หลายท่านคงทราบแล้วว่าเทรนด์ของการรักสุขภาพกำลังเป็นกระแสที่มาแรง ไม่ว่าจะเป็นการปั่นจักรยาน การวิ่งมาราธอน การเข้าฟิตเนสออกกำลังกาย การรับประทานอาหารคลีน และอาหารปลอดสารพิษ ก็กำลังได้รับความนิยมไม่น้อยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม สำหรับการกินคลีนหรือทานอาหารปลอดสารพิษนั้น เป็นที่ทราบดีว่าเป็นสินค้าที่มีราคาค่อนข้างแพง จนทำให้ผู้บริโภคบางส่วนแม้อยากจะดูแลสุขภาพตัวเองแต่ด้วยราคาที่สูงจึงไม่อยากที่จะซื้อมารับประทาน ในขณะเดียวกันก็ยังมีผู้บริโภคบางส่วนยอมที่จะจ่ายในราคาที่สูงขึ้นแต่ได้สินค้าที่ดีกับสุขภาพ ทว่าติดปัญหาตรงที่สินค้ามีจำนวนไม่มากและหาซื้อยาก
ข่าวดีสำหรับคนรักสุขภาพทุกคน เมื่อภาคการผลิตและภาคเอกชนเห็นถึงความสำคัญของสุขภาพของผู้บริโภคว่า ถึงเวลาแล้วที่คนไทยควรจะได้รับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ ปราศจากสารพิษ และที่สำคัญคือยังสามารถช่วยเกษตรกรไทยให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นฐานรากที่สำคัญของเศรษฐกิจไทยได้อีกด้วย
จึงเป็นที่มาของการเกิด โครงการ “ข้าวของขวัญ จากไร่เชิญตะวัน” ที่ได้รับความร่วมมือระหว่าง ภาคเอกชน ได้แก่ กองทุนบุญประสิทธิ์ตั้งชัยสุข และ บริษัท A Host จำกัด, บริษัท Spirit Move จำกัด ผู้พัฒนา App Thai Go Green (TGG), บริษัท TVD Shopping จำกัด หรือ TVD momo จำกัดและภาคประชาสังคม ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนไร่เชิญตะวัน ซึ่งมีที่ปรึกษาระดับบุคคลสำคัญมีวิสัยทัศน์ไกลและเป็นที่รู้จักโดยทั่วไป ได้แก่ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ ท่าน ว.วชิรเมธี พระนักปรัชญาชื่อดังของไทยนั่นเอง
สำหรับโครงการดังกล่าวได้แก่ โครงการ “ข้าวของขวัญ จากไร่เชิญตะวัน” ซึ่งเป็นโครงการที่นำข้าวปลอดการใช้สารเคมีบริสุทธิ์ 100% ซึ่งเป็นผลผลิตที่มาจากชาวนาของโรงเรียนชาวนาพุทธเศรษฐศาสตร์ โดยไร่เชิญตะวัน คัดสรรผลผลิตอย่างดีมาจัดจำหน่ายผ่านช่องทาง E-commerce สั่งผ่านแอพพลิเคชั่น ที่ชื่อว่า Thai Go Green และ TVD momo ทีวี24 ชั่วโมง ที่ช่อง IPM 51, GMMZ43, BIG4-43, Sun Box 43 ได้อีกด้วย พร้อมจัดส่งแบบเดลิเวอร์รี่ให้ถึงหน้าบ้านทันที ทำให้ได้รับสินค้าคุณภาพในราคาเหมาะสม
ทั้งนี้ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี ได้กล่าวถึงที่มาที่ไปของโครงการโดยสรุปให้ฟังว่า เป็นโครงการที่เริ่มมาจากแนวคิดที่อยากจะช่วยชาวนาปลดหนี้ให้พ้นจากความทุกข์ ซึ่งเป็นที่มาของความยากจน ถามว่าทำไมสิ่งนี้เป็นกิจของสงฆ์ด้วยหรือไม่ ก็ต้องตอบว่า เมื่อคนเรามีทุกข์ ทุกข์นั้นก็ทำให้ไม่สบายใจ ไม่มีความสุขและไม่ต้องการเรียนรู้พระธรรม คนก็เข้าวัดน้อยลง
