เปิดตัวไปตามข่าวลือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ iPad รุ่นใหม่ที่ตั้งชื่อแบบง่ายๆว่า The New iPad และแน่นอนตามมาด้วยกระแสการพูดถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Apple ทั้งชื่นชมและผิดหวัง ครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างหลัง
ทั้งที่จริงแล้ว การเปิดตัวครั้งนี้ ต่อให้ไม่มีข่าวหลุดต่างๆก็พอจะคาดการณ์กันได้เบื้องต้นว่า iPad รุ่นใหม่จะมีคุณสมบัติอะไร สเปคแรงขนาดไหน ราคาขายเท่าไร อาจเป็นเพราะพวกเราที่ติดตามผลิตภัณฑ์ของ Apple มาในระยะ 4-5 ปีเริ่มมองเห็นทิศทางการพัฒนาและการตลาดชัดเจนมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน ก็คาดหวังถึงความมหัศจรรย์ครั้งใหม่จาก Apple อีกครั้ง เช่นเดียวกับการเปิดตัว iPod รุ่นแรกที่มี Clickwheel เปิดตัว หรือ iPhone โทรศัพท์ที่เจ๋งที่สุดในโลก น่าเสียดายที่ครั้งนี้ไม่มีเหตุการณ์แบบนั้น หลายคนที่คาดหวังไว้มากจึงผิดหวัง
แต่จริงๆแล้วการเปิดตัวครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ที่น่าสนใจมากๆ iPad รุ่นใหม่ที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเลย นอกจากการเพิ่มสเปคต่างๆให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือเรียกง่ายๆว่าอัพเกรดสเปคแบบเดียวกับที่เรายกคอมไปที่ห้างแล้วซื้อ RAM กับการ์ดจอใหม่มาเปลี่ยน จริงๆแล้วไม่ใช่แบบนั้นเลย เป็นได้ไหมว่าเรามองข้ามรายละเอียดบางอย่างไป
จากนี้ไปเป็นการแสดงความเห็นส่วนตัวในฐานะ Fanboy คนหนึ่งและทำงานในด้าน Digital Advertising นะครับ ผมเชื่อว่า iPad รุ่นใหม่นี้จะกระเทือนทุกวงการ ไม่ใช่แค่เฉพาะวงการไอทีเท่านั้น
ก่อนอื่นเรามาทบทวนทิศทางของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ Apple กันอีกครั้ง เป็นที่รู้กันว่าในอนาคตไม่ช้าเส้นแบ่งระหว่าง Tablet และ Laptop จะจางหายไปด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งในตอนนี้เรายังไม่เห็นภาพชัดนักว่าผลิตภัณฑ์ที่จะเป็นรวมทั้งสองสิ่งเข้าไว้ด้วยกันอย่างนั้นจะมีหน้าตาแบบไหน เป็นไปได้ว่าพวกเราส่วนใหญ่อาจจะคาดหวังสิ่งนี้ไว้ในการเปิดตัวที่ผ่านมา และแน่นอนมันยังไม่เกิดขึ้นในวันนี้
แต่คุณสมบัติเด่นของ The New iPad ที่ได้เปิดตัวมานั้น ทำให้เราเริ่มมองเห็นอุปกรณ์ Tablet-Laptop จาก Apple ชัดเจนมากขึ้น และถ้าเรามองภาพรวมของสิ่งที่ Apple ทำมา เราอาจจะพูดได้เลยว่าเราพอจะมองเห็นอนาคตแล้ว
นั่นก็คือ Retina Display และ iOS Application
