มีไม่บ่อยครั้งนักที่บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่มาทำธุรกิจในประเทศไทยจะประกาศความร่วมมือกับรัฐบาลในการยกระดับเศรษฐกิจของประเทศอย่างอย่างเป็นจริงเป็นจัง แต่ Google บริษัทที่เรารู้จักกันดีและมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจของเรามาโดยตลอดเพิ่งจะประกาศความร่วมมือกับรัฐบาลไทยใน 3 เรื่องใหญ่ๆด้วยกัน ในงาน Digital Samart Thailand เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งทั้ง 3 เรื่องมีอะไรบ้างบทความนี้จะสรุปให้
ต่อยอดข้อตกลงที่เกิดขึ้นจากการประชุม APEC
Digital Samart Thailand เป็นงานอีเวนท์ใหญ่ของ Google ในช่วงปลายปีนี้เพื่อสื่อสารให้คนไทยได้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Google ในการมีส่วนร่วมในการสร้างการเติบโตให้กับประเทศไทยภายใต้แนวคิด “Leave No Thai Behind” โครงการที่ Google ทำมาตั้งแต่ปี 2018 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ สร้างอินเตอร์เน็ตที่ปลอดภัยให้คนไทยรู้เท่าทันโลกออนไลน์ รวมถึง การสร้างผลิตภัณฑ์ดีๆตรงกับความต้องการของคนไทยเป็นต้น
แต่ความคืบหน้าของความร่วมมือกันในระดับรัฐบาลครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ได้หารือและบรรลุข้อตกลง MOU กับคุณ Ruth Porat ประธานบริหารการลงทุนและการเงินของบริษัท Alphabet and Google ระหว่างการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานี้เอง
ในครั้งนั้นนายกรัฐมนตรีและคุณ Porat บรรลุข้อตกลงในเดินหน้าสู่เป้าหมาย “เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลของประเทศไทยและผลักดันนวัตกรรมเอไอให้เกิดขึ้น” ภายใต้ความร่วมมือ 4 เสาหลักได้แก่
- การต่อยอดการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล
- การวางหลักเกี่ยวกับนโยบายการใช้งานระบบคลาวด์เป็นหลัก (Cloud-First Policy)
- การส่งเสริมการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบและปลอดภัยเพื่อยกระดับการให้บริการของภาครัฐ
- การทำให้คนไทยสามารถเข้าถึงทักษะด้านดิจิทัลได้มากขึ้น
สรุป 3 เรื่องที่ Google-รัฐบาลไทยจะร่วมมือกัน
สิ่งที่ Google สื่อสารถึงชาวไทยผ่าน งาน Digital Samart Thailand นั้นนอกเหนือจากตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ ผลิตภัณฑ์ต่างๆของ Google ที่เรารู้จักกันดีช่วยผลักดันเศรษฐกิจของประเทศมาอย่างมากมายมาเป็นเวลา 12 ปีแล้ว Google ยังประกาศถึง 3 เรื่องที่จะเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมและนับเป็นส่วนหนึ่งของ 4 เสาหลักที่กล่าวไปแล้วซึ่ง 3 เรื่องที่ว่าก็คือ
1. ความร่วมมือกับรัฐบาลไทยในการร่างนโยบายการใช้งานระบบคลาวด์เป็นหลัก (Cloud-First Policy)
เรื่องนี้เป็นความร่วมมือที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลไทยที่เรียกว่า Go Cloud First ซึ่งนายกรัฐมนตรีระบุว่า จะมีการวางกรอบการขยายงานใช้งาน Cloud และเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีทั้งภาครัฐและเอกชนโดยเน้นการใช้งาน Public Cloud ที่มีมาตรฐานในการดูแลข้อมูลของภาครัฐ การเข้ารหัส ประเภทข้อมูลและรูปแบบการจัดเก็บต่างๆเพื่อความปลอดภัย
ด้านคุณ Karan Bajwa รองประธานบริหารภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Google Cloud ก็ยืนยันว่าการที่จะขยายการใช้งานให้กว้างออกไปได้นั้นต้องเริ่มต้นจากนโยบายที่จะรองรับเทคโนโลยีก่อนไม่ว่าจะเป็น Cloud หรือ AI ลำดับต่อไปก็คือการหา Use Case กับหน่วยงานของรัฐต่อไป
ในเรื่องนี้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมจะเป็นผู้นำวางหลักการในการขับเคลื่อนนโยบาย และ Google จะมีส่วนร่วมในการร่างนโยบายนี้ด้วย ซึ่งจะมีการประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมในช่วงไตรมาสแรกของปี 2024 นี้
