ปัจจุบันการค้าขายผ่านธุรกิจ e-Commerce กลายเป็นเรื่องปกติสำหรับแบรนด์และพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์รายย่อย ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดต่อ ที่ทำให้ช่องทางการขายปกติไม่สามารถดำเนินการได้ อีกทางธุรกิจ e-Commerce ยังช่วยให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงได้อย่างง่ายดาย และยังเป็นช่องทางที่สามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง
แต่ถึงอย่างนั้น การค้าขายผ่านธุรกิจ e-Commerce จำเป็นต้องรู้เทรนด์ที่จะเกิดขึ้น ยิ่งแบรนด์หรือพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่สามารถจับเทรนด์ได้เร็ว โอกาสในการขายก็มีมากเช่นเดียวกัน และต้องยอมรับว่าเทรนด์ของธุรกิจ e-Commerce ทั่วโลกส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่ประเทศจีน นั่นเป็นเพราะตลาด e-Commerce ของจีนมีขนาดใหญ่มากที่สุดในโลก รวมไปถึงเทคโนโลยีของจีนที่พัฒนาอยู่ในระดับแถวหน้าของโลก
เห็นได้จากในช่วงที่ผ่านมาเทรนด์การขาย e-Commerce ส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่ประเทศจีน จนทำให้ชื่อ Silicon Valley แทบจะหายไป เช่น การ Live ขายสินค้าที่เกิดขึ้นในประเทศจีน นอกจากนี้นวัตกรรมของจีนได้หล่อหลอมธุรกิจ e-Commerce ทั่วโลกก่อให้เกิด 4 เทรนด์นวัตกรรมที่จะมีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม ที่สำคัญยังส่งผลต่อการช้อปปิ้งออนไลน์ทั่วโลก
ช้อปปิ้งออนไลน์คือความบันเทิง
ลักษณะเฉพาะอย่างหนึ่งของตลาด e-Commerce คือ วิธีที่การช็อปปิ้งออนไลน์ถูกสร้างขึ้นมาให้ง่ายเหมือนเป็นงานอดิเรก โดยแพลตฟอร์มจะช่วยให้ผู้คนสามารถค้นพบ เล่น และเพลิดเพลิน รวมถึงการใช้จ่ายเพื่อสร้างประสบการณ์ความสนุกในการ้แพลตฟอร์ม ทั้งหมดเพื่อแย่งเวลาของผู้บริโภคให้อยู่กับแพลตฟอร์มนานที่สุด มากกว่าเน้นการขายเป็นหลัก ซึ่งแบรนด์และพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ก็สามารถทำได้ โดยเฉพาะการ Live สดขายของ
หรือกรณีตัวอย่าง ร้านค้าปลีกหรูหราสัญชาติอเมริกันอย่าง Nordstrom ที่จัดกิจกรรมเสมือนจริงให้ผู้บริโภคเลือกชมมากกว่า 50 รายการในปีที่แล้ว หรือแม้แต่ห้างสรรพสินค้าฝรั่งเศส Printemps ที่ Live ขายสินค้า 4 รายการจากร้านของ Boulevard Haussman และความสำเร็จที่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของ Popshop Live ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพสตรีม Live สดในสหรัฐฯ
ตัวอย่างอื่นๆ ของร้านค้าที่เน้นความบันเทิง ได้แก่ การขายสินค้าผ่าน Instagram ที่สามารถขายผ่าน Instagram Live ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับแอปฯ วิดีโอจากจีนอย่าง Douyin ที่มี Bytedance เป็นเจ้าของ และถือเป็นรุ่นน้องต่อจาก TikTok ที่ประสบความสำเร็จในการขายออนไลน์ทั้งในยุโรปและสหรัฐฯ ด้วยแฮชแท็ก #TikTokMadeMeBuyIt ที่ปัจจุบันมีผู้เข้าชม 4.1 พันล้านครั้งและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้การช็อปปิ้งกลายเป็นส่วนหนึ่งของความบันเทิงออนไลน์ในแต่ละวัน
การเสพติดออนไลน์ส่งผลต่อการขาย
อย่างที่กล่าวไว้แล้ว เทรนด์สำหรับการค้าขาย e-Commerce ในอนาคต คือ การสร้างความบันเทิงและความสนุกสนานในการช้อปปิ้งออนไลน์ การจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องก็มีส่วนช่วยสร้างยอดขายให้กับแบรนด์และพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ จนกลายเป็นพฤติกรรมเสพติดของนักช้อปออนไลน์ อาทิ การจัดนิทรรศการเสมือนจริงของ Tmall และเกมที่มีแบรนด์ป็นส่วนหนึ่งในเกมพร้อมปรับเปลี่ยนไปตามการซื้อของลูกค้า
การใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงที่รวม AI และ AR ยังสะท้อนถึงการเติบโตของเกม e-Commerce อีกด้วย ตัวอย่างล่าสุดเมื่อ Snapchat ร่วมมือกับ Farfetch และแบรนด์ Prada ใช้เทคโนโลยี 3D Body Mesh ที่อนุญาตให้ลูกค้าสามารถลองเสื้อผ้าแบบ 3 มิติเสมือนจริง ช่วยให้ลูกค้าสามารถเห็นภาพการเคลื่อนไหวของผ้าที่แสดงให้เห็นถึงความบางและเบา และความพอดีกับตัว พร้อมทั้งสามารถแชร์ภาพการสวมใส่ให้เพื่อนๆ ดูเพื่อช่วยให้ตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น
การเล่นเกมได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการช็อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจที่แบรนด์แฟชั่นระดับโลกบางแห่งสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในประเทศจีน ยกตัวอย่างเช่น Balenciaga กับการเปิดตัวคอลเลกชัน Fall 2021 ผ่านวิดีโอเกมออนไลน์ Afterworld: The Age of Tomorrow ในขณะที่ Gucci ร่วมมือกับ Roblox ในการเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถสัมผัสประสบการณ์ Gucci Garden ในเกมเมื่อช่วงต้นปีนี้
สร้างวาระพิเศษเทศกาลช้อปปิ้ง
การใช้โปรโมชั่นในช่วงวันหยุดพิเศษเป็นสิ่งที่ทำมานานแล้วก่อนธุรกิจ e-Commerce จะเกิดขึ้น เช่น วันวาเลนไทน์ วันชาติ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมามีเทศกาลช้อปปิ้งมากมายเกิดขึ้นในประเทศจีน และหลายวันที่ถูกกำหนดขึ้นมาแบบเฉพาะเจาะจงจนกลายเป็นวัฒนธรรมการช้อปปิ้ง เช่น วันคนโสดและเทศกาล 618 เป็นที่รู้จักทั่วโลกและกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น
เทศกาลเหล่านี้ แบรนด์หรือพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์สามารถกำหนดขึ้นมาได้เอง และสามารถใช้เทศกาลเหล่านั้นสร้างความเชื่อมโยงกับแบรนด์และสินค้าได้ เช่น เทศกาล 618 ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองวันครบรอบการก่อตั้งของ JD.com ในปี 2010 หรือเทศกาลของ Net-a-Porter ในปี 2021 ที่มีระยะเวลาเทศกาลถึง 2 สัปดาห์ และ Small Bizz Day ของ Youtube
ช้อปปิ้งได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน
เมื่อการช้อปปิ้งออนไลน์สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา แบรนด์และพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จึงจำเป็นต้องพร้อมรับมือในการสื่อสารกับผู้บริโภคทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง ภายใต้ความคาดหวังการตอบสนองในไม่กี่วินาที นั่นจึงทำให้หลายแพลตฟอร์มมีเทคโนโลยีและช่องทางในการสื่อสารให้กับผู้บริโภคได้ง่าย เช่น การใช้ Hang Out วิดีโอและผู้ช่วย AI ในการตอบคำถามบน Tmall และ JD หรือใน WeChat Mini Stores
นอกจากนี้ การจัดส่งแบบทันทีในจีนนั้นก่อให่เกิดการจัดส่งที่ “รวดเร็วมาก” โดยมีเป้าหมายรอเวลา 10-15 นาที ซึ่งกำลังได้รับความสนใจอย่างมากทั่วยุโรป เอเชีย รัสเซีย อเมริกาใต้ และสหรัฐอเมริกา แม้ว่าจะไม่เห็นการนำรูปแบบ e-Commerce ของจีนไปใช้ในตลาดตะวันตก แต่นวัตกรรมเหล่านี้มีความแตกต่างกันอย่างมากในตลาด e-Commerce ที่ยังมีโอกาสเติบโตมากกว่านี้ เช่น ภูมิภาคเอเชียเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
Source : Campaign Asia
