“e-Commerce” กลายเป็นธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตสูงมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอานิสงส์จากสถานการณ์โรคระบาด ที่ทำให้การออกไปซื้อของตามตามปกติเป็นไปได้ยาก ขณะที่แบรนด์ก็มอง e-Commerce เป็นทางรอดของธุรกิจ เมื่อความต้องการ (Demand) สูง แบรนด์จึงหลั่งไหลเข้าสู่ตลาด e-Commerce เพื่อช่องทางในการระบายสินค้า (Supply) และรายได้
เมื่อ e-Commerce เติบโตการแข่งขันจึงสูงขึ้น แม่ค้าออนไลน์จึงต้องเร่งปล่อยสินค้าที่ตัวเองมี ซึ่ง Pain Point อย่างหนึ่งที่แม่ค้าออนไลน์ต้องพบเจอบ่อยๆ คือ การหาสินค้าไปขาย แต่การหาสินค้าไปขายก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งเรื่อง การขายตัดราคา ไม่มีแหล่งซื้อสินค้า เงินทุนที่ไม่เพียงพอ ไม่สามารถต่อรองกับ Supplier ได้ รวมถึงการที่ไม่มีใบกำกับภาษี
Pain Point ของแม่ค้าออนไลน์ปัจจุบัน
หากมาดูจำนวนแม่ค้าออนไลน์ในประเทศไทยจะมีทั้งสิ้นประมาณ 5 ล้านราย โดยแบ่งเป็นแม่ค้าออนไลน์ที่ลงทะเบียนได้รบผลกระทบจากโรคระบาดกับภาครัฐไว้จำนวน 2.1 ล้านราย และเป็นแม่ค้าออนไลน์ที่ไม่ได้ลงทะเบียนกับภาครัฐอีกกว่า 3 ล้านราย ซึ่งแม่ค้าออนไลน์ทั้งหมดสามารถแบ่งได้ออกเป็น 3 กลุ่มด้วยกัน ทั้งกลุ่มแม่ค้าออนไลน์ในลักษณะตัวแทนธุรกิจ (MLM) โดยกลุ่มนี้จะเน้นการค้นหาสมาชิกใหม่ ซึ่งมีจำนวนไม่มาก
ขณะที่กลุ่มแม่ค้าออนไลน์ตัวจริงที่ทำอาชีพขายออนไลน์เป็นอาชีพหลักและกลุ่มแม่ค้าออนไลน์ที่ทำเป็นธุรกิจเสริม เป็น 2 กลุ่มที่มีปริมาณมากที่สุด ซึ่งจำเป็นต้องใช้เงินทุนหมุนเวียน ทำให้ต้องขายสินค้าให้ได้ไวและต้องคอยหาสินค้าใหม่ๆ มาขายอยู่เสมอ ทำให้แม่ค้าออนไลน์เกิด “กลุ่มลับ” ที่เอาไว้ขายและค้นหาสินค้าที่จะนำมาขาย ขณะที่ช่องทางหลักในการหาสินค้ามาขาย ส่วนใหญ่จะเป็นการสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายแบรนด์นั้นๆ
การสั่งสินค้าจากจีนก็ได้รับความนิยมอย่างสูง เนื่องจากมีราคาถูกและสั่งได้จำนวนมาก, การรับสินค้าจากผู้ผลิตในประเทศไทย, การหาซื้อสินค้าจากแหล่งค้าส่งในที่ต่างๆ, การซื้อสินค้าลดราคาหรือล้างสต๊อค และการขายแบบ Dropship หรือรูปแบบตัวแทนที่นำสินค้ามาขายบวกกำไรนิดหน่อย โดยเจ้าของแบรนด์จะเป็นผู้จัดส่งสินค้าเอง นั่นชี้ให้เห็นว่าแม่ค้าออนไลน์ในปัจจุบันกำลังประสบ Pain Point ในเรื่องของการหาสินค้าที่ราคาถูกในปริมาณมาก
Pain Point ของแบรนด์ในปัจจุบัน
เมื่อทราบ Pain Point ของแม่ค้าออนไลน์ไปแล้ว มาดูฝั่งแบรนด์บ้าง หลายคนคงบอกไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะแบรนด์ก็ขายออนไลน์อยู่ในปัจจุบัน จริงที่แบรนด์ของผ่านออนไลน์อยู่แล้ว แต่ความเชี่ยวชาญนั้นแตกต่างจากแม่ค้าออนไลน์ โดย 3 ช่องทางออนไลน์หลักของแบรนด์จะเน้นไปที่ Social Media อย่าง Facebook, ช่องทาง e-Marketplace และช่องทางเว็บของตัวเอง
