บริษัท เอ็กซ์เอ็ม เอเชีย แปซิฟิก จำกัด (XM Asia Pacific Pte Ltd.) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเจดับบลิวที (JWT) ได้เข้าซื้อหุ้นใหญ่ในบริษัท ธอมัสไอเดีย (Thomas Idea) ซึ่งเป็นเอเยนซีสื่อดิจิตอลและสื่ออินเตอร์แอคทีฟชั้นนำของประเทศไทย การเข้าถือหุ้นในครั้งนี้นับเป็นการสร้างฐานที่มั่นสำคัญของ เอ็กซ์เอ็ม เอเชีย ในประเทศที่เป็นตลาดสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ธอมัสไอเดีย ได้รับการก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2538 โดยเป็นผู้ให้บริการต่างๆ ในรูปแบบดิจิตอล ตั้งแต่การวางแผนกลยุทธ์ออนไลน์ไปจนถึงการออกแบบที่ช่วยสร้างประสบการณ์ให้แก่ผู้ใช้งาน งานพัฒนาแอปพลิเคชั่นระดับใหญ่ๆ รวมถึงบริการด้านการตลาดบนสื่อดิจิตอลและสื่อสังคมออนไลน์อย่างครบวงจร ธอมัสไอเดียมีพนักงานประมาณ 45 คนและให้บริการแก่ลูกค้าชั้นนำหลากหลายบริษัท อาทิ ไบเออร์สด๊อรฟ (Beiersdorf), เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ (Reckitt Benckiser), แอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส(Abbott Laboratories), เอสบี เฟอร์นิเจอร์ และ พฤกษา เรียลเอสเตท เป็นต้น คุณพอลลี่-อุไรพร ชลสิริรุ่งสกุล ประธานกรรมการบริหาร และคุณอารยา เช้ากระจ่าง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสร้างสรรค์ของธอมัสไอเดียซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้น จะยังคงรับหน้าที่กุมบังเหียนบริษัทร่วมกันต่อไป
พอล ซูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ เอ็กซ์เอ็ม เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า
“ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทั้งคุณอุไรพรและคุณอารยาต่างเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเจริญเติบโตของครอบครัวของเรา ในส่วนของ เอ็กซ์เอ็ม เอเชียแปซิฟิก การเข้าถือกิจการของธอมัสไอเดียเป็นการดำเนินการครั้งสำคัญของเราในการเตรียมตัวเปิดตลาดต่อไปผ่านช่องทางความตกลงประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่จะเริ่มต้นขึ้นในปี 2558 พวกเรามีวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกันคือ เราต้องการทำงานให้กับแบรนด์ต่างๆ ที่พร้อมจะพลิกผันตนเองเพื่อนำข้อดีต่างๆ ของโลกดิจิตอลมาแปลงให้เป็นทุนในการดำเนินธุรกิจได้อย่างเต็มที่”
เอ็กซ์เอ็ม เอเชีย เปิดดำเนินการอยู่ในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซียและฮ่องกง โดยปีที่แล้วบริษัทฯ ยังได้เข้าซื้อกิจการของ Magnivate ซึ่งเป็นดิจิตอลเอเยนซีรายใหญ่ที่สุดในประเทศอินโดนีเซียอีกด้วย
คุณอุไรพรกล่าวว่า
“นี่คือโอกาสสำคัญที่ธอมัสไอเดียจะได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายดิจิตอลที่แข็งแกร่งที่สุดเครือข่ายหนึ่งในเอเชีย การผสานพลังกับ เอ็กซ์เอ็ม เอเชีย ประกอบกับทักษะความเชี่ยวชาญที่เป็นเลิศของทีมงานของเราจะสร้างเสริมศักยภาพของเราให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในการนำเสนอบริการดิจิตอลสู่ลูกค้ารวมถึงขยายโอกาสให้ครอบคุมทั่วภูมิภาคต่อไป”
“นอกจากสื่อดิจิตอลจะได้เพิ่มบทบาทจนกลายเป็นช่องทางสื่อสารหลักของหลายๆ แบรนด์แล้ว ยังทวีความแข็งแกร่งอย่างรวดเร็วและกำลังกลายเป็นหัวใจของการดำเนินธุรกิจอีกด้วย คลื่นแห่งโลกดิจิตอลกำลังถาโถมเข้าสู่ประเทศไทย และความตกลงที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จะทำให้เราและเอ็กซ์เอ็มโต้คลื่นนี้สู่จุดสูงสุดของกลยุทธ์การตลาดดิจิตอลได้”
