แม้ว่าจำนวนลูกค้าไหลออกจากระบบในช่วงไตรมาส 2/2562 จะมีถึง 94,000 เลขหมาย แต่ dtac มองว่านี่คือหนึ่งในสัญญาณดี เพราะตัวเลขดังกล่าว…ถือว่าต่ำสุดในรอบ 3 ปี นับแต่ไตรมาส 1/2559 ส่งผลให้ปัจจุบัน dtac มีฐานลูกค้าทั้งสิ้น 20.6 ล้านเลขหมาย
โดย อเล็กซานดรา ไรช์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร dtac กล่าวถึงผลประกอบการไตรมาส 2 ของปีนี้ว่า ผลประกอบการของเราสอดคล้องกับแผนพลิกฟื้นที่เราประกาศไปในงาน Capital Markets Day โดย dtac มุ่งสร้างความไว้วางใจและเชื่อมั่นของลูกค้าต่อเครือข่าย ซึ่งเริ่มส่งผลในเชิงบวกแล้วทั้งด้านความพึงพอใจและปริมาณการร้องเรียนด้านเครือข่ายในไตรมาส 2/2562 ขณะเดียวกัน บริการระบบรายเดือนยังคงเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง บริการในระบบเติมเงินก็เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เรายังคงมุ่งเน้นการมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอแก่ผู้ใช้งานทั่วประเทศ และเราจะไม่หยุดพัฒนา
เดินหน้าพัฒนาเครือข่าย – ปู 3 แนวทางผลักดันธุรกิจ
ทั้งนี้ dtac ได้เตรียมแนวทาง 3 ประการ เพื่อผลักดันการเติบโตทางธุรกิจ ได้แก่… 1.ปรับปรุงโครงข่ายเพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นของลูกค้า 2.การเอาลูกค้า B2C กลับคืนมา และ 3.ขยายโอกาสในกลุ่มลูกค้า B2B ทั้งหมดนี้ยังไม่รวมถึง…แผนการลงทุนของ dtac ในปีนี้ ซึ่งประกาศไว้ที่ 13,000-15,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน dtac ก็ยังเดินหน้าเพิ่มจำนวนสถานีฐานบนเครือข่าย 2300 MHz อีกไม่ต่ำกว่า 600 สถานี ส่งผลให้เครือข่ายดังกล่าวมีสถานีฐานทั้งสิ้น 16,000 สถานี นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งสถานีฐานบนเครือข่าย 2100 MHz เพิ่มอีก 348 สถานี เพื่อขยายความครอบคลุมของสัญญาณในพื้นที่การใช้งานปัจจุบัน
กำไร 1,700 ล้านบาท เพิ่มจากไตรมาสก่อน 20.3%
ส่วนสถานการณ์รายได้และกำไรของ dtac ในไตรมาส 2/2562 พบว่า…รายได้จากการให้บริการไม่รวม IC เพิ่มขึ้น 1.6% จากไตรมาสก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากการยกเลิกแพ็กเกจระบบเติมเงินที่ให้บริการข้อมูลแบบไม่จำกัด และการออกแพ็กเกจที่ให้บริการข้อมูลแบบจำกัดและมีราคาสูงขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย รวมถึงกระแสรายได้ที่แข็งแกร่งและการเติบโตอย่างต่อเนื่องของบริการรายเดือน
นอกจากนี้ dtac มีกำไรสุทธิในไตรมาส 2/2562 อยู่ที่ 1,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.3% จากไตรมาสก่อน เนื่องจาก EBITDA ที่ดีขึ้น กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (EBITDA – CAPEX) สำหรับไตรมาส 2/2562 เป็นบวกอยู่ที่ 4,200 ล้านบาท โดยอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA เพิ่มขึ้นเป็น 1.8 เท่า เนื่องมาจากการชำระค่าตอบแทนเพื่อการระงับข้อพิพาทให้แก่ CAT และการลงทุนในเครือข่ายเป็นหลัก