมเดินออกจากองค์กรไปเอง

ยกตัวอย่าง Quiet Firing ที่มีการนำมารายงานผ่าน LinkedIn News ก่อนหน้านี้ก็อย่างเช่นการไม่ขึ้นเงินเดือนหรือปรับตำแหน่งใดๆเลยเป็นเวลาหลายปี การปรับให้ไปทำในตำแหน่งหน้าที่รับผิดชอบที่ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์มาก หรือ ขัดขวางโอกาสที่จะทำให้เกิดการพัฒนาหรือปิดโอกาสสู่การเติบโตเป็นผู้นำเป็นต้น

บทความในเว็บไซต์ HuffPost ล่าสุดไล่เรียงสัญญาณที่บอกให้รู้ว่าคุณอาจกำลังถูกเล่นงานด้วยมาตรการ Quiet Firing เอาไว้หลายเรื่องด้วยกันไม่ว่าจะเป็น “เจ้านายหายไลน์ไม่ตอบ” เช่นไม่มีการปรึกษาหารือแบบตัวต่อตัวกันอีกต่อไปแล้ว การไม่มีการให้คำแนะนำหรือไม่มี Feedback กับงานที่ทำ รวมถึงการ “ถูกจัดให้อยู่ในแผนพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานอย่างไม่มีเหตุผล” หรือ “ถูกกันออกจากโอกาสที่จะได้ทำงานใน Project ดีๆ” เป็นต้น

LinkedIn News ทำแบบสำรวจเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ถึงประสบการณ์ของบรรดาคนทำงานว่าเคยเห็นสิ่งที่เรียกว่า Quiet Firing เกิดขึ้นในสถานที่ทำงานหรือไม่ ผลปรากฏว่า 48% ของกลุ่มผู้ทำแบบสอบถามเคยเห็น Quiet Firing เกิดขึ้นในที่ทำงาน นอกจากนี้ 38% ยังระบุว่า เคยเจอกับสิ่งนี้มาแล้วด้วยตัวเอง ขณะที่มีเพียง 13% เท่านั้นที่มองว่ามันไม่มีอยู่จริง

Quiet Hiring วิธีการที่ Google ใช้

นอกจาก Quiet Firing แล้วยังมีอีกปรากฎการณ์ที่นายจ้างนำมาใช้รับมือกับ Quiet Quitter โดยเฉพาะบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Google ที่ใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า Quiet Hiring กลยุทธ์นี้เป็นวิธีการในการสรรหาบุคลากรที่มีว่ากันว่าเป็นประโยชน์กับนายจ้างมากๆ และในทางกลับกันก็ไม่ได้เป็นผลดีกับกลุ่มคนที่เป็น Quiet Quitter

สำหรับ Quiet Hiring มีความหมายถึงการสนับสนุนพนักงานที่ทุ่มเททำงานมากกว่าบทบาทหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย รวมถึงคนที่รับผิดชอบหน้าที่เพิ่มเติมที่เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าพนักงานเหล่านั้นตั้งใจทำให้ดีที่สุดมากกว่าบทบาทหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย

แนวทางนี้เป็นไปตามผลการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าพนักงานที่ทำงานแบบทะเยอทะยานและมีเป้าหมายจะทำงานได้มีประสิทธิภาพหรือมี Productivity มากกว่าพนักงานทั่วไปถึง 400% ดังนั้นในมุมมองของนายจ้างการสนับสนุนพนักงานเหล่านี้จึงเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผล

แนวทาง Quiet Hiring ของ Google นั้นไม่ได้จำกัดอยู่แต่เฉพาะพนักงานที่ทำงานอยู่แล้วเท่านั้น แต่จากข้อมูลของ Per Inc. คณะกรรมการคัดเลือกบุคลากรของ Google เองก็มีเงื่อนไขในการตัดสินผู้สมัครเข้าทำงานกับ Google 2 ใน 5 เรื่อง ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เช่น การให้ความสำคัญกับ Recommendation จากพนักงานปัจจุบันของบริษัท รวมไปถึง การแนะนำถึงความชื่นชอบที่มีต่อบริษัทหรือ Testimonials ในการเข้าทำงาน เพื่อลดความเสี่ยงของการจ้างงานที่ผิดพลาดให้ลดน้อยลง

นั่นหมายถึงกลุ่มคนที่เป็น Quiet Quitter เองนั้นก็จะหางานได้ยากมากขึ้นโดยเฉพาะกับบริษัทใหญ่ๆอย่าง Google หรือบริษัทที่มีแนวคิดแบบเดียวกัน ขณะที่พนักงานที่กำลัง Quiet Quitting เองก็กำลังถูกมองข้ามจากการปรับตำแหน่งหรือขึ้นเงินเดือนที่จะนำไปสู่ความก้าวหน้าด้วยเช่นกัน ในขณะเดียวกัน Quiet Hiring ก็เป็นเหมือนกับการให้พลังกับพนักงานที่ต้องการความก้าวหน้าและพร้อมที่จะทุ่มเทให้กับองค์กรเช่นกัน

นั่นก็คือปรากฏการณ์ใหม่ๆที่เกิดขึ้นในสถานที่ทำงานที่อาจเรียกได้ว่าเป็นเหตุเป็นผลต่อกัน สำหรับนายจ้างเองก็ต้องปรับกลยุทธ์เพื่อทำให้เกิดผลดีกับองค์กรมากที่สุด ส่วนพนักงานเองก็ต้องมีเส้นแบ่งของการทำงานและสุขภาพจิต แน่นอนว่าสมดุลระหว่างสองฝ่ายจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อนายจ้างและพนักงานหันหน้าพูดคุยกันอย่างเปิดอกเพื่อให้ไม่ต้องเกิดปรากฏการณ์ Quiet Quitting ที่จะนำไปสู่ Quiet Firing ตามมา เพราะการพูดคุยคือทางออกเดียวที่จะทำลายความเงียบลงได้นั่นเอง

ที่มา entrepreneur


  • 203
  •  
  •  
  •  
  •