หน้าจอ Retina Display ของ Apple เป็นสิ่งที่เห็นชัดที่สุด จากความคิดพื้นฐานที่ว่าหน้าจอของ Tablet นับต่อจากนี้จะมีความชัดมากเท่าที่ดวงตาของเราจะมองเห็นได้ และเมื่อ Tablet กำลังเข้ามาแทนที่สิ่งต่างๆเช่น การอ่านหนังสือ การท่องเว็บหรือการเล่นเกม ความละเอียดของหน้าจอระดับนี้จะยกระดับประสบการณ์การใช้งานคล้ายกับ iPhone4 ที่เคยทำไว้ แต่เหนือกว่านั้นตรงที่ขนาดหน้าจอของ iPad จะใหญ่มากพอที่ให้เราสามารถทำสิ่งต่างๆได้สะดวกมากขึ้นเหมือนเราใช้ MacBook ในขณะที่ยังดูสวยงามเหมือนหน้าจอ iPhone4
หากเรามองถอยออกมาหน่อยให้มุมมองกว้างขึ้น เราจะพบว่าจริงๆแล้วเราไม่ได้ทำงานอยู่ตลอดเวลา แต่เราเล่น Tablet ในเวลาอื่นๆด้วย ความละเอียดของหน้าจอระดับนี้จะทำให้การอ่านหนังสือบน Tablet ใกล้เคียงกับการอ่านหนังสือจริงๆ และเพราะมันเป็น Tablet มันจึงสะดวกในการพกพาและการโต้ตอบ (Interaction คำนี้แปลไทยไม่ถูกจริงๆ) ดังนั้น iPad จึงก้าวข้ามหนังสือได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด ยกเว้นแค่มันฉีกไม่ได้ นอกจากนั้น ประสบการณ์ยกระดับจากหน้าจอ Retina ยังส่งผลถึงการเล่นเว็บไซต์ต่างๆ Social Network การดูหนังและเล่นเกมส์ เราอาจทึ่งกับความคมชัดสวยงามของจอภาพในช่วงแรกๆ หลังจากนั้นเราจะชินกับมันจนกลายเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่เราจะไม่อยากกลับไปเล่น iPad2 ที่มีหน้าจอแบบเดิมอีกต่อไป
สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ จากความสามารถในการมองเห็นของมนุษย์ เราอาจไม่ต้องการหน้าจอที่มีความละเอียดมากกว่า Retina Display อีกแล้ว The New iPad อาจมาถึงจุดสูงสุดของความละเอียดของหน้าจอ Tablet เท่าที่เราต้องการ
นอกจากหน้าจอ Retina แล้ว การเปลี่ยน CPU เป็น A5X ก็มีเหตุผลที่น่าสนใจ A5X เป็นหน่วยประมวลผลที่มี CPU แบบ Dual-core และ GPU แบบ Quad-core ซึ่งพูดง่ายๆได้ว่าเน้นการแสดงผลมากกว่าเน้นการคำนวณ เพราะการมาของหน้าจอ Retina ย่อมต้องการ GPU (Graphic Processor Unit) ที่ทรงพลัง ตรงนี้คงไม่มีใครแปลกใจ แต่ว่าทำไมในส่วนของ CPU จึงไม่เป็น Quad-Core ล่ะ
เหตุผลที่พอจะคาดการณ์ได้คือ iOS ในปัจจุบันยังไม่จำเป็นต้องใช้ Quad-Core เช่นเดียวกับที่ค่าย Sony ได้ประกาศจุดยืนว่าจะยังไม่ผลิต Smartphone ที่ใช้ Quad-core ในปีนี้ เพราะมันไม่จำเป็น และอีกเหตุผลหนึ่งคือ Quad-Core จะใช้พลังงานมากยิ่งกว่าเดิม ซึ่งหมายถึงต้องออกแบบให้ New iPad ต้องมีแบตเตอรี่ใหญ่ขึ้น เพื่อใช้งานได้นานเท่าเดิม และก็จะทำให้น้ำหนักของเครื่องหนักยิ่งขึ้นโดยไม่จำเป็น สรุปได้ว่า A5X เพียงพอสำหรับ New iPad แล้ว
การอัพเกรด Hardware อื่นๆเป็นไปตามความต้องการของตลาด กล้องหลังที่ดีขึ้นแบบเดียวกับ iPhone4 สามารถใช้ 4G ได้ทำให้ผู้ใช้งานในประเทศที่พร้อมแล้วดีใจไปตามๆกัน และการที่น้ำหนักเพียงเพิ่มขึ้น 50 กรัม ทั้งที่แบตน่าจะมากขึ้นเพื่อรองรับหน้าจอ Retina ส่วนการดีไซน์ iPad ที่มีหน้าตาเหมือนเดิมคงเป็นเพราะดีไซน์นี้ยังน่าใช้งานอยู่ ที่น่าผิดหวังคงจะเป็นเรื่องกล้องหน้าที่ไม่อัพเกรดเสียที
