IBM บริษัทเทคโนโลยีระดับโลก ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และโซลูชัน เพื่อตอบโจทย์การทำงานขององค์กรยุคใหม่ แต่ปัจจุบันบริษัทกำลังประสบปัญหาสัดส่วนของพนักงานสูงอายุมีเยอะเกินไป ซึ่งขัดแย้งกับการเป็นบริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัย
ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา IBM พยายามปลดพนักงานสูงอายุหรือรุ่น Baby boomers ขึ้นไป กว่า 1 แสนคนทั่วโลก โดยให้เหตุผลว่า มีจำนวนเยอะเกินไปขัดต่อการพัฒนาองค์กรหรือมีรายได้ที่สูง ขณะเดียวกันก็ได้เปิดรับสมัครกลุ่มคนยุคมิลเลนเนียลเพิ่มขึ้น กลุ่มคนที่สามารถเปิดรับนวัตกรรมและเทคโนโลยีได้ดีกว่า Baby Boomers ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเทรนด์การรับสมัครงานขององค์กรยุคใหม่ อย่างที่ Google หรือ Amazon กำลังทำกัน
อย่างที่บอกการปรับตัวขององค์กรครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การลดจำนวนผู้สูงอายุในองค์กรเพียงอย่างเดียว แต่มีอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคือเรื่องเงิน IBM ได้ต่อสู้เศรษฐกิจและการแข่งขัน มีรายงานว่ารายรับหดตัวเกือบเจ็ดปี ในทศวรรษที่ผ่านมา จนต้องลดจำนวนพนักงานที่มีเงินเดือนสูงในสหรัฐฯและแคนนาดา ซึ่งเป็นเขตที่มีฐานเงินเดือนที่สูงอยู่แล้ว เพื่อลดต้นทุนปรับสภาพแรงงานของบริษัท มีการเปิดเผยตัวเลขระบุว่า IBM ในปี 2018 มีพนักงานอยู่ทั่วโลกประมาณ 350,600 คน ซึ่งลดลงกว่า 19% ของพนักงานทั้งหมด ในปี 2013 โดยจำนวนกว่า 20,000 คนเป็นพนักงานจากอเมริกา
อลันไวลด์ อดีตรองประธานฝ่ายทรัพยากรบุคคล กล่าวว่า ปัจจุบัน IBM มีอายุกว่า 108 ปี กำลังประสบปัญหาการสรรหาคนเก่ง และการเปิดรับสมัครคนทำงานยุคมิลเลนเนียลมากขึ้น เพื่อสะท้อนว่า IBM ไม่ใช่องค์กรที่น่าเบื่อเหมือนในอดีตอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม การปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อลดจำนวนคนนั้นอาจไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะ IBM กำลังเผชิญกับคดีฟ้องร้องหลายคดีที่กล่าวกับการเลิกว่าจ้างพนักงานสูงอายุ (age discrimination) ในแมนฮัตตันและคดีแพ่งที่ยื่นฟ้องในแคลิฟอร์เนียเพนซิลเวเนียและเท็กซัสเมื่อปีที่แล้ว
ที่มา : fortune