คำพูดติดปากของคนยุคหนึ่งคือ “ชื่อนั้นสำคัญไฉน” แต่บทความของเราในวันนี้จะตั้งคำถามบ้างว่า “ชื่อเว็บไซต์นั้นสำคัญไฉน” ซึ่งคำตอบจะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจาก “สำคัญมาก”
ชื่อเว็บไซต์หรือ domain name นั้นถูกพร่ำบอกในกลุ่มผู้สร้างเว็บไซต์ว่าจะต้องเน้นความง่าย ชัดเจน และการสื่อความหมายได้ดี จึงจะเข้าสูตรชื่อเว็บไซต์ที่ดีเพื่อให้คนเข้าถึงได้ง่าย เหตุผลนี้ทำให้โลกได้เห็นการทุ่มเงินซื้อชื่อเว็บไซต์เป็นล่ำเป็นสัน เช่นเดียวกับในมุมของบริษัท ที่จำเป็นต้องตัดสินใจเปลี่ยนชื่อเว็บไซต์เพื่อรีแบรนด์ใหม่ หรือเพื่อลดความสับสนและซับซ้อนลง
แบรนด์ที่ไม่เพียงอยู่รอดหลังเปลี่ยนชื่อเว็บไซต์ แต่ยังโด่งดังสุดขีดหลังจากนั้น ได้แก่
1. Twitter
ก่อนหน้านี้ Twitter ใช้ชื่อเว็บไซต์ว่า Twttr.com ตามแรงบันดาลใจของรหัสย่อ SMS ซึ่งมักมี 5 ตัวอักษร แต่อีก 2-3 เดือนถัดมา (ในปี 2006) หลังจากที่เว็บไซต์เปิดให้บริการ ผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter จึงยอมจ่ายเงิน 7,500 เหรียญเพื่อเพิ่มตัวอักษรจนทำให้ชื่อเว็บไซต์ twitter.com กำเนิดขึ้น โดยที่หากพิมพ์ชื่อ twttr.com ระบบก็จะ redirect หรือส่งทราฟิกกลับมายังเว็บไซต์หลัก
2. Facebook
จากที่ใช้ชื่อว่า “thefacebook.com” ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2004 หนุ่ม Mark Zuckerburg จึงถือโอกาสเปลี่ยนชื่อพร้อมโฉมเว็บไซต์ซึ่งมีการรีดีไซน์ใหม่ในเดือนสิงหาคมปี 2005 โดยทีมงาน Facebook ตัดสินใจทิ้งคำว่า “the” ออกจากชื่อเว็บ ซึ่งต้องเสียเงินซื้อชื่อ facebook.com ในราคาราว 200,000 เหรียญสหรัฐ
3. NBCnews.com
ผลจากการหยุดเป็นพันธมิตรระหว่าง Microsoft และสถานีข่าว NBC ในเดือนกรกฎาคม 2012 ชื่อเว็บไซต์ MSNBC.com ถูกเปลี่ยนเป็น “NBCNews.com” ในช่วงข้ามคืน โดยวันนี้ ทราฟิกจาก MSNBC.com จะถูก redirect ไปยังเพจของ NBCNews.com ซึ่งประชาชนผู้อ่านข่าวก็ยังให้การต้อนรับอย่างดี
4. PayPal
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า PayPal เป็นผลผลิตจากบริการชำระเงินออนไลน์นาม X.com ซึ่งถูกควบรวมกับบริษัท Confinity เพื่อให้บริการโอนเงินเป็นหลัก โดย X นั้นถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์สากลของค่าตัวแปรในการเขียนโปรแกรมของนักพัฒนา แต่แล้วเมื่อบริษัทต้องปรับโครงสร้าง บริการจึงถูกรีแบรนด์ใหม่ว่า PayPal หลังจากการสำรวจความเห็นพบว่า X.com นั้นส่อไปในแง่สื่อลามกมากขึ้น
5. Google
นักศึกษา Stanford อย่าง Sergey Brin และ Larry Page สร้าง Google โดยอิงกับเว็บไซต์ของ Stanford โดเมนเนมดั้งเดิมของ Google จึงกลายเป็น “google.stanford.edu” ดังนั้นหลังจากทั้งคู่จดทะเบียนชื่อ “google.com” ในกันยายนปี 1997 ชื่อ google.com จึงให้บริการอย่างเป็นทางการในเวลา 1 ปีหลังจากนั้น
ได้รู้แบบนี้แล้ว อย่าลืมสำรวจชื่อเว็บไซต์ของบริษัทคุณ แล้วกล้าที่จะเปลี่ยนชื่ออย่างรอบคอบ!!
ที่มา : Mashable