อย่างไรก็แล้วแต่ อีกไม่นาน Samsung ก็จะออก Andriod Tablet ที่มีหน้าจอละเอียดระดับนี้ได้ สมรรถภาพแรงกว่านี้ และ Apple ก็รู้ดีอยู่แล้ว การเปิดตัว iPad รุ่นใหม่นี้จะไร้สาระมากถ้ามีเพียงแค่การอัพเกรด Hardware หากได้ติดตามเรื่องราวของ Apple มาตลอด เราจะพบว่า Steve Jobs ให้ความสำคัญมากกับการผสมผสานระหว่าง Hardware และ Software ราวกับมันเป็นสิ่งเดียวกัน ไม่สามารถแยกจากกันได้ เช่นเดียวกับเหยิน-หยาง และในการเปิดตัวครั้งนี้ Apple ให้เวลากับ iOS Application สำหรับ iPad ตัวใหม่นี้ไม่น้อยเลยทีเดียว
มีการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องจากบริษัทซอฟท์แวร์ต่างๆและจากทาง Apple มาพูดคุยถึงเกม Infinity Blade ภาคใหม่ โปรแกรมกราฟฟิกจาก Autodesk และ โปรแกรมยอดนิยมต่างๆของ Apple เช่น iPhoto iLife iWork แม้จะหยิบขึ้นมาพูดทีละโปรแกรมแต่ทั้งหมดจบลงด้วยคำว่า Excutive for iOS
จุดนี้ถือเป็นการแสดงความแตกต่างอย่างชัดเจนที่สุดเมื่อเทียบกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์จากค่ายอื่นๆ Application ที่น่าใช้งานทั้งหลายถูกออกแบบมารองรับ iPad รุ่นใหม่โดยเฉพาะ มีอยู่ช่วงหนึ่งของการเปิดตัว มีการนำภาพ Screenshot จาก Application ต่างๆเช่น Twitter บน iPad และ Andriod Tablet คู่แข่งมาเทียบกัน ประโยคที่เจ็บที่สุดก็คือ “บน Android Tablet สิ่งที่เห็นก็แค่การขยายภาพ Application ให้ใหญ่ขึ้น ในขณะที่ iPad มีการออกแบบเพื่อใช้สอยพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นมาจาก iPhone เพื่อประสบการณ์ใช้งานที่ดียิ่งขึ้น” เมื่อเราใช้งาน iPad เราก็จะมี Application ที่”ตั้งใจ”ออกแบบมาสำหรับ iPad โดยเฉพาะ
เราจะเอา Tablet พลังสูง หน้าจอละเอียดสุดยอดไปทำไม ถ้าไม่มี Application ที่ดีพอมารองรับการใช้งานแบบ Tablet จริงๆ ปรัชญาการออกแบบของ Apple ที่ให้ความสำคัญกับการผสมผสานระหว่าง Hardware (iPad) และ Software (iOS และ Application) ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน สามารถเห็นได้ชัดมากจากการเปิดตัว iPad รุ่นใหม่นี้ ทุกอย่างดูกลมกลืน เรียบง่าย และมีความเป็นมนุษย์ที่สุด เราสามารถเห็นมันได้จาก iPad รุ่นนี้
แล้ว iPad รุ่นใหม่นี้จะทำอะไรได้อีก? มันเป็น Gadget ที่ออกแบบมาเป็นอย่างดีเยี่ยมแล้วยังไงต่อล่ะ? การตอบคำถามนี้ต้องขึ้นอยู่ว่าเราอยู่ในธุรกิจประเภทไหน เท่าที่เราพอจะคาดการณ์ได้ไม่ยากก็คือ วงการหนังสือและการศึกษา ก่อนหน้านี้ Apple เปิดตัว iBook Author ที่ช่วยให้ใครก็ได้สามารถสร้าง e-book เพื่อวางขายหรือแจกฟรีบน iTune Store และเมื่อตอนนี้ iPad สามารถแสดงผลได้ดีไม่แพ้หนังสือจริงๆแถมยังสะดวกสบาย Apple เองก็มีทิศทางที่จะมีส่วนร่วมในวงการศึกษา เช่น ร่วมเป็น Partner กับสำนักพิมพ์ระดับโลก (และกำลังจะเริ่มในไทย) เพื่อทำ Textbook สำหรับนักเรียนนักศึกษา จึงไม่แปลกใจถ้าเราจะเห็นน้องๆวัยเรียนพกพา iPad มากขึ้น และไม่ใช่แค่อ่านแต่ยังสามารถหาข้อมูล จัดทำรายงาน ส่งอีเมล์การบ้านได้อีก