วงการสื่อสังคมออนไลน์ของไทยเพิ่งเริ่มต้นได้เพียงไม่นานนัก แต่ว่าได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วจนถึงจุดส่งผ่านสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น จำนวนคนไทยที่ใช้งานเฟซบุ๊คที่ได้เพิ่มสูงขึ้นถึง 18 ล้านคนไปแล้วในเดือนธันวาคม 2555 นับเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากจาก 13 ล้านคนเมื่อช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ทำให้กลายเป็นเวทีสำคัญในการสื่อสารของผู้โฆษณาในประเทศไทย ข้อมูลจากกรุ๊ปเอ็ม (GroupM)ระบุว่าเม็ดเงินที่ใช้จ่ายไปกับการโฆษณาบนสื่อดิจิตอลในปี 2555 เติบโตขึ้นถึง 48%
ในปีที่ผ่านมา เจดับบลิวที เอเชียแปซิฟิก ได้ลงทุนเพื่อขยายศักยภาพด้านดิจิตอลเป็นจำนวนมาก นอกจากการเข้าซื้อกิจการของ Magnivate โดย เอ็กซ์เอ็ม เอเชีย แล้ว เจดับบลิวทียังได้เข้าซื้อกิจการของ Hungama Digital Services ซึ่งเป็นดิจิตอลเอเยนซีชั้นนำในประเทศอินเดีย รวมถึงเข้าถือหุ้นของบริษัท Converge ในปากีสถานอีกด้วย การบรรลุข้อตกลงล่าสุดในประเทศไทยครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของเจดับบลิวทีที่จะขยายการให้บริการโซลูชั่นทางเทคโนโลยีเพื่อสร้างประสบการณ์ต่างๆ ซึ่งผู้บริโภคจะมีส่วนร่วมกับแบรนด์ได้เต็มที่ยิ่งขึ้น
ไมเคิล เมเดล ประธานกรรมการของ เจดับบลิวที เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “เราได้วางแผนการณ์ใหญ่ไว้ให้กับ เอ็กซ์เอ็ม เอเชีย และจะมีการเข้าซื้อกิจการเพิ่มขึ้นจากนี้อีก สิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ในปีนี้คือการเดินหน้าขยายบริการต่างๆ ในรูปแบบดิจิตอล โดยที่ เอ็กซ์เอ็ม จะยังคงดำเนินบทบาทหลักในแผนงานขยายธุรกิจครั้งนี้”
เกี่ยวกับ เอ็กซ์เอ็ม (XM-ASIA)
เอ็กซ์เอ็ม เอเชีย (www.xm-asia.com) ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 2538 และเป็นเอเยนซีที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย เอ็กซ์เอ็มได้สร้างสรรค์กลยุทธ์ที่แปลกใหม่และมีประสิทธิภาพให้กับบริษัทต่างๆ ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มายาวนานกว่า 16 ปีและคว้ารางวัลจากผลงานเหล่านี้มาแล้วมากมาย ตลอดจนดำรงบทบาทผู้บุกเบิกโลกการตลาดผ่านสื่อดิจิตอลอย่างต่อเนื่อง
จุดแข็งที่เป็นเสมือนมนต์สะกดของเอเยนซีแห่งนี้คือการสร้างประสบการณ์และกลยุทธ์ดิจิตอลอันยอดเยี่ยมเพื่อให้บริษัทลูกค้าสื่อสารกับผู้บริโภคได้อย่างใกล้ชิดและลึกซึ้งยิ่งขึ้นด้วยวิธีการที่สร้างผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI)ได้สูงสุด
เอ็กซ์เอ็มบรรลุผลดังกล่าวโดยนำเสนอบริการแนะนำปรึกษาด้านการตลาดและเทคโนโลยีสื่อดิจิตอลอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่ข้อมูลธุรกิจไปจนถึงการพัฒนาแพลทฟอร์มสื่อสาร ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้บริโภค ประสบการณ์ผู้ใช้งาน การพัฒนาแอปพลิเคชั่นที่น่าสนใจบนอินเตอร์เน็ต การจัดการสื่อสังคมออนไลน์ ตลอดจนการวิเคราะข้อมูลและการใช้ช่องทางสื่อต่างๆ ให้เกิดผลลัพธ์สูงสุด
ลูกค้าของ เอ็กซ์เอ็ม ทั่วภูมิภาคนี้ประกอบไปด้วย ฟอร์ด, มาสเตอร์การ์ด, เอชพี, คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจสิงคโปร์, การท่องเที่ยวสิงคโปร์ เป็นต้น นอกจากนี้ เอ็กซ์เอ็ม เอเชีย ยังเป็นพันธมิตรทางธุรกิจรายแรกและรายเดียวของ Adobe ในเอเชียอีกด้วย