แม้ว่าช่องทาง Social Media จะได้รับความนิยมอย่างสูง แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่า Social Media ถ้าไม่เสียเงินต่อเนื่องก็ไม่สามารถสร้างยอดขายได้ ทำให้มีต้นทุนที่สูงอยู่ ขณะที่ e-Marketplace อย่าง Shopee หรือ LAZADA ก็เป็นสมรภูมิที่มีการแข่งขันรุนแรง ทั้งการตัดราคาและและการแข่งขันที่รุนแรง ส่วนการขายผ่านเว็บของแบรนด์เองก็มีต้นทุนในการสร้างเว็บไซต์เช่นกัน รวมไปถึงการสร้าง Traffic ในการเข้าชมให้มีจำนวนมาก
ที่สำคัญแบรนด์ยังต้องสร้างความน่าเชื่อถือผ่านช่องทางเว็บไซต์ของตัวเอง ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายยิ่งไปกว่านั้นยังอาจต้องมีการสร้างคอนเท้นต์ของตัวเองขึ้นมาอีกด้วย รวมถึงคู่แข่งจากจีนที่จำหน่ายสินค้าในราคาถูกเกินกว่าราคาตลาดจริง ดังนั้นแบรนด์จึงนิยมที่จะขายผ่านแม่ค้าออนไลน์ ซึ่งถือเป็นตัวกลางในการนำสินค้าไปขาย โดยที่แบรนด์ไม่ต้องเสียเวลาลงทุนช่องทางออนไลน์
“เหมาเหมา” แพลตฟอร์มค้าส่งสำหรับแม่ค้าออนไลน์
จาก Pain Point ทั้งหมดจะเห็นได้ว่า ฝั่งแม่ค้าออนไลน์ต้องการตลาดค้าส่งออนไลน์ที่สามารถจำหน่ายในราคาส่ง ไม่ต้องเสียเวลาค้นหาใน Google และมีสินค้าให้เลือกหลากหลาย ขณะที่แบรนด์เองก็ก็ต้องการตัวแทนที่จะมาขายสินค้าโดยไม่แบรนด์ไม่ต้องลงไปเสี่ยงขายออนไลน์เอง ซึ่งอาจจะไม่ใช่งานถนัดของแบรนด์และไม่ต้องลงทุนสูง
SCB 10X ในฐานะผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม “เหมาเหมา” แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซช่วยคนขายของออนไลน์ให้สามารถค้นหาสินค้าราคาส่งโดยตรงจากผู้ผลิตหรือเจ้าของแบรนด์ ช่วยผู้ผลิต แบรนด์และร้านค้าส่งต่างๆ ในการระบายสต็อกสินค้าและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงให้กับกลุ่มแม่ค้าออนไลน์ รองรับรูปแบบการขายส่ง การขายผ่านตัวแทนจำหน่าย และการขายแบบไม่ต้องสต็อกสินค้า (Dropship) พร้อมเปิดให้ใช้แพลตฟอร์มได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
จากการเปิดทดลองใช้งาน 1 เดือนในวงจำกัด พบว่าได้รับการตอบรับจากผู้ผลิตและแบรนด์ชั้นนำมากมาย เช่น ADVICE IT, AMADO, ANELLO, ANITECH, BODUM, BOSSINI, ESPRIT, ETAM, FN OUTLET, JOSEPH JOSEPH, MALEE, RADLEY, ZWILLING และดอยคำ เป็นต้น ตลอดจนร้านค้าส่งรายย่อยต่างๆ รวมถึงจำนวนแม่ค้าออนไลน์ที่ลงทะเบียนใช้งานแล้วหลายพันคน โดยตั้งเป้าให้แม่ค้าออนไลน์เข้าใช้งานกว่า 500,000 คน และร้านค้าที่เข้ามาขายอีกกว่า 1,000 ร้านค้าในสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ยังพบว่า สินค้ากลุ่มของใช้ของตกแต่งบ้านได้รับความสนใจจากกลุ่มแม่ค้าออนไลน์มาก รองลงมาคือกลุ่มเครื่องสำอาง, อาหารเสริม, แฟชั่นผู้หญิงและเครื่องใช้ไฟฟ้า ขณะที่ประเภทสินค้าที่แม่ค้าออนไลน์สนใจอยากหาไปขายมากที่สุดคือ สินค้าแบรนด์ชื่อดังที่นำมาลดราคาเพราะลูกค้าไว้ใจในแบรนด์, สินค้าที่รูปสามารถขายได้ด้วยตนเอง เช่น สินค้ากลุ่มแฟชั่น, สินค้าโละสต็อกที่ตลาดยังมีความต้องการ รวมถึงสินค้าคุณภาพดียังไม่ดังมากแต่ให้ผลตอบแทนสูง อย่างเครื่องสำอางและอาหารเสริม
ทำไมแม่ค้าออนไลน์ต้องซื้อบน “เหมาเหมา”
