นิตยสาร Forbes เปิด 50 อันดับมหาเศรษฐีไทยอัพเดทล่าสุดปี 2024 แล้วเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมหาเศรษฐีที่แซงขึ้นมาอยู่ในอันดับ 1 ของประเทศไทยในเวลานี้คือ “เฉลิม อยู่วิทยา และครอบครัว” ที่มีมูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 2,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมเป็น 36,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผลจากรายได้ของเครื่องดื่ม Red Bull ที่เติบโตกว่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 เพราะยอดขายเครื่องดื่มชูกำลังทั่วโลกพุ่งทะลุ 12,000 ล้านกระป๋อง
สำหรับประเด็นสำคัญสำหรับอันดับมหาเศรษฐีในปีนี้ของไทยก็คือมูลค่าความมั่งคั่งรวมที่ลดลงผลจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ไม่แน่นอนโดยเฉพาะดัชนีตลาดหุ้นที่ร่วงลง 15% ในปีที่ผ่านมา ซ้ำเติมด้วยค่าเงินบาทที่อ่อนตัว ความมั่งคั่งโดยรวมของบรรดามหาเศรษฐีไทยจึงลดลงเกือบ 12% เหลือเพียง 153,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากเดิม 173,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามในความไม่แน่นอนดังกล่าวที่ทำให้มี 39 คนที่ความมั่งคั่งลดลง ก็มีมหาเศรษฐีไทย 7 คนที่มีความมั่งคั่งเติบโตสวนกระแสหนึ่งในนั้นคือเฉลิม อยู่วิทยาที่รายได้เติบโตขึ้นจะทะยานขึ้นเป็นคนที่รวยที่สุดในประเทศไทยแซง “พี่น้องเจียรวนนท์” แห่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่ครองอันดับ 1 มานานเกือบ 10 ปี ก็ถูกโค่นลงไปที่อันดับ 2 ด้วยมูลค่าความมั่งคั่ง 29,000 ล้านดอลลาร์สหรรัฐในปี 2024 ลดลงจาก 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี 2023 สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากราคาหุ้นบริษัท China’s Ping An Insurance ที่พวกเขาถือครองมีมูลค่าร่วงลงโดยมีรายงานว่าบริษัทฯดังกล่าวขาดทุน 2,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023
ส่วนรายชื่อ 5 อันดับแรกคนอื่นๆ ไม่ได้เปลี่ยนแปลง แม้ว่าแต่ละคนจะมีความมั่งคั่งลดลงก็ตาม โดยเฉพาะ เจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของธุรกิจเครื่องดื่ม ที่มูลค่าทรัพย์สินลดลงกว่า 1 ใน 4 เหลือเพียง 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐแต่ก็ยังติดอันดับ 3 มหาเศรษฐีของไทยในปีนี้
สำหรับอันดับ 4 ที่ไม่ได้ทิ้งห่างกันมากนักคือ “ครอบครัวจิราธิวัฒน์” ซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สิน 9,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 20% เทียบกับปีที่ผ่านมา ด้าน “สารัชถ์ รัตนาวะดี” มหาเศรษฐีธุรกิจพลังงานและโทรคมนาคมที่มูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่เข้ามาติดอันดับตั้งแต่ 6 ปีที่แล้ว ปี 2024 นี้ก็กลายเป็นปีแรกที่ความมั่งคั่งลดลงเหลือ 9,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น
แม้จะมีมหาเศรษฐีจำนวนมากที่มูลค่าความมั่งคั่งลดลงอย่างไรก็ตาม ตลาดเครื่องดื่มบรรจุขวดที่เติบโต โดยเฉพาะเครื่องดื่มชูกำลัง ช่วยเติมมูลค่าทรัพย์สินของ 4 มหาเศรษฐีให้เพิ่มขึ้นสวนทางรายชื่อส่วนใหญ่บนทำเนียบ อันได้แก่ “เสถียร เสถียรธรรมะ” และ “ณัฐชไม ถนอมบูรณ์เจริญ” ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์เครื่องดื่มคาราบาว, อนันท์ รักอริยะพงษ์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Sappe และตัน ภาสกรนที ผู้ก่อตั้งอิชิตัน กรุ๊ป
สำหรับมหาเศรษฐีของไทย 10 อันดับแรกตามการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์ มีดังต่อไปนี้
| อันดับ | ชื่อ | ทรัพย์สิน (ดอลลาร์สหรัฐ) | ทรัพย์สิน (บาท) | ที่มาความมั่งคั่ง | อุตสาหกรรม |
|---|---|---|---|---|---|
| 1 | เฉลิม อยู่วิทยา และครอบครัว | 36,000 ล้าน | 1.32 ล้านล้าน | เครื่องดื่มชูกำลัง | อาหารและเครื่องดื่ม |
| 2 | พี่น้องเจียรวนนท์ | 29,000 ล้าน | 1.06 ล้านล้าน | หลากหลาย | หลากหลาย |
| 3 | เจริญ สิริวัฒนภักดี | 10,000 ล้าน | 368,000 ล้าน | สุราและอสังหาริมทรัพย์ | อาหารและเครื่องดื่ม |
| 4 | ครอบครัวจิราธิวัฒน์ | 9,900 ล้าน | 364,000 ล้าน | ห้างสรรพสินค้า | ค้าปลีก |
| 5 | สารัชถ์ รัตนาวะดี | 9,200 ล้าน | 338,000 ล้าน | พลังงาน | พลังงาน |
| 6 | ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ | 3,800 ล้าน | 139,000 ล้าน | โรงพยาบาล | สุขภาพ |
| 7 | อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา และครอบครัว | 3,600 ล้าน | 132,000 ล้าน | ร้านค้าปลอดอากร | ค้าปลีก |
| 8 | วานิช ไชยวรรณ | 3,300 ล้าน | 121,000 ล้าน | ประกันภัย | การเงินการลงทุน |
| 9 | ครอบครัวโอสถานุเคราะห์ | 2,200 ล้าน | 81,000 ล้าน | หลากหลาย | หลากหลาย |
| 10 | ประยุทธ มหากิจศิริ | 2,150 ล้าน | 79,100 ล้าน | หลากหลาย | หลากหลาย |
ที่มา Forbes Thailand , Forbes
