LazLive กลยุทธ์ Shoppertainment ทรานส์ฟอร์มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

ในยุคสมัยที่ผู้บริโภคแทบจะทำทุกอย่างผ่านสมาร์ทโฟน รวมไปถึงการใช้ Social Media, Live-streaming และการช้อปปิ้ง ทำให้เกิดโมเดลธุรกิจและกลยุทธ์การตลาดที่สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป

Lazada ผู้นำอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นับเป็นหนึ่งในผู้นำเทรนด์เรื่อง Shoppertainment ที่เชื่อมผสานระหว่างการช้อปปิ้งและเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ สร้างประสบการณ์การช้อปให้สนุกสนานยิ่งขึ้น โดยเปิดตัวฟังก์ชั่น LazLive การขายของและรีวิวสินค้าผ่าน Live-streaming ตั้งแต่เดือนพฤศิกายนปี 2018

Lazada นำเทคโนโลยีของ Alibaba มาใช้ใน LazLive โดยในประเทศจีน Live-streaming นับว่าได้รับความนิยมอย่างสูง และเป็นพลังสำคัญในการ Transform ธุรกิจอีคอมเมิร์ซจีน

LazLive = E-Commerce + Entertainment

LazLive คือการเชื่อมโยงระหว่างอีคอมเมิร์ซ, Social Media และเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ที่สร้างประโยชน์ให้กับผู้ซื้อและผู้ขายบน Lazada แบบเรียลไทม์

ผู้ค้าและรีเทลเลอร์สามารถขายสินค้า, รีวิวสินค้า, สร้างแบรนด์ และมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านฟังก์ชั่น Live-streaming ทางด้านลูกค้าที่เข้ามาดู content ใน LazLive ก็สามารถรับชมการไลฟ์สด และซื้อสินค้าโดยที่ไม่ต้องออกไปที่แอปพลิเคชั่นอื่น ลูกค้าดูแล้วก็ตัดสินใจซื้อได้เลยทันที และถ้ามีข้อสงสัยอยากจะสอบถามผู้ขายหรือแบรนด์ในเวลานั้น ก็สามารถพิมพ์ถามเข้ามาในไลฟ์แบบเรียลไทม์ ผู้ขายก็ตอบกลับได้ในทันทีเช่นเดียวกัน

การรับรู้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ได้เห็นสินค้า รูปร่าง ขนาด สี หรือการใช้งานจริง อีกทั้งสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยแบบไม่ต้องรอ นับเป็นหนึ่งในจุดเด่นของการไลฟ์ขายสินค้าบนแอปพลิเคชั่น Lazada นอกจากนั้น ลูกค้ายังกดและเก็บคูปองส่วนลด เพื่อนำมาใช้ในการซื้อสินค้าในไลฟ์สตรีมมิ่งได้อีกด้วย

LazLive ได้สร้างประสบการณ์ความสะดวกสบายให้กับทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย หากเทียบกับไลฟ์ของแอปพลิเคชั่นอื่นๆทั่วไป หลังจากทำการไลฟ์ ผู้ขายหรือร้านค้าต้องตรวจสอบแชทลูกค้าหลังบ้าน ลูกค้าทำการโอนเงินผ่านช่องทางการเงิน ร้านค้าก็ต้องคอยเช็คการโอนเงินของลูกค้า หากได้รับการยืนยันแล้วจึงดำเนินการจัดส่งสินค้า แต่สำหรับฟังก์ชั่น LazLive ได้จัดเตรียมระบบหลังบ้านให้กับทางร้านค้าและแบรนด์ไว้พร้อมสรรพ ไม่ว่าจะป็นระบบชำระเงิน การจัดส่งสินค้า และ ระบบบริการลูกค้าหลังการขาย

