Tango แอพฯ ส่งข้อความผ่านทางมือถือที่เคยเป็น unicorn ที่มาแรงมาก มีมูลค่าทะยานไปที่หลักพันล้านดอลลาร์มาแล้ว นอกจากนี้ อี-คอมเมิร์ซระดับโลกอย่าง Alibaba ยังร่วมลงทุนร่วมด้วยเป็นเงินสูงถึง 280 ล้านดอลล่าร์เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ล่าสุด มีข่าวร้ายเมื่อจำเป็นต้องเลย์ ออฟ พนักงานออกไปถึง 9%
Tango อีกหนึ่งบริษัทด้านเทคโนโลยี ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ที่ Mountain View ซึ่งหลังจากได้เสริมพลังร่วมกับ Alibaba และ Walmart เพื่อร่วมกันปล่อยแอพฯ ด้านอี-คอมเมิร์ซ ไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้ยืนยันกับ TechCrunch แล้วว่า “Tango Shop” ได้ปิดตัวลงไปเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งนำไปสู่การเลย์ ออฟ พนักงานราว 30 คนออกไป
“ในช่วงแรกๆ มันอาจจะไม่เห็นผลเท่าไหร่นัก เพราะเราไม่ได้เห็นการสนทนานอย่างที่เราต้องการ มันมีจำนวนของทราฟฟิคที่ดี แต่วอลลุมมันกลับไม่เป็นไปตามจริง ล่าสุดเราก็เพิ่งอัพเดทแอพฯ ไปเพื่อที่จะให้งานอี-คอมเมิร์ซมันไหลต่อไปได้ แต่โชคร้ายที่เราไม่สามารถรักษาทีมเอาไว้ได้” ซีทีโอ Eric Setton กล่าว
หากยังจำกันได้ Tango มีสตาฟ์อยู่ 270 คน โดยเป็นสตาฟข้ามประเทศ คือมีที่สหรัฐฯ ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ และยังมีอีกที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน น่าสนใจว่า หนึ่งในบุคคลที่เป็นตัวจักรสำคัญขององค์กรได้ลาออกไป คนที่ว่านี้ก็คือ “Chi-Chao Chang” ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเป็นถึง VP ของ Tango Labs และเป็นผู้ที่นำ Tango เข้าสู่ธุรกิจในเบื้องต้น แต่ปัจจุบันไปทำงานให้กับ Facebook
และแม้ว่าจะมีการลดจำนวนคนออกไป แต่ Setton ก็ยังอ้างว่า Tango ยังคงมีรายได้ที่สูงอยู่ดีในช่วงไตรมาสท้ายนี้ อย่างไรก็ตาม เขาปฏิเสธที่จะบอกตัวเลขอัพเดทของฐานผู้ใช้ว่ามีจำนวนอยู่เท่าไหร่ โดยตัวเลขล่าสุดที่ให้ไว้คือเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่ลอนช์ Tango Shop โดยระบุว่ามีผู้ใช้ลงทะเบียนทั้งหมด 300 ล้าน ทั้งนี้ เมื่อเดือนมีนาคมปี 2014 ประกาศว่ามีผู้ใช้ลงทะเบียนอยู่ที่ 200 ล้าน ซึ่งเป็นช่วงที่ Alibaba ร่วมลงทุน และ Tango ยังประกาศอีกว่า มี active user ต่อเดือนอยู่ที่ 70 ล้าน
ทั้งนี้ TechCrunch ยังวิเคราะห์ว่า เป็นเรื่องยากที่แชทแอพฯ จะประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะถ้าเมื่อไหร่ก็ตามเพื่อนของคุณย้ายไปเล่น Snapchat (มีผู้ใช้เฉลี่ย 100 ล้านต่อเดือน) หรือ Kik (มีผู้ลงทะเบียนใช้ 240 ล้าน) หรือ Facebook Messenger (มีผู้ใช้ 700 ล้านต่อเดือน) หรือ WhatsApp (มีผู้ใช้ 900 ล้านต่อเดือน) นี่คือสิ่งที่คุณต้องแทรกตัวเข้าไปให้ได้
นอกจากนี้ ยังเห็นว่ามันมีข้อแตกต่างในเรื่องของวัฒนธรรมด้วย ที่จีนแอพฯแชทนั้น WeChat ประสบความสำเร็จเพราะการแข่งขันน้อย เช่นเดียวกับอี-คอมเมิร์ซ แต่ที่สหรัฐฯ ผู้บริโภคถูกเอาอกเอาใจ จากตัวเลือกที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความ หรือโซเชียล มีเดีย รวมทั้งอี-คอมเมิร์ซ แพล็ทฟอร์มก็มีมากเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม Setton กล่าวว่า แม้ Tango Shop จะไม่เวิร์คในฐานะความหวังของบริษัท หรือเป็น social e-commerce อย่างที่คนอื่นๆ ทำได้ แต่เขาก็หวังอย่างเต็มเปี่ยมว่า กับการใช้ยุทธศาสตร์ลดจำนวนพนักงานครั้งนี้จะเห็นผลในอนาคตแต่นอน.
