เปิด 50 อันดับอภิมหาเศรษฐีไทย ปี 63 ภาพรวมทรัพย์สินลดลง โดย ‘เจียรวนนท์’ ยังยืน 1 ด้วยมูลค่า 2.73 หมื่นล้านเหรียญ

  • 330
  •  
  •  
  •  
  •  

 

Forbes ได้จัดอันดับมหาเศรษฐีจากทั่วโลกเป็นประจำทุกปี รวมถึงในไทยที่ทาง Forbes Thailand ได้เปิดเผยออกมาเช่นกัน ซึ่งในปี 2563 มหาเศรษฐีไทยมีทรัพย์สินรวมกันลดลงถึง 2.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นการลดลงถึง 18% เหลือเพียง 1.32 แสนล้านเหรียญ โดย‘พี่น้องตระกูลเจียรวนนท์’ แห่งอาณาจักรซีพี ยังคงยืนหนึ่งในการครองแชมป์มหาเศรษฐีไทย

สำหรับการจัดอันดับของ Forbes  บุคคลร่ำรวยที่สุดในประเทศไทยประจำปีนี้ มีทรัพย์สินรวมกันลดลงถึง 2.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นการลดลงถึง 18% เหลือเพียง 1.32 แสนล้านเหรียญ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยที่พึ่งพาการส่งออกและการท่องเที่ยว ซึ่งได้เริ่มชะลอตัวแล้วจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ต้องถูกกระหน่ำซ้ำเติมจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

‘พี่น้องตระกูลเจียรวนนท์’ แห่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ ยังครองตำแหน่งอันดับหนึ่ง แม้ว่าทรัพย์สินของพวกเขาจะลดลง 2.2 พันล้านเหรียญ ไปอยู่ที่ 2.73 หมื่นล้านเหรียญ และเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้เข้าซื้อกิจการของเทสโก้ในไทยและมาเลเซียมูลค่า 1.06 หมื่นล้านเหรียญได้สำเร็จ

‘เฉลิม อยู่วิทยา’ เจ้าของแบรนด์เครื่องดื่มชูกำลังระดับโลกอย่าง Red Bull ร่วมกับตระกูลของเขา มาในอันดับที่ 2 เขาเป็นหนึ่งในแปดผู้มีรายชื่อในทำเนียบที่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น แม้ภาพรวมจะย่ำแย่ โดยมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 1.99 หมื่นล้านเหรียญเมื่อปีก่อน เป็น 2.02 หมื่นล้านเหรียญในปีนี้

‘เจริญ สิริวัฒนภักดี’ จากเครือไทยเบฟเวอเรจ ขยับขึ้นมาในอันดับที่ 3 ด้วยทรัพย์สิน 1.05 หมื่นล้านเหรียญ อย่างไรก็ดี ทรัพย์สินสุทธิของเขาลดลงจาก 1.62 หมื่นล้านเหรียญในปีที่ผ่านมา

‘ตระกูลจิราธิวัฒน์’ หล่นจากอันดับ 2 มาอยู่ในอันดับ 4 ในปีนี้ ด้วยความมั่งคั่งที่ลดลงกว่าครึ่งไปอยู่ที่ 9.5 พันล้านเหรียญ พวกเขาเพิ่งนำบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด  (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยนับเป็นการเสนอขายหุ้นไอพีโอครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แต่ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวและนักช็อปที่ลดลงอย่างมาก ทำให้ราคาหุ้นของเซ็นทรัล รีเทล ต่ำกว่าราคาไอพีโอถึง 27% โดยตกลงต่อเนื่องตั้งแต่เข้าการซื้อขาย

ขณะที่ ‘สารัชถ์ รัตนาวะดี’ ผู้ที่ทำเงินเพิ่มขึ้นมากที่สุด ด้วยทรัพย์สินสุทธิ 6.8 พันล้านเหรียญ พุ่งขึ้น 1.6 พันล้านเหรียญ ขณะที่บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ ของเขาเปิดโรงพลังงานที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงเพิ่มเติม ตลอดจนเข้าดำเนินการโครงการใหม่ๆ อาทิ ท่าเรือ และถนน

