หากมองข้ามช่วงสถานการณ์โรคระบาด ญี่ปุ่นถือเป็นหนึ่งในประเทศที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกชื่นชอบ โดยเฉพาะเมืองเกียวโตซึ่งเป็นหนึ่งในปลายทางที่ผู้คนเลือกเดินทางไปเยือน จากสถิติในปี 2562 ก็พบว่ามีผู้มาเยือนเกียวโตมากถึง 87.91 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ประมาณ 2.86 ล้านคน ดังนั้น หลายฝ่ายจึงมีความหวังว่าหากนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางได้ตามปกติ เมืองเกียวโตจะกลับมาเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญเช่นเคย
แนวโน้มดังกล่าวทำให้ ‘กลุ่มดุสิตธานี’ ตัดสินใจดำเนินงาน ‘โรงแรมดุสิตธานี เกียวโต’ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการภายในเดือนกันยายน 2566 โดยร่วมมือกับ บริษัท ยาสุดะเรียลเอสเตท จำกัด บริษัทที่เน้นพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อชุมชนที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงโตเกียว โดยลงนามผ่านบริษัท ดีแอนด์เจ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของกลุ่มดุสิตธานีในกรุงโตเกียวเช่นกัน ทำให้ ‘ดุสิตธานี เป็นแบรนด์โรงแรมไทยแห่งแรกในเมืองเกียวโต’ ซึ่งเป็นเมืองมรดกทางวัฒนธรรม
เรื่องนี้ นางศุภจี สุธรรมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ให้ข้อมูลว่า การลงนามครั้งนี้เป็นการดำเนินตามกลยุทธ์การเติบโตแบบยั่งยืนและเป็นก้าวสำคัญของกลุ่มดุสิตธานี เนื่องจากเราเชื่อมั่นว่าตลาดการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นจะกลับมาแข็งแกร่งและเป็นที่นิยมเหมือนเช่นเดิม เช่นเดียวกับ เกียวโต ที่เคยเป็นจุดหมายปลายทางอันยอดเยี่ยม และการดำเนินงานครั้งนี้ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกลุ่มดุสิตธานีที่ต้องการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว รวมถึงการสร้างงานในชุมชน การสนับสนุนเศรษฐกิจ และการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ
สำหรับโรงแรมดุสิตธานี เกียวโต จะตั้งอยู่ใจกลางเมือง ห่างจากสถานีเกียวโตในย่านฮอนกันจิ มอนเซน-มาชิ เพียง 850 เมตร ใช้การออกแบบเป็นสไตล์ญี่ปุ่นร่วมสมัยขนาด 4 ชั้น มีห้องพักประมาณ 150 ห้อง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น ห้องอาหารที่เป็นธีมแบบไทย ซึ่งเปิดให้บริการตลอดทั้งวัน, ร้านอาหารญี่ปุ่น, ล็อบบี้เลานจ์และบาร์, ห้องจัดเลี้ยง ฟิตเนส และสถานที่ให้บริการเวลเนส นอกจากนี้พื้นที่สำคัญรอบโรงแรมยังรายล้อมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญหลายแห่ง เช่น วัดฮิกะชิ ฮอนกันจิ, วัดนิชิ ฮอนกันจิ ซึ่งเป็นวัดที่ได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก, เกียวโตทาวเวอร์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเกียวโตนอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถไปยัง กิออน ย่านเกอิชาที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ด้วยรถไฟเพียง 10 นาที หรือไปเที่ยวตลาดนิชิกิ ซึ่งเป็นตลาดและถนนสายช้อปปิ้งอันคึกคักและโด่งดังที่สุดในเมืองเกียวโต จนได้รับการขนานนามว่าเป็น ครัวของเกียวโต ก็อยู่ห่างจากโรงแรมเพียง 15 นาทีโดยรถไฟ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันกลุ่มดุสิตธานีประกอบด้วยโรงแรมและรีสอร์ทจำนวน 339 แห่ง ดำเนินงานภายใต้ 6 แบรนด์ใน 14 ประเทศ โดยดุสิตได้มีโอกาสบุกเข้าตลาดญี่ปุ่นเมื่อไม่นานมานี้ ผ่านอีลิธ เฮเวนส์ ซึ่งเป็นบริษัทรับบริหารวิลล่าหรูชั้นนำในเอเชีย ที่รับบริหาร สกีชาเล่ท์ ซึ่งเป็นพี่พักบนภูเขาในสกีรีสอร์ทสุดหรูที่นิเซโกะอีกด้วย