เจาะกลยุทธ์ 3R การรุกตลาดร้านสะดวกซื้อรอบใหม่ของ ‘แฟมิลี่มาร์ท’

‘ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ’ หรือ ‘คอนวีเนียร์ สโตร์’ ในบ้านเราน่าจะดุเดือดขึ้นไปอีก เพราะ ‘แฟมิลี่มาร์ท’ (FamilyMart) หลังจากส่งโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ ออกมาต่อเนื่อง ล่าสุดประกาศรีเฟรซแบรนด์ และส่งกลยุทธ์ 3R ได้แก่ Reconnect -Readiness-Reinforce เพื่อเป็นแบรนด์ร้านสะดวกซื้อที่หนึ่งในดวงใจของผู้บริโภค

แฟมิลี่มาร์ท ได้เข้ามาดำเนินกิจการในไทยตั้งแต่ปี 2535 และเมื่อเดือนพฤษภาคม 2563 ทาง CRC (บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ได้เข้าไปถือหุ้น 100% ซึ่งท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันกับธุรกิจค้าปลีก ที่ผ่านมาแฟมิลี่มาร์ทได้มีการขยับมากมายที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนในยุคปัจจุบันที่ใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ และใช้ชีวิตแบบ 24 ชั่วโมง

ไม่ว่าจะเป็น โมเดลร้านรูปแบบใหม่ อย่าง ‘แฟมิลี่มาร์ทคอนเทนเนอร์’ (Food Drink Container Mart) ที่มีดีไซน์ทันสมัย สีสันสะดุดตา และ ‘ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ’ กดสะดวกทุกเวลา (Vending Machine) ภายใต้คอนเซปต์ ‘หิวมั้ย กดเลย’ รวมไปถึงบริการใหม่ อาทิ การเปิดตัวบริการสะดวกซัก 24 ชั่วโมงด้วย ‘เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ’

มาถึงตอนนี้ทางแฟมิลี่มาร์ทพยายามจะเติบโตไปอีกขั้นเพื่อสร้างครอบครัวแฟมิลี่มาร์ท ในการรีเฟรซแบรนด์ในภาพลักษณ์ใหม่ที่ทันสมัย และคู่รักคนดัง หมาก-ปริญ สุภารัตน์  และ คิมเบอร์ลี่ แอน  โวลเทมัส มาเป็นผู้เชื่อมโยงพร้อมกับสร้างการรับรู้ภาพลักษณ์ใหม่กับคนยุคใหม่ ซึ่งถือเป็นการใช้กลยุทธ์พรีเซ็นเตอร์เป็นครั้งแรกของแฟมิลี่มาร์ท

โดย Brand Proposition ใหม่ของแฟมิลี่มาร์ท จะรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่ชื่นชอบและคุ้นเคยกับการซื้อสินค้าในร้านสะดวกซื้อในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงการตอบโจทย์ทุกความต้องการในทุกช่วงเวลาตลอด 24 ชั่วโมง ภายใต้กลยุทธ์ทางการตลาด  3R  ประกอบด้วย

R ตัวแรก Reconnect  การเชื่อมต่อผู้บริโภครูปแบบใหม่เมื่อแวะมาที่แฟมิลี่มาร์ท ซึ่งจะเน้น 4 คุณลักษณะหลัก คือ ยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งสินค้าที่มีคุณภาพ ,สร้างบรรยากาศชอปปิ้งที่สนุกตื่นเต้นทุกครั้งที่มา ,บริการเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย และผสมผสานไลฟ์สไตล์

R ตัวที่สอง Readiness สร้างความพร้อมให้กับพนักงานภายในองค์กรมีความเข้าใจในแบรนด์ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีทั้งสินค้าและการให้บริการ

R ตัวที่ 3 Reinforce   เสริมกำลังโดยการสร้างโจทย์ใหม่ๆ ให้แบรนด์ มีเป้าหมายสำคัญเพื่อผลักดันให้แฟมิลี่มาร์ทเป็นร้านสะดวกซื้อ Top of Mind ของผู้บริโภค ผ่าน

– ‘การพัฒนาสินค้าและการบริการ’ สร้างความหลากหลายในทุกกลุ่มสินค้า เช่น กลุ่ม Ready to eat โอเด้ง ข้าวปั้นญี่ปุ่นโอนิกิริ (Onigiri), เครื่องดื่มคอฟฟี่อาริกาโตะ (Coffee Arigato) เช่น มัทฉะ ลาเต้  ฯลฯ

-‘การทำโปรโมชั่นมากมาย’  เช่น สินค้าลดสุดขีด,ซื้อ 1 แถม 1, ล็อคราคา, โปรแกรมสะสมคะแนนเดอะวัน, โปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิต  ฯลฯ

-‘บริการอำนวยความสะดวกต่างๆ’ เช่น แฟมิลี่มาร์ทสั่งได้ เป็นบริการเดลิเวอรี่ที่ให้ผู้บริโภครับฝากซื้อสินค้าผ่านแอปพลิเคชั่น Grab (แกร็บ) ทั้ง GrabMart (แกร็บมาร์ท) และ GrabFood (แกร็บฟู้ด) บริการส่งสินค้ากับ Kerry Express บริการชำระบิลต่างๆ ผ่าน Cenpay (เซ็นเพย์) หรือบริการชำระสินค้าผ่านแอป Dolfin (ดอลฟิน) โดยไม่ต้องใช้เงินสด เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันธุรกิจร้านสะดวกซื้อในบ้านเรา ผู้ครองอันดับหนึ่ง ก็คือ 7-Eleven ของเครือซีพี ด้วยจำนวนสาขามากว่า 11,000 สาขา ขณะที่แฟมิลี่มาร์ทมีสาขาทั้งหมดประมาณ 1,000 สาขา และเป้าหมายขอเป็นที่หนึ่งในใจผู้บริโภค