IPG MEDIABRANDS เปิดตัว ‘Thrive’ ยูนิตใหม่ที่มาพร้อมจุดยืน Better Science , Better Art , Better Outcomes

  • 111
  •  
  •  
  •  
  •  

หลังจากมีการเปิดตัวในระดับโกลบอลเมื่อช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ถึงเวลาเครือข่ายเอเยนซี่ระดับโลกอย่าง IPG MEDIABRANDS เปิดตัว ‘Thrive’ ในไทย ภายใต้จุดยืน Better Science , Better Art , Better Outcomes

Thrive ถือเป็นหนึ่ง Business unit ในเครือ IPG MEDIABRANDS ซึ่งมีการก่อตั้งเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ประเดิมแห่งแรกที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ก่อนมีการขยายเพิ่มเติม จนปัจจุบันมีการดำเนินการอยู่ใน 8 ประเทศทั่วโลก โดยในแถบเอเชียแปซิฟิก หรือ APAC มีอยู่ 2 แห่ง ได้แก่ ออสเตรเลีย และไทย

สันต์ เดโชดมพันธ์ ผู้รับหน้าที่ Managing Director Thrive ประเทศไทย เล่าให้ฟังว่า การเปิดตัวในไทย เป้าหมายต้องการยกระดับมาตรฐานการวางแผนสื่อสารการตลาดให้มีมาตรฐานเดียวกับสากล ภายใต้จุดยืนและจุดขายของ Thrive ทั่วโลก รวมถึงไทย ก็คือ Better Science , Better Art , Better Outcomes

– Better Science ศาสตร์ของการใช้ Data Analytic ที่ทำความเข้าใจทั้งสินค้าและผู้บริโภคในหลากหลายมิติ อาทิ มิติของประชากรศาสตร์ , พฤติกรรม , ทัศนคติ ฯลฯ ด้วยการอาศัยเครื่องมือที่เรียกว่า The Business Analytic Engine (BAE) คือ รูปแบบการใช้ข้อมูลจากหลากหลายมิติ เพื่อเป็นแกนกลางในการพัฒนากลยุทธ์การสื่อสารในภาพรวม ด้วยการสร้างรูปแบบการทำงานที่สามารถคาดการณ์ถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในการวางธุรกิจด้วยข้อมูลเชิงลึกแบบ Real Time สำหรับหากลุ่มเป้าหมาย และพฤติกรรมที่แท้จริงของผู้บริโภค ที่ Thrive เรียกว่า High Value Audience มาพัฒนากลยุทธ์การสื่อสารได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

– Better Art ศิลป์แห่งการสื่อสารที่ได้มาจากการวิเคราะห์ ทำความเข้าใจถึงช่วงเวลา ความรู้สึก และอารมณ์ผู้บริโภค ณ ช่วงเวลาต่าง ๆ (Moment that Matter)ได้ถูกต้อง ทั้ง Persuasion Moment ช่วงเวลาที่ผู้บริโภคเปิดรับแบรนด์ได้มากที่สุด และ Precision Moment  ช่วงเวลาที่แบรนด์สามารถกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภคให้สนใจสินค้าได้

รวมถึง การสร้างสรรค์งานที่มีความแปลกใหม่ เพื่อดึงดูดความสนใจผู้บริโภค ด้วยการทำความเข้าใจและวิเคราะห์ใน 4 มิติ ประกอบด้วย วิเคราะห์ประสิทธิภาพของสื่อ  , การมองหาความเหมาะสมของสื่อ , รูปแบบโฆษณาที่เหมาะสม สุดท้าย คือ เนื้อหาที่เหมาะสม

– Better Outcomes เพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า โดยผลลัพธ์นั้นต้องสามารถขยายและวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม

สำหรับลูกค้ารายแรกของ Thrive ในไทย ก็คือ เนสท์เล่ ประเทศไทย ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่และมีการเซ็นต์สัญญากันระยะยาว โดย สันต์ บอกว่า ช่วงแรก Thrive จะไม่ได้เร่งการหาลูกค้าใหม่เข้ามาเพิ่มเติม เนื่องจากต้องการสร้างความสำเร็จและเติบโตไปด้วยกันกับลูกค้ารายแรกก่อนจะขยายฐานลูกค้าเพิ่มเติม

ส่วนความท้าทายในฐานะน้องใหม่ของธุรกิจเอเยนซี่ในไทย นอกเหนือจากภาวะการแข่งขันของเอเยนซี่ที่ถือว่าดุเดือดแล้ว ประเด็นสำคัญ คือ การเข้าใจผู้บริโภคที่ปัจจุบันมีความหลากหลาย มีความต้องการที่ซับซ้อน และเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว


  • 111
  •  
  •  
  •  
  •