โครงการ eFounders Initiative เป็นจุดเริ่มต้นของพันธกิจของนายแจ็ค หม่า ที่ให้ไว้ในฐานะที่ปรึกษาพิเศษด้านการพัฒนาธุรกิจโดยคนรุ่นใหม่และการบริหารจัดการธุรกิจขนาดเล็ก ในการช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการ 1,000 รายในประเทศกำลังพัฒนา ภายใน 5 ปีจากนี้ โดยอาลีบาบามีแผนที่จะขยายโครงการนี้สู่ประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต พันธกิจดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายความร่วมมือที่ UNCTAD ริเริ่มขึ้นเพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โครงการ eFounders Initiative มุ่งลดช่องว่างด้านโอกาสในโลกดิจิทัลที่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่กำลังเผชิญในประเทศกำลังพัฒนา เพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในเศรษฐกิจดิจิทัล ตามเป้าหมายภายใต้วาระ 2030 เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ นอกจากนี้ โครงการ eFounders Initiative ยังสอดคล้องกับภารกิจของอาลีบาบาในการช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กประสบความสำเร็จ ทั้งในประเทศบ้านเกิดและในตลาดต่างประเทศ ด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี
นายมุคิซา คิตูยี เลขาธิการของ UNCTAD กล่าวว่า “ปัจจุบัน เราต้องพัฒนาศักยภาพของตนเองให้เท่าทันโลก เพื่อที่จะไม่พลาดโอกาสที่อีคอมเมิร์ซหยิบยื่นให้ ทั้งในด้านการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต และการสร้างความเท่าเทียมในเชิงเศรษฐกิจ แต่ละประเทศมีวิธีการใช้และรับประโยชน์จากอีคอมเมิร์ซที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัด และความแตกต่างนี้เห็นได้ชัดที่สุดในแอฟริกา ที่ซึ่งมีจำนวนประชากรที่ซื้อของออนไลน์ไม่ถึงร้อยละ 5”
ผู้เข้าร่วมโครงการทั้ง 24 ราย ล้วนเป็นผู้ผ่านกระบวนการคัดเลือกที่เข้มข้น จากผู้สมัครรวมกว่า 700 ราย โดยทุกคนที่ผ่านการคัดเลือกเข้ามานั้น ล้วนเป็นผู้บุกเบิกในสาขาธุรกิจที่ตนเองเชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็นด้านการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ การวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณมหาศาล (Big Data) การค้าปลีก โลจิสติกส์ และอื่นๆ ระหว่างการเข้าร่วมโครงการ ทั้ง 24 คนได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะกลับไปผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในประเทศของตน โดยหลังสิ้นสุดโครงการ ผู้เข้าร่วมโครงการแต่ละรายจะนำสิ่งที่ได้เรียนรู้มาไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจของตนเอง ก่อนจะแบ่งปันความรู้และทักษะกับผู้อื่น เพื่อนำไปสู่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านอีคอมเมิร์ซในประเทศของตน
ผู้บุกเบิกนวัตกรรมอีคอมเมิร์ซรุ่นใหม่ทั้ง 24 คน เดินทางมาจาก 7 ประเทศในทวีปแอฟริกา เพื่อเข้าร่วมโครงการที่สำนักงานใหญ่ของอาลีบาบาในเมืองหางโจว และเรียนรู้เกี่ยวกับการสร้างระบบนิเวศอีคอมเมิร์ซ (e-commerce ecosystem) จากประสบการณ์ในประเทศจีน คอร์ส 2 สัปดาห์สุดเข้มข้นนี้ ประกอบไปด้วยการพัฒนาความสามารถด้านอีคอมเมิร์ซ นับตั้งแต่การจัดการสินค้า การค้าในพื้นที่ชนบท ไปจนถึงระบบโลจิสติกส์ การชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือวิธีการใช้ข้อมูลในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้มีประสิทธิภาพที่สุด นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังได้รับโอกาสเข้าร่วมเทศกาล 11.11 โกลบอล ช้อปปิ้ง เฟสติวัล ที่เพิ่งผ่านพ้นไปในปีนี้ และร่วมพบปะกับนายแจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารของอาลีบาบาอีกด้วย
ในโอกาสนี้ นายแจ็ค หม่า ได้เรียกร้องให้ทุกภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกับนักเรียนนักศึกษา เจ้าหน้าที่ของภาครัฐ และผู้ประกอบการจากตลาดขนาดเล็ก โดยเขากล่าวว่า “ในอนาคต การจะมอบโอกาสการพัฒนาให้ทุกคนทั่วโลกอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมนั้น ต้องอาศัยผู้สนับสนุนที่มากกว่าเพียงกลุ่มประเทศ G20 หรือ B20 เท่านั้น โดยเราอาจต้องขยายกลุ่มประเทศเหล่านี้ให้กลายเป็น G200 หรือ B200 เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกัน” ทั้งนี้ อาลีบาบา กรุ๊ป มีเป้าหมายในการให้บริการผู้บริโภค 2 พันล้านราย สร้างงาน 100 ล้านตำแหน่ง และสร้างประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม 10 ล้านราย โดยการสร้างกลุ่มประเทศ B200 ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการทำงานภายใต้เป้าหมายนี้ และโครงการ eFounders Initiative ก็ถือเป็นก้าวแรกบนเส้นทางสู่ความทั่วถึงและเท่าเทียมแบบ B200
แคเธอรีน มาฮูกู ผู้ประกอบการวัย 29 ปีจากประเทศเคนยา หนึ่งในผู้เข้าร่วมโครงการ เผยว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่ดิฉันได้เห็นว่าการมีส่วนร่วมในเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลที่แท้จริงเป็นอย่างไร” ขณะที่ดามิลาเร โอกุนเลเย ผู้ประกอบการชาวไนจีเรีย วัย 31 ปี กล่าวเสริมอีกว่า “เมื่อผมกลับไปยังประเทศของผม ผมจะให้ความสนใจเป็นพิเศษกับการแบ่งปันความรู้ให้กับทุกคนในบริษัทของผม เพื่อให้พวกเขาสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล”
นายไบรอัน เอ หว่อง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานโครงการระดับโลกของอาลีบาบา กรุ๊ป เผยว่า “เป้าหมายของโครงการนี้คือการเสริมความแข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการชาวแอฟริกัน เราเชื่อว่าผู้เข้าร่วมโครงการทุกท่านจะมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากในการสร้างเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ (New Economy) ในประเทศของตนในอนาคต เราอยากให้พวกเขากลายเป็น แจ็ค หม่า ในแบบฉบับของประเทศบ้านเกิดของแต่ละคน”