วงการต่อมาที่จะจับจ้องมาตลอดก็คือ วงการโฆษณา เราพอจะคาดการณ์ได้แล้วว่าเมื่อมี e-book มากขึ้นซึ่งอาจจะหมายถึง Free Magazine ตรงนั้นก็มีช่องทางให้สื่อสารกับผู้บริโภค เมื่อถึงจุดที่ยอดพิมพ์แม็กกาซีนลดลงและถ่ายไปยังด้าน e-book มากขึ้น เม็ดเงินจากวงการโฆษณาก็จะไหลไปเช่นกัน ทั้งนี้ยังไม่รวมถึงการพัฒนา Application เพื่อการแฝงโฆษณา และอีกหลายไอเดียที่รอเวลาปรากฎตัวบน iPad รุ่นใหม่นี้
สำหรับฝันร้ายอาจตกเป็นของวงการนักพัฒนา Application ที่จะมีเงื่อนไขในการทำงานที่มากขึ้น โจทย์อาจบังคับให้ต้องพัฒนา Application ที่รองรับทั้ง iPad2 และ iPad รุ่นใหม่ที่มีขนาดหน้าจอต่างกัน แต่คงแค่ช่วงปีแรก หลังจากนี้เมื่อ iPad2 ตกรุ่นไป ขนาดหน้าจอของ iPad รุ่นต่อๆไปก็น่าจะเท่าเดิม เพราะหน้าจอ Retina ละเอียดมากพอสำหรับมนุษย์แล้ว ดังนั้นหาก iPad รุ่นใหม่ครองตลาดได้เป็นส่วนใหญ่และไม่เพิ่มขนาดหน้าจอมากไปกว่านี้ ก็จะช่วยให้นักพัฒนาโฟกัสไปที่การพัฒนาการทำงานของ Application ให้ดียิ่งขึ้น (จากการตั้งชื่อ iPad รุ่นใหม่โดยตัดเลขรุ่นออกไป อาจตีความได้ว่าจากนี้ iPad อาจไม่มีอะไรใหม่มากนัก นอกจากปรับดีไซน์ การอัพเกรด Hardware ผสมกับเทคโนโลยีใหม่ๆเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับเป็นนวัตกรรมใหม่พลิกโลก เช่นเดียวกับ iMac หรือ Macbook ที่ไม่มีเลขรุ่นต่อท้ายมายาวนาน)
สรุปแล้วการเปิดตัว iPad รุ่นใหม่นี้ เราไม่ควรมองไปแค่ที่ Spec หรือ Feature ของมัน หรือ Application ใหม่ๆที่มาเปิดตัว Apple ตั้งใจออกแบบทุกอย่างให้ผสมผสานกันเป็นสิ่งเดียว ผมเชื่อว่าทุกอย่างที่เราเห็นจากข่าวต่างๆเป็นเพียงแค่ส่วนที่สามารถนำเสนอได้ แต่ประสบการณ์ใช้งานจริงๆจะทำให้เราเข้าใจในที่สุดว่า iPad รุ่นใหม่ดีอย่างที่เราคาดหวังรึเปล่า
อย่างไรก็ตาม iOS ยังคงเป็นระบบปิด ซึ่งที่ข้อถกเถียงไปอีกยาวนานถึงความเหมาะสมในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ ทุกคนยก Andriod มาเป็นผู้นำเพื่อโต้ตอบกับ iOS หากแต่ในสมรภูมิ Tablet นี้ ผมคิดว่า Apple ทิ้งห่างไปเยอะมากแล้ว มากจริงๆ และอย่างที่กล่าวไว้ช่วงต้น เส้นทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประเภทพกพาของ Apple กำลังมาบรรจบกันในอนาคต และเมื่อเวลานั้นมาถึง เราจะได้เห็นความมหัศจรรย์ครั้งใหม่ของ Apple อย่างที่คาดหวังไว้แน่นอน