นอกจากนี้ ในกรณีที่ร้านค้าไหนที่ทำไลฟ์ หรือพูดหน้ากล้องไม่เก่ง ทาง LazLive ก็มีลิสต์ของ KOL ให้ร้านค้าสามารถเลือกติดต่อใช้บริการได้

ในมุมของร้านค้าและแบรนด์ LazLive จึงเปรียบได้กับเครื่องมือการตลาดและการทำธุรกิจที่จบครบในที่เดียว

Marketing content ในโลกยุคโซเชียล

หลังจากเปิดตัวมาได้ครบ 1 ปี LazLive ได้รับผลตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้าและร้านค้า โดยปัจจุบันมีจำนวนยอดการรับชมรวมกว่า 30 ล้านครั้งในประเทศไทย โดยมีจำนวนการรีวิวสินค้ารวมกว่า 50,000 ชิ้นบนแพลทฟอร์ม ซึ่งจัดว่าเป็นคอนเทนต์การตลาดที่ช่วยโปรโมทให้กับร้านค้าได้อย่างดีทีเดียว

ลาซาด้ายังสนับสนุนร้านค้ารายย่อยให้บริหารจัดการหน้าร้านของตัวเอง และใช้เครื่องมือการตลาดเพื่อเป็นช่องทางเข้าถึงลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น โดยความสม่ำเสมอในการทำไลฟ์ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยความสำเร็จของร้านค้า, จากตัวเลขสถิติของลาซาด้า การทำไลฟ์หนึ่งครั้งของร้านค้า จะทำให้มียอดผู้ติดตามเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยกว่าร้อยคนในการทำไลฟ์ในแต่ละรอบ สำหรับลูกค้าที่กดติดตามร้านค้าแล้ว ก็จะได้รับการแจ้งเตือนไลฟ์ในครั้งต่อไป รวมถึงส่วนลดพิเศษต่างๆที่ลูกค้าจะได้รับจากการกดติดตามร้านค้า

ปัจจุบันสินค้าประเภทแฟชั่นและเสื้อผ้าได้ถูกทำการไลฟ์ผ่าน LazLive มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง เพราะลักษณะสินค้าเป็นประเภทที่ลูกค้าต้องได้เห็น ได้สอบถามถึงขนาด สีสัน เนื้อผ้า หรือรูปทรง ถัดมาคือสินค้าประเภทเครื่องสำอางค์และสินค้า Gadget ไอที-อิเล็กทรอนิกส์ ที่ต้องการการรีวิวการใช้งานเพื่อเห็นประสิทธิภาพ

ในมุมของลูกค้า ก็เข้าใจมากขึ้นว่า ดูไลฟ์แล้วสามารถซื้อสินค้าได้ทันที ทำให้ลาซาด้าเห็นยอดขายที่มาพร้อมกับการไลฟ์เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงระดับ Engagement ที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นยอดคอมเมนต์ ยอดกดไลด์ และยอดติดตามร้านค้า

คอนเทนต์ และฟีทเจอร์ต่างๆ ของ LazLive มีความหลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกเพศทุกวัย เพราะลูกค้าที่เข้ามาดูไลฟ์นั้นค่อนข้างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นวัยเริ่มทำงาน, ผู้ชายที่เข้ามาดูการไลฟ์ Gadget, การแต่งรถ-มอเตอร์ไซค์, การไลฟ์เกม, ผู้ใหญ่ที่ดูไลฟ์การขายทองรูปพรรณ นอกจากนี้ LazLive ยังจัด Super LazLive แจกดีลและส่วนลดพิเศษในแต่ละเดือนอีกด้วย

