ยุทธวิธีเพิ่มยอดขายผ่านทางโมบายให้ e-Commerce

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

ThinkstockPhotos-488576383

จากแนวคิดที่ว่า Mobile First หรือสมาร์ทโฟนต้องมาก่อน เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา และจะชัดเจนขึ้นในปี 2016 นี้ จะทำธุรกิจอะไรต้องนึกถึงสมาร์ทโฟนไว้ก่อน เพราะจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนมีสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และการขยายโครงข่าย 3G-4G ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้นเรื่อยๆ และนั่นทำให้ Mobile Commerce มีความสำคัญมากขึ้น ร้านค้าไหนที่มีระบบ e-Commerce อยู่แล้ว ต้องโฟกัสไปที่โมบายมากขึ้น โดยสร้างระบบให้สามารถดูผ่านสมาร์ทโฟนและซื้อได้ทันที และต่อไปนี้ คือสิ่งที่จะเพิ่มยอดขายผ่านโมบายให้สูงขึ้น

1 เพิ่มสินค้าพิเศษ และลดราคาพิเศษ

เป็นธรรมดาที่คนจะคุ้นเคยกับการซื้อผ่านคอมพิวเตอร์มากกว่า โดยผลการสำรวจปี 2015 ที่ผ่านมาระบุว่า การซื้อผ่านเดสก์ท็อปอยู่ที่ 3.35% ซื้อผ่านแท็บเล็ต 2.52% และสมาร์ทโฟน 1.18% ซึ่งปกติแล้ว คนจะใช้มือถือเพื่อค้นหาข้อมูลและเปรียบเทียบราคา จากนั้นก็ไปซื้อในเดสก์ท็อป

การจะเปลี่ยนพฤติกรรมให้คนมาซื้อของผ่านโมบายมากขึ้น ก็ต้องมีสิ่งพิเศษเล่น สินค้าที่มีขายเฉพาะบนโมบายเท่านั้น และยังได้ราคาพิเศษด้วย ถือว่ามีส่วนช่วยเพิ่มยอดขายในระยะสั้น และสร้างความคุ้นเคยในระยะยาวได้

2 สร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า

นอกจากการออกแบบเว็บไซต์แบบ responsive นั่นคือมีการปรับให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ที่ใช้งานแล้ว ควรมีบริการเสริมเพื่อช่วยเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า เช่น ระบบแชท (ที่ต้องพร้อมตอบอย่างรวดเร็ว), ระบบสแกนบาร์โค้ด, แนะนำสินค้าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และที่เหนือสิ่งอื่นใด ต้องมีความน่าเชื่อถือ (reliability)

จากผลสำรวจพบว่า ผู้ซื้อ 40% ยังไม่มั่นใจในการซื้อของออนไลน์ และเพิ่มเป็น 80% ถ้าเป็นการซื้อบนโมบาย ดังนั้นต้องสร้างความสบายใจให้ลูกค้า ซึ่งการมีเครื่องมือที่พร้อมจะโต้ตอบ เช่น การแชท จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการซื้อให้ลูกค้าได้ถึง 40%

ThinkstockPhotos-476661986

3 วิเคราะห์ข้อมูลให้ดี ได้ใจกว่า

ผู้ซื้อบนโมบายอาจจะมีพฤติกรรมที่แตกต่างไปบนเดสก์ท็อป การใช้ข้อมูลต่างๆ ให้เป็นประโยชน์มีส่วนช่วยเพิ่มยอดขาย การให้คูปองแบบ Promocodes คือกรอกรหัสเพื่อรับส่วนลด หรือสิทธิพิเศษ ควรใช้ข้อความง่ายๆ เช่น โปรโมชั่นส่งสินค้าฟรี กรอกรหัส “freeshipping” ดีกว่าใช้รหัสแบบมั่วๆ เช่น LFVKS21 เพราะการซื้อของบนโมบายนั้น มีข้อจำกัดในการททำงานอยู่พอสมควร

อีกส่วนหนึ่งคือ สินค้าที่ขายดีบนโมบาย มีแนวโน้มจะเป็นสินค้าที่มีความเฉพาะเจาะจง หรือสินค้าหายาก ดังนั้นการมีรูปที่ชัดเจนคือส่วนสำคัญ และต้องมีการอัพเดทที่รวดเร็ว เมื่อมีการสั่งซื้อไปแล้วระบบต้องนำสินค้านั้นออกจากร้านค้าออนไลนัทันที

4 ระบบรับชำระเงินที่ง่ายและปลอดภัย

การโดนโกงเกี่ยวกับบัตรเครดิตถือสิ่งที่ผู้บริโภคหวาดกลัวมากที่สุด และเหตุผลที่คนไม่ซื้อของออนไลน์บนมือถือคือ รู้สึกไม่ปลอดดภัยกับการกรอกข้อมูลบนมือถือ ทางออกหนึ่งคือ การเลือกใช้ผู้ให้บริการ payment ที่น่าเชื่อถือ และเป็นที่รู้จัก มีได้รับการการันตี เช่น Paypal, Truemoney, 2c2p, Omise เป็นต้น

ThinkstockPhotos-461970043

 

ThinkstockPhotos-506930259

5 ใช้ข้อมูลจากลูกค้า สร้างเนื้อหาน่าสนใจ

บน Facebook และInstagram ลูกค้าพร้อมจะโพสต์รูปภาพสินค้าที่ซื้อไปตลอดอยู่แล้ว ดังนั้นสิ่งที่ร้านค้าต้องทำ เพียงแค่ “ขออนุญาต” จากลูกค้า เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ (ในไทย บางทีก็ใช้ข้อความแชทกับลูกค้า) ซึ่งผลการสำรวจพบว่า รูปจากผู้ซื้อช่วยเพิ่มการ engagement ได้ 30% และสร้าง conversion rate ได้ 5%

6 ใครว่า SMS ไม่มีประโยชน์

90% ของผู้ใช้มือถืออ่าน SMS ภายใน 3 นาทีที่ได้รับ ไม่เหมือนอีเมลที่อาจจะอยู่ใน inbox เป็นชั่วโมงหรือเป็นสัปดาห์ก่อนจะถูกเปิดอ่าน แสดงว่า SMS คือสื่อที่มีการตอบรับสูง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ SMS กระชับและตรงประเด็น เพราะเป็นข้อความที่จำกัด ดังนั้นต้องใช้ทุกคำให้คุ้มค่า สื่อสารให้ชัดเจนที่สุด ซึ่งทางที่ดีคือ ส่งโปรโมชั่น หรือข้อความดึงดูดให้คนอยากเข้ามาที่เว็บไซต์ โจทย์ที่สำคัญมากคือ ต้องส่ง SMS ไปให้ตรงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และต้องน่าเชื่อถือ ไม่เช่นนั้น จะมีสภาพคล้าย Spam ทันที

7 ผู้ชายซื้อของผ่านโมบายมากกว่าผู้หญิง

ถ้าคุณต้องการเพิ่มยอดขายผ่านทางโมบาย ตั้งเป้าหมายไปที่ผู้ชายได้เลย จริงอยู่ว่าผู้หญิง 57% ซื้อของออนไลน์ เทียบกับผู้ชายที่ 52% แต่ 22% ของผู้ชายซื้อของผ่านทางสมาร์ทโฟน ขณะที่ผู้หญิงอยู่ที่ 18% ถ้าว่ากันตามข้อมูลนี้ สินค้าของผู้ชายมมีโอกาสขายได้มากกว่า

ThinkstockPhotos-520691525

 

source: huffingtonpost

 

 

 


  •  
  •  
  •  
  •  
  •