“ครั้งหนึ่งพระอาจารย์ได้ไปเทศนาในวัดแห่งหนึ่งในหมู่บ้านใกล้ๆ ยังไม่ทันที่จะเริ่มต้นเทศน์ มัคนายกก็มากระซิบบอกกับพระอาจารย์ว่า ช่วยเทศน์ให้เร็วๆ ด้วยเพราะว่าชาวบ้านจะรีบไปทำงาน พระอาจารย์ฟังแล้วก็สะเทือนใจเหลือเกิน ปกตินั้นมีแต่จะได้รับเชิญไปเทศนาที่นั่นที่นี่ ต่างประเทศก็มี ปฏิเสธก็มากเพราะไม่มีเวลา แต่นี่เป็นความตั้งใจโดยแท้จริงที่จะมาช่วยชาวบ้าน พอได้ฟังก็มานั่งพิจารณาว่าอะไรคือสาเหตุที่ชาวบ้านจะต้องรีบไปทำงาน แม้จะสละเวลาเล็กน้อยเพื่อฟังเทศน์ฟังธรรมก็ไม่ได้ ที่แท้มันก็คือ “หนี้สิน” ซึ่งเป็นความทุกข์ที่ทำให้ชาวบ้านห่างจากพุทธศาสนาน้อยลง ดังนั้น พระอาจารย์ในฐานะผู้เผยแพร่พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธจึงตัดสินเข้ามาช่วยแก้ปัญหาดับทุกข์ให้ชาวบ้าน เพื่อให้ชาวบ้านได้มีเวลาในการเข้าถึงพระพุทธศาสนาให้ได้ ด้วยการช่วยปลดหนี้ผ่านการทำการเกษตรแบบอินทรีย์ ซึ่งไม่ได้ประโยชน์เฉพาะแต่ตนเอง แต่ยังได้ประโยชน์ต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อมของเราอีกด้วย”
และด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่มาของการก่อตั้ง โรงเรียนชาวนาพุทธเศรษฐศาสตร์ ซึ่งนักเรียนของโรงเรียนก็คือเกษตรกรในชุมชนหลายตำบลของ จ.เชียงราย โดยโรงเรียนแห่งนี้จะให้คำแนะนำชาวนาในการปลูกข้าวแบบเกษตรอินทรีย์ปลอดสารเคมี 100% ที่สำคัญคือ ทุกคนจะต้องถือศีลและปฏิบัติธรรมตามคำสอนของพุทธศาสนาด้วย ดังนั้น ข้าวที่ได้จะเป็นข้าวอินทรีย์ปลอดสารพิษสะอาดบริสุทธิ์ ทั้งกระบวนการตั้งแต่ผู้ปลูกไปจนถึงผลผลิต ผู้บริโภคก็จะรับประทานข้าวที่ได้คุณภาพสะอาดปลอดภัยและยังช่วยเหลือเกษตรกรโดยตรงอีกด้วย
สำหรับมาตรฐานข้าวที่ว่าปลอดสารพิษปราศจากสารเคมี 100% นั้น ตรงส่วนนี้ “คุณเกษลักษณ์ หาราชัย” ประธานวิสาหกิจชุมชนไร่เชิญตะวัน ขยายความเพิ่มเติมว่า ยืนยันว่าข้าวนั้นได้มาตรฐานทั้งระดับในประเทศและต่างประเทศ โดยได้รับการรับรองจาก สหพันธ์เกษตรอินทรีย์นานาชาติ หรือ IFOAM (International Federation of Organic Agriculture Movements) และ สำนักงานมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ (มกท.) ด้วย ทั้งนี้ ทางวิสาหกิจฯ เราจะทำหน้าที่ในการช่วยหาตลาดให้กับชาวนานอกเหนือจากการสนับสนุนในการทำเกษตรอินทรีย์แล้ว อย่างเช่นตลาด E-commerce ผ่านแอพพลิเคชั่นของ Thai Go Green และทีวีผ่านช่อง TVD momo ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคได้รับข้าวที่มีคุณภาพปลอดสารเคมี และที่สำคัญที่สุดคือ ชาวนาจะได้มีรายได้ช่วยปลดหนี้ตามเจตจำนงค์ของท่านพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี
