อิเกีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเม็กซิโก เผยรายได้ 27.7 พันล้านบาท โดยไทยอยู่ที่ 7.97 พันล้านบาท

  • 10
  •  
  •  
  •  
  •  

credit ภาพ : anantachat/shutterstock.com

ปีที่ผ่านมายังเป็นอีกปีที่ท้าทายสำหรับธุรกิจ รวมถึง ‘อิเกีย’ (IKEA) ร้านเฟอร์นิเจอร์และของใช้ตกแต่งบ้านชื่อดังจากสวีเดน โดย ‘อิคาโน่ รีเทล’ บริษัทแม่ของอิเกียได้ประกาศยอดขาย (กันยายน 2020 – สิงหาคม 2021) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเม็กซิโก 736 ล้านยูโร หรือประมาณ 27.7 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 3.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน และเฉพาะในไทยมีรายได้แตะ 212 ล้านยูโร หรือราว 7.97 พันล้านบาท ลดลง 3.3%

สำหรับการเติบโตของยอดขายในภาพรวม มาจากตลาดในสิงคโปร์สามารถมีอัตราการเติบโตได้ดีซึ่งทำรายได้ไป 234 ล้านยูโร เพิ่มขึ้น 21.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมถึงมาจากการเปิดสโตร์ใหม่สองแห่งที่เม็กซิโก และการเปิดตัวของอิเกียขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่ฟิลิปปินส์ รวมถึงการเน้นธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ส่งผลให้รายได้รวมเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบปีต่อปี

ขณะที่รายได้ในประเทศไทยสามารถทำได้ 212 ล้านยูโร ลดลง 3.3% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่ยังถือเป็นผลประกอบการที่แข็งแกร่งเมื่อพิจารณาถึงการล็อกดาวน์ที่เกิดขึ้นท่ามกลางการระบาดเป็นวงกว้างในปีที่ผ่านมา ส่วนภาพรวมธุรกิจที่มาเลเซียหดตัวลงอย่างมาก มีรายได้ 258 ล้านยูโร ลดลงไป 13.9% เนื่องจากสโตร์และศูนย์การค้าต่างๆ ต้องปิดทำการนาน 83 วัน

ทางด้านยอดการเข้าชมเว็บไซต์ของอิเกียพบว่า เกินกว่า 100 ล้านเป็นครั้งแรก แอป IKEA ใหม่ที่ช่วยให้ลูกค้าชอปสะดวกมากขึ้นมียอดคำสั่งซื้อ 864,000 รายการ คิดเป็นยอดขายรวม 135 ล้านยูโร บนช่องทางอีคอมเมิร์ซ

สำหรับยอดสมาชิกใหม่ IKEA Family จากทั้ง 5 ตลาดพบว่า เพิ่มขึ้น 400,000 ราย (กว่าครึ่งมาจากฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นตลาดใหม่ล่าสุด) เนื่องจากผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวันรอบด้าน ทั้งสุขภาพ ครอบครัว และบ้านที่อยู่อาศัย จึงมองหาโซลูชั่นห้องครัว ห้องนอน และพื้นที่ทำงานในราคาที่เอื้อมถึงได้ ช่วยให้การใช้ชีวิตที่บ้านมีความสะดวกสบายและตอบโจทย์การใช้สอยมากขึ้น โดยสินค้ากลุ่ม Workspaces ของอิเกียได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น 19% จากเทรนด์ Work from home การทำงานจากที่บ้าน

เน้นโซลูชั่นที่ยั่งยืน

สำหรับทิศทางต่อไป อิเกีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเม็กซิโก จะก้าวไปไกลกว่าการเป็นผู้นำด้านเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน ด้วยการเป็นกิจการค้าปลีกที่ครอบคลุมทุกช่องทางอย่างแท้จริง เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์โรคระบาดและการเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิตและการทำงานของผู้คนที่บ้าน โดยมีการเปิดตัวบริการใหม่ให้หลากหลาย เริ่มจาก Planning Studio , การปรับโฉมใหม่ของ IKEA for Business เพื่อตอบสนองความต้องการของธุรกิจขนาดเล็กได้ครอบคลุมมากขึ้น และ IKEA Food ที่ให้บริการจัดส่งอาหารถึงบ้าน หรือคลิกสั่งเพื่อมารับเองที่สโตร์ก็ได้

ขณะที่กลยุทธ์ความยั่งยืนของบริษัท จะเน้นใน 3 ประเด็นหลักที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุด ได้แก่ 1. การใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดีและยั่งยืน 2. การเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจหมุนเวียน และ 3. ความยุติธรรมและทั่วถึง ซึ่งจะช่วยลดคาร์บอนฟุตพริ้นต์ เพื่อให้เกิดการแบ่งปันแนวคิดใหม่ๆ ในการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน และการเป็นแบบอย่างที่ดีในแง่ความหลากหลายและไม่แบ่งแยก


  • 10
  •  
  •  
  •  
  •