คุณกวีวุฒิ เต็มภูวภัทร Head of Venture Builder บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด ชี้ว่า ถ้าพูดถึงการขายออนไลน์แบบขายส่งจำนวนมาก แม่ค้าออนไลน์มักจะนึกถึง เถาเป่า (Taobao) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มขายส่งของจีน แม้จะได้สินค้าในราคาถูกก็จริง แต่เพราะเป็นสินค้าจีนทำให้ไม่สามารถต่อรองได้ ที่สำคัญสินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่อาจจะไม่ตรงใจกับผู้บริโภคชาวไทย
ซ้ำร้ายไปกว่านั้น หากสินค้าที่ซื้อมาฮิตติดตลาดจนขายดีเป็นเทน้ำเทท่า พ่อค้าชาวจีนก็จะรู้ว่าสินค้าชนิดดังกล่าวมีความต้องการในประเทศไทย หมายความว่าพ่อค้าชาวจีนสามารถนำสินค้าส่งเข้ามาขายในไทยในราคาที่ถูกกว่าแม่ค้าออนไลน์ไปซื้อจากเถาเป่า ส่วนหนึ่งนั่นเพราะว่าที่ไทยไม่มีแพลตฟอร์มสำหรับขายส่ง ทำให้แม่ค้าออนไลน์ต้องไปซื้อสินค้าตามตลาดค้าส่ง กลายเป็นผู้ค้าคนกลางต่อที่สองหรือสาม
“เหมาเหมา” จึงกลายเป็นแพลตฟอร์มสำหรับค้าส่งแห่งแรกของไทย ที่รองรับการซื้อสินค้าจำนวนมาก (Big Lot) และมีสินค้าไทยที่หลากหลายตอบความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย อีกจุดเด่นของพลตฟอร์มเหมาเหมาคือระบบคัดกรองผู้ซื้อเพื่อป้องกันการขายตัดราคา ทำให้โครงสร้างราคาไม่เสียสมดุลช่วยสร้างกำไรให้ทั้งเจ้าของผลิตภัณฑ์ แบรนด์และแม่ค้าออนไลน์
นอกจากนี้ยังสามารถออกใบกำกับภาษีได้ สำหรับใช้ยื่มสำแดงการชำระภาษีตามที่มีการกำหนด “ภาษีขายของออนไลน์” ซึ่งการซื้อสินค้าจากเถาเป่าไม่สามารถออกใบกำกับภาษี และเป็นแพลตฟอร์มที่ขายในราคาส่งจากผู้ผลิตหรือเจ้าของแบรนด์โดยตรง สามารถขายได้แบบไม่ต้องมีการสต็อกสินค้า โดยให้ทางเจ้าของแบรนด์หรือผู้ผลิตเป็นผู้ส่ง (Dropship) และสามารถจ่ายผ่านบัตรเครดิตได้
เป้าหมายและอนาคตสู่การสร้างรายได้
สิ่งหนึ่งที่ “เหมาเหมา” ตั้งใจคือการเป็นแพลตฟอร์มหรือช่องทางจำหน่ายเพื่อเพิ่มยอดขายให้กับผู้ผลิตหรือแบรนด์ สำหรับแม่ค้าออนไลน์ช่วยเป็นหนึ่งช่องทางในการเข้าถึงผู้ผลิตและแบรนด์ต่างๆ ในราคาขายส่งได้อย่างง่ายๆ ในแพลตฟอร์มเดียวผ่านเว็บไซต์ www.mhao-mhao.com โดยเปิดให้ผู็ที่สนใจเข้ามาลงทะเบียนใช้งานได้แล้ว ซึ่งจะมีการพัฒนาระบบต่อไปเรื่อยๆ ตาม Feedback ที่ได้รับ
โดยในอนาคตตั้งเป้าเป็นแพลตฟอร์มที่ครบวงจรทั้งกับผู้ผลิต แบรนด์และแม่ค้าออนไลน์ ซึ่งในอนาคตจะเข้าถึงผู้ผลิตในกลุ่มจ้างผลิต (OEM) ซึ่งจะช่วยสร้างความหลากหลายให้กับสินค้าที่จะนำมาขายในอนาคต รวมถึงการเตรียมสร้าง Academy เพื่อช่วยให้พัฒนาทักษะการขายของออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นคือการให้บริการสินเชื่อ และการเป็นพาร์ทเนอร์กับทุกบริการที่แม่ค้าออนไลน์นิยมใช้
ทั้งหมดนี้คือช่องทางที่ช่วยให้แม่ค้าออนไลน์สามารถหาสินค้ามาช่วยเติมโดยที่ไม่ขาดช่วง แถมยังได้ราคาที่ช่วยให้สามารถสร้างกำไร ที่สำคัญยังเป็นสินค้าที่ตลาดมีความต้องการช่วยให้ขายง่ายขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นระบบเหมาเหมายังมีการตรวจสอบว่า สินค้าที่นำมาขายเป็นสินค้าแท้ที่ได้รับมาตรฐานและถูกต้องตามกฎหมาย ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับแม่ค้าออนไลน์ได้อีกระดับ