ด้าน “คุณปัญญา บุญขจรธำรง” ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัทSpirit Move จำกัด กล่าวถึงช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านแอพพลิเคชั่น Thai Go Green ว่า จะช่วยเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย “ข้าวของขวัญ” ในรูปแบบ E-commerce ซึ่งมีจัดจำหน่ายตั้งแต่ ข้าวหอมมะลิในราคา 70 บาท/กก. ข้าวกล้องหอมมะลิราคา 80 บาท/กก. และข้าวไรซ์เบอร์รี่ราคา 90 บาท/กก. สั่งได้ทั้งในแบบรายครั้งและรายเดือน และเรายังมีบริการdelivery ส่งถึงบ้านให้คุณทั่วประเทศอีกด้วย สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งในระบบ Android และ iOS รวมถึงติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ Facebook และ Line@
“ที่สำคัญคือเรายังช่วยดูแลเรื่องของคุณภาพให้กับผู้บริโภคอีกด้วย โดยด้านข้างบรรจุภัณฑ์เราจะมี serial number ซึ่งจะระบุที่มาของข้าวถุงนี้ว่าใครคือผู้ผลิต (ชื่อชาวนาผู้ปลูก) รวมถึง lot และจำนวนถุง ที่ผลิต ซึ่งหากท่านพบสิ่งผิดปกติที่ข้าวถุงไหนก็สามารถแจ้งผ่าน App ได้พร้อมกับระบุ serial number ของถุงนั้นๆ นับว่าเป็นระบบการตรวจสอบคุณภาพอย่างละเอียดด้วยตัวของผู้บริโภคเองโดยตรง และเราก็จะทำการจัดส่งถุงใหม่ชดเชยให้ท่านทันที ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีใครกล้าทำถึงขั้นตอนการดูแลผู้บริโภคหลังการขายแบบนี้มาก่อนเลย สิ่งนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคมากขึ้นว่าสินค้าที่คุณได้ไปนั้นมีคุณภาพอย่างแท้จริง”
ทั้งนี้ คุณปัญญา ยังเผยถึงสาเหตุที่กล้าขายในราคาต่ำกว่าท้องตลาดทั่วไปว่า เป็นเพราะมั่นใจในคุณภาพของ “ข้าวของขวัญ” จากไร่เชิญตะวันมาก เพราะเป็นข้าวเกษตรอินทรีย์ปลอดสารเคมีแบบ 100% ได้มาตรฐานสากล ซึ่งตลาดตอนนี้มีความต้องการสูงมาก แต่ที่ผ่านมานอกจากจะราคาสูงแล้วก็ยังหาซื้อที่ได้คุณภาพยากอีกด้วย แต่ข้าวที่นี่นอกจากจะได้คุณภาพแล้วเรายังสร้างความพึงพอใจให้ผู้บริโภคด้วยการจัดส่งถึงที่ ซึ่งเป็นความสะดวกสบายที่ห้างร้านทั่วไปไม่มี ที่สำคัญคือการจัดจำหน่ายโดยไม่ผ่านผู้ค้าคนกลางเลยทำให้เกษตรกรได้รับผลประโยชน์จากรายได้ตรงนี้เพิ่มมากขึ้น โดยไม่ถูกหักส่วนแบ่งจำนวนมากออกไป และยังสามารถจำหน่ายถึงผู้บริโภคได้ ในราคาที่ไม่แพงจนเกินไปอีกด้วย
“ยอมรับว่าเราอาจจะได้กำไรไม่มาก แต่สิ่งนี้ถ้าทำเพื่อช่วยเกษตรกรหรือชาวนาซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของประเทศไทยพร้อมๆ กับทำให้ผู้บริโภคได้รับประทานอาหารดีๆ ในราคาเหมาะสมเราก็คิดว่า เราได้เดินมาถูกทางแล้ว”