ส่วนรายชื่อตระกูลและอภิมหาเศรษฐี 10 อันดับแรกของไทย 

อันดับ 1: พี่น้องเจียรวนนท์ (อันดับคงที่)

แหล่งที่มา: เครือเจริญโภคภัณฑ์

มูลค่าทรัพย์สิน: 2.73 หมื่นล้านเหรียญ / 8.92 แสนล้านบาท (มูลค่าทรัพย์สินลดลง)

อันดับ 2:เฉลิม อยู่วิทยา (ขึ้นจากอันดับ 3)

แหล่งที่มา: กระทิงแดง

มูลค่าทรัพย์สิน: 2.02 หมื่นล้านเหรียญ / 6.6 แสนล้านบาท (มูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้น)

อันดับ 3:เจริญ สิริวัฒนภักดี (ขึ้นจากอันดับ 4)

แหล่งที่มา: ไทยเบฟเวอเรจ

มูลค่าทรัพย์สิน: 1.05 หมื่นล้านเหรียญ / 3.43 แสนล้านบาท (มูลค่าทรัพย์สินลดลง)

อันดับ 4:ตระกูลจิราธิวัฒน์ (ลงจากอันดับ 2)

แหล่งที่มา: กลุ่มเซ็นทรัล

มูลค่าทรัพย์สิน: 9.5 พันล้านเหรียญ / 3.1 แสนล้านบาท (มูลค่าทรัพย์สินลดลง)

อันดับ 5:สารัชถ์ รัตนาวะดี (อันดับคงที่)

แหล่งที่มา: กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์

มูลค่าทรัพย์สิน: 6.8 พันล้านเหรียญ / 2.22 แสนล้านบาท (มูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้น)

อันดับ 6:อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา (อันดับคงที่)

แหล่งที่มา: คิง เพาเวอร์

มูลค่าทรัพย์สิน: 3.8 พันล้านเหรียญ / 1.24 แสนล้านบาท (มูลค่าทรัพย์สินลดลง)

อันดับ 7:ประจักษ์ ตั้งคารวคุณ (ขึ้นจากอันดับ 24)

แหล่งที่มา: ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย)

มูลค่าทรัพย์สิน: 3.1 พันล้านเหรียญ / 1.01 แสนล้านบาท (มูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้น)

อันดับ 8:ตระกูลโอสถานุเคราะห์ (อันดับคงที่)

แหล่งที่มา: โอสถสภา

มูลค่าทรัพย์สิน: 3 พันล้านเหรียญ / 9.8 หมื่นล้านบาท (มูลค่าทรัพย์สินคงที่)

อันดับ 9:วานิช ไชยวรรณ (อันดับคงที่)

แหล่งที่มา: ไทยประกันชีวิต

มูลค่าทรัพย์สิน: 2.8 พันล้านเหรียญ / 9.15 หมื่นล้านบาท (มูลค่าทรัพย์สินลดลง)

อันดับ 10:ชูชาติ เพ็ชรอำไพ และ ดาวนภา เพชรอำไพ (ขึ้นจากอันดับ 13)

แหล่งที่มา: เมืองไทย แคปปิตอล

มูลค่าทรัพย์สิน: 2.65 พันล้านเหรียญ / 8.66 หมื่นล้านบาท (มูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้น)

การจัดอันดับนี้ใช้ข้อมูลการเงินและการถือครองหุ้นที่ได้รับจากทางครอบครัวและปัจเจกบุคคล ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ นักวิเคราะห์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และหน่วยงานกำกับดูแลหลายแห่ง อันดับนี้ต่างจากอันดับอภิมหาเศรษฐีตรงที่มีการรวมถึงทรัพย์สินของครอบครัวและทรัพย์สินที่ถือครองโดยสมาชิกครอบครัวหลายรุ่น ทั้งนี้ มูลค่าทรัพย์สินในบริษัทมหาชนเป็นการคำนวณจากราคาหุ้นและอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 13 มีนาคม ทรัพย์สินในบริษัทที่ถือครองส่วนตัวประเมินค่าโดยเปรียบเทียบกับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเดียวกันที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

สำหรับทั้ง 50 อันดับมหาเศรษฐีไทย สามารถได้ที่ forbesthailand

 

 

 


  • 330
  •  
  •  
  •  
  •