สำหรับแคมเปญใหญ่ 11.11 เทศกาลชอปปิ้งออนไลน์สุดร้อนแรงในรอบปี ที่จะเริ่มในวันที่ 11  เดือน 11นี้ ลาซาด้าวางแผนจะจะมีการไลฟ์ผ่าน LazLive แบบมาราธอนต่อเนื่อง 11 ชั่วโมง รวมถึงการทำไลฟ์กว่า 1,111 ไลฟ์ในช่วงเทศกาล นอกจากนี้ยังเปิดตัว “Lazada Must Buy” ซึ่งเป็นช่วงการแนะนำธีมช้อปปิ้งในแต่ละวัน เพื่อสำรวจความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่และรวบรวมออกมาเป็นลิสต์สินค้าดี ไอเท็มโดนที่ต้องซื้อแห่งปี  ไลฟ์เกมโชว์ GUESS IT! King ที่มี KOL ชื่อดังมาร่วมสนุกให้ผู้ชมร่วมทายราคาสินค้า โดยทำสถิติยอดวิวไลฟ์ผ่านแอพสูงกว่าล้านวิวใน 6 ประเทศ และ Lazada’s Super Show รายการวาไรตี้ที่ถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์หลักของแต่ละประเทศในวันที่ 10 พฤศจิกายน โดยประเทศไทยจะถ่ายทอดสดผ่านทางช่อง 3 พร้อมเปิดตัวกิจกรรม Interactive อย่าง Voucher Rain ที่ผู้ชมผ่านแอปพลิเคชันลาซาด้า จะสามารถสะสมคูปองส่วนลดในแคมเปญ 11.11 สุดพิเศษได้แบบเรียลไทม์ ในเวลา 23.40 น. ของคืนวันที่ 10 พฤศจิกายน

Livestream Competition

ปัจจุบัน ลาซาด้าทำการจัด Lazada Livestream Competition x eSports (หมวด Gaming และ Electronics) การแข่งขันหาสุดยอดนักแม่นปืนสายสตรีมเมอร์กับเกม PubG Mobile ซึ่งครั้งนี้นับเป็นซีซั่นที่ 4 แล้ว, ที่ผ่านมา 3 ซีซั่น ลาซาด้าเคยจัดในธีม 1) Beauty 2) Fashion 3) Foodie

จุดประสงค์ของการจัด LazLive Competition ในหัวข้อสินค้าที่หลากหลาย  ซึ่งลูกค้าก็จะได้เห็นว่า ทุกหมวดสินค้าของลาซาด้าสามารถทำไลฟ์ขึ้นมาได้ นอกจากนั้น การแข่งขันยังเป็นการกระตุ้นให้เกิด KOLs (Key Opinion Leaders) หรือพรีเซ็นเตอร์หน้าใหม่ที่มีประสิทธิภาพในการทำไลฟ์ขึ้นมา โดย KOL หน้าใหม่จะได้เข้าคอร์สการอบรมจาก KOL มืออาชีพ พร้อมโอกาสในการร่วมงานกับแบรนด์ดัง และ KOL ที่ชนะเลิศจากการแข่งขันจะได้จับมือเซ็นสัญญาร่วมงานกับลาซาด้าเป็นระยะเวลาหนึ่งปีเต็มอีกด้วย

LazLive Competition ทั้ง 4 ซีซั่น ทางลาซาด้าได้ออกพื้นที่ไปยังมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อรับสมัครน้องนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเพื่อร่วมเป็น KOLs และมาร่วมการแข่งขันของลาซาด้า โดยกลไกในการวัดความสำเร็จของ KOLs มีทั้งยอดคนดู, ความโดดเด่นในการพรีเซนต์, ความคิดสร้างสรรค์ และยอด Engagement

สำหรับแบรนด์ที่เข้าร่วมโครงการ ก็จะได้ขยายกลุ่มเป้าหมายวัยเยาว์มากขึ้น เพราะ KOLs เป็นน้องนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่มาทำการไลฟ์สินค้าตัวอย่าง ใช้งานจริง และรีวิวจริง

เรียกได้ว่ากลยุทธ์ Shoppertainment ของลาซาด้าเป็น Win-Win ทั้งสำหรับร้านค้า/แบรนด์ และผู้ซื้อเลยทีเดียว