2. ความร่วมมือด้าน Generative AI (Gen AI) กับ 3 หน่วยงานภาครัฐ
เรื่องนี้คือการหา Use Case ที่คุณ Karan Bajwa พูดถึงจึงกลายเป็นความร่วมมือระหว่าง Google Cloud และ 3 กระทรวงของประเทศไทยอย่าง “กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม” “กระทรวงคมนาคม” และ “สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่” (องค์การมหาชน) (Big Data Institute: BDI)
Google บอกว่าบุคลากรจากทั้ง 3 องค์กรนี้จะได้รับการฝึกอบรมภาคปฏิบัติจากทีมวิศวกรของ Google Cloud เพื่อนำมาประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์ในวงกว้างโดยใช้เทคโนโลยี “Generative AI” รวมไปถึงการใช้ “Vertex AI” เพื่อจัดทำโซลูชั่นของตัวเอง โดยเฉพาะ Vertex AI ที่สามารถเลือกโมเดล AI พื้นฐานทั้งของ Google และแบบโอเพนซอร์สได้มากกว่า 100 โมเดลเลยทีเดียว
3. การมอบทุนการศึกษาภายใต้หลักสูตร Google Career Certificates เพิ่มเติมจำนวน 12,000 ทุน พร้อมเพิ่ม 4 หลักสูตรใหม่
หนึ่งใน 4 เสาหลักความร่วมมือระหว่าง Google และรัฐบาลไทยก็คือการทำให้คนไทยเข้าถึงทักษะด้านดิจิทัลได้มากขึ้นเนื่องจากทักษะเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญในการยกระดับทรัพยากรบุคคลที่จะช่วยยกระดับเศรษฐกิจของประเทศได้ต่อไป โดยครั้งนี้ Google ประกาศ “เพิ่มทุน 12,000 ทุน” จากโครงการ Samart Skill ให้กับ 2 หน่วยงานของไทยคือ
- สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)
- กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES)
โดยทั้งสองหน่วยงานสามารถนำไปจัดสรรให้กับบริษัทเอกชนที่ได้รับการส่งเสริมจาก BOI หรือข้าราชการเสริมทักษะให้กับคนไทยได้ตรงตามวัตถุประสงค์ต่อไป
สำหรับ โครงการ Samart Skill นั้นเป็นหลากหลายหลักสูตรของ Google ที่ทำขึ้นเป็นพิเศษสำหรับประเทศไทย เปิดโอกาสให้คนไทยเข้าถึงการฝึกอบรมทักษะดิจิท้ลและนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดในสายอาชีพที่เป็นที่ต้องการของตลาดได้มากขึ้น
สำหรับโครงการนี้เปิดตัวในปี 2565 โดย Google บอกว่า ระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมามีการมอบทุนไปแล้ว 22,000 ทุน มีผู้ที่จบหลักสูตรในโครงการ Samart Skills ไปแล้วจำนวน 5,500 คน โดย 85% ของผู้จบหลักสูตรได้รับโอกาสที่ดี อาทิ ได้งานใหม่ เลื่อนตำแหน่ง และปรับเงินเดือนใหม่หลังจบหลักสูตร
Samart Skill เป็นหลักสูตรออนไลน์พร้อมประกาศนียบัตรที่พัฒนาขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญของ Google เพื่อให้นักศึกษา บุคลากร และผู้ประกอบการได้รับการฝึกฝนทักษะดิจิทัลที่กำลังเป็นที่ต้องการ เดิมจะมี 5 หลักสูตร คือ Data Analytics, Digital Mareting & E-commerce, IT Support, Project Management, UX Design ซึ่งล่าสุด Google ก็เพิ่มหลักสูตรสาขาอาชีพใหม่อีก 4 หลักสูตรเป็นภาษาอังกฤษ คือ Cybersecurity, Advanced Data Analytics, Business Intelligence) และ Python (IT Automation with Python) ทำให้ตอนนี้มีหลักสูตรทั้งหมด 9 หลักสูตรให้เลือกแล้วนั่นเอง
และทั้งหมดนี้ก็คือ 3 เรื่องที่ Google ร่วมกับรัฐบาลไทยในการเดินหน้าสู่เป้าหมายเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลของประเทศไทยและผลักดันนวัตกรรมเอไอให้เกิดขึ้น ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่าเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเล็กๆ ซึ่งเราคนไทยก็คาดหวังว่าจุดเริ่มต้นนี้จะนำไปสู่สิ่งใหม่ๆที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไปได้ในอนาคต