เอ็กซ์เอ็ม เอเชีย เป็นบริษัทในเครือเจดับบลิวที และเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัท ดับบลิวพีพี (WPP)
เกี่ยวกับ เจดับบลิวที เอเชียแปซิฟิก (JWT APAC)
เจดับบลิวที เปิดสำนักงานแห่งแรกในเอเชียแปซิฟิกขึ้นเมื่อปี 2472 บริษัทมีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศสิงคโปร์และมีพนักงานรวมกว่า 3,000 คน ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ 18 ประเทศ
นอกจากได้รับการยอมรับว่าเป็นเครือข่ายเอเยนซีที่ใหญ่ที่สุดและมีประสบการณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคนี้แล้ว เจดับบลิวที เอเชียแปซิฟิก ยังได้ชื่อว่าเป็นเอเยนซีที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่สุดแห่งหนึ่งอีกด้วย ในปี 2554 บริษัทสามารถคว้ารางวัล Cannes Grand Prix Lion รางวัลแรก และรางวัล Grand LIA รางวัลแรกจากงาน London International Awards ให้กับจีนแผ่นดินใหญ่ได้สำเร็จ เจดับบลิวที เอเชียแปซิฟิก ยังได้รับรางวัล “เครือข่ายยอดเยี่ยมแห่งปี” (Network Agency of the Year) อันดับที่ 3 จากงาน Spikes Asia พร้อมทั้งสานต่อประวัติศาสตร์ความเป็นที่หนึ่งโดยการที่ มร. โล ชุง ยัน ประธานกรรมการประจำประเทศจีนและผู้อำนวยการบริหารฝ่ายสร้างสรรค์ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือของบริษัท ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะผู้ตัดสินของงาน Cannes Lions คนแรกในประวัติศาสตร์ที่เป็นชาวจีน
นอกเหนือจากการสร้างสรรค์งานให้กับบริษัทชั้นนำระดับโลกที่เป็นลูกค้าของเจดับบลิวทีแล้ว เจดับบลิวที เอเชียแปซิฟิก ยังทำงานให้กับแบรนด์ชั้นนำในเอเชียมากมาย อาทิ ไฮเออร์, อินโดแซท, ภารตี แอร์เทล และ โคเรีย จินเส็ง แอนด์ โทแบคโค
เกี่ยวกับ เจดับบลิวที (JWT)
เจดับบลิวที คือแบรนด์สื่อสารการตลาดซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลก เจดับบลิวทีมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นิวยอร์กและเป็นเครือข่ายระดับโลกอย่างแท้จริง โดยมีสำนักงานรวมกว่า 200 แห่งในประเทศต่างๆ กว่า 90 ประเทศ พร้อมด้วยพนักงานที่เป็นมืออาชีพด้านการตลาดรวมเกือบ 10,000 คน เจดับบลิวทีได้รับการจัดอันดับให้เป็นเครือข่ายเอเยนซีระดับต้นๆ ของโลกมาโดยตลอด และยังมีบทบาทเด่นในวงการจากการเป็นผู้บุกเบิกสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ นับตั้งแต่การผลิตภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ชิ้นแรกขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2482 ต่อเนื่องมาจนกระทั่งทุกวันนี้ กับการสร้างสรรค์ผลงานและคว้ารางวัลให้กับลูกค้าแบรนด์ต่างๆ มาแล้วมากมาย อาทิ สเมอร์นอฟ, เมซีส์, ฟอร์ด และ เอชเอสบีซี เป็นต้น จิตวิญญาณความเป็นนักบุกเบิกของเจดับบลิวที ช่วยให้บริษัทสามารถสร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับลูกค้ารายต่างๆ อาทิ ไบเออร์, บลูมเบิร์ก, แคดเบอรี่, ดิอาจิโอ, ดีทีซี, ฟอร์ด, เอชเอสบีซี, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน, เคลล็อก, คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค, คราฟท์, เนสท์เล่, โนเกีย, โรเล็กซ์, รอยัล แคริบเบียน, ชิค, เชลล์, ยูนิลีเวอร์, โวดาโฟน เป็นต้น บริษัทแม่ของเจดับบลิวที คือ ดับบลิวพีพี (ชื่อหลักทรัพย์ในตลาดแนสแด็ก: WPPGY)