คุณบุญประสิทธิ์ ตั้งชัยสุข ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท A Host จำกัด กล่าวถึงการเข้ามาช่วยวางระบบ IT Cloud & Manage Services ในการจัดจำหน่ายว่า บริษัท A Host เราดำเนินมาแล้วกว่า 20 ปี เราเล็งเห็นปัญหาความยากจนของชาวนา และพบว่าปัญหาที่สำคัญคือช่องทาง และขั้นตอนในการจัดจำหน่าย รวมถึงช่องทางการจัดส่งสินค้าตรงถึงมือผู้บริโภคดังนั้น บริษัท A Host ซึ่งดำเนินการเรื่องIT Cloud & Manage ServicesสำหรับE-commerce มานาน ประสบความสำเร็จกับสินค้าและผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกมาก ดังนั้น วันนี้ถือว่าได้มาตอบแทนคุณแผ่นดินและพระพุทธศาสนาในการที่จะช่วยกำจัดความยากจนให้กับชาวนา จึงถือเป็นเรื่องดีอย่างยิ่งที่เราได้มารวมตัวกันเพื่อช่วยเกษตรกรของเรา วันนี้เราอาจจะเริ่มต้นที่ในประเทศแต่วันข้างหน้าเราก้าวต่อไปของเราคือต่างประเทศ ขอเพียงในส่วนของผู้ผลิตซึ่งก็คือชาวนารักษาคุณภาพตรงนี้ให้ได้
คุณธนบุล มัทธุรนนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท TVD Shopping จำกัด หรือ TVD momo จำกัด กล่าวถึงการเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรกับ Thai Go Green ในการเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายผ่านทาง TV ทั่วประเทศว่า ทาง TVD momo เราพร้อมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการดีๆ อย่างการจัดจำหน่าย “ข้าวของขวัญ” จากไร่เชิญตะวันซึ่งเป็นข้าวที่ได้คุณภาพมาตฐานปลอดสารพิษ โดยเราจะเป็นอีกช่องทางในการเผยแพร่ข้อมูลถึงผู้บริโภค แม้ว่าที่ผ่านมาเราอาจจะไม่ได้มีสินค้าประเภทเกษตรกรรมเลยที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าแฟนๆ ของรายการจะต้องตอบรับสินค้าดีมีคุณภาพอย่างข้าวของขวัญจากไร่เชิญตะวันอย่างแน่นอน ถือเป็นมิติใหม่ที่ TVD momo เราจะเริ่มต้นให้กับรายการและท่านผู้ชม
และวันนี้ก็ถึงวันที่เทคโนโลยีเชิงพาณิชย์ได้เข้ามามีส่วนช่วยเศรษฐกิจฐานรากของไทยได้แล้ว กับโครงการจำหน่าย “ข้าวของขวัญ” จากไร่เชิญตะวันผ่านช่องทาง E-commerce ครั้งนี้น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการและผู้ผลิตรายอื่นๆ ได้นำไปใช้เป็นโมเดลในสินค้าเกษตรอื่นๆ ต่อไปได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มช่องทางในการจัดจำหน่ายให้กับเกษตรกร ชาวนา ชาวสวนไทยได้อย่างมากทีเดียว และจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยแข็งแกร่งขึ้นอย่างยั่งยืน.