ถือเป็นเรื่องฮือฮาทั่ววงการแอปฯ เพราะแอปฯ แชตแบบกลุ่มที่เปิดตัวมาเพียงปีเดียว แต่กลับหารายได้มหาศาลด้วยการเทคโอเวอร์จากบริษัทใหญ่ยักษ์อย่างสไกป์ (Skype) ได้ ด้วยเม็ดเงินสูงถึง 2,550 บาท
ดังนั้น ก่อนจะมารู้เบื้องหลังที่มาที่ไปของแอปฯ นี้ เราจำเป็นต้องรู้จักฟีเจอร์สำคัญของ GroupMe กันก่อน (ที่คนไทยไม่ค่อยรู้จักเพราะแอปฯนี้เปิดให้เฉพาะคนในอเมริกาใช้เท่านั้น)
GroupMe คือ แอปฯ สำหรับส่งข้อความหรือโทรหาคนในกลุ่ม ได้สูงสุด 25 คนพร้อมกัน โดยที่เมื่อคุณสร้างกลุ่มใดๆ ก็ตาม จะได้รับเบอร์โทรประจำกลุ่ม และข้อความเตือนไปยังเพื่อนๆ ว่าคุณได้ถูกเชิญให้เข้าร่วมกลุ่มแล้ว และเมื่อใดก็ตามที่คนใดคนหนึ่งในกลุ่มต้องการส่งข้อความคำถาม นัดแนะ ก็สามารถทำได้ผ่านแอปฯ นี้โดยทุกครั้งหากเครื่องของคุณต่อเน็ตไว้ ก็จะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เลย ทั้งนี้เมื่อออกไปนอกบ้าน ยังเห็นได้ว่าเพื่อนคนใดในกลุ่มอยู่ใกล้ๆ ตัวเราบ้าง จากแผนที่ออนไลน์
จุดเด่นที่สำคัญอีกอย่างของแอปฯ นี้คือ ทำให้คนที่ไม่ได้ใช้สมาร์ทโฟน สามารถสื่อสารกับคนอื่นๆ ได้ด้วยการส่ง SMS มายังเบอร์ที่ระบุไว้
และต่อไปนี้คือ Timeline ของความสำเร็จของแอปฯ Groupme
- ตอนแรกชื่อแอปฯว่า Grouply สร้างขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม 53
- หลังจากที่นำไอเดียไปนำเสนอใครๆ และเริ่มมีนักลงทุนสนใจ 2 ผู้ก่อตั้งแอปฯ Martocci และ Hecht ก็ออกจากบริษัทเก่า เปิดบริษัทใหม่เพื่อทำแอปฯ นี้อย่างเต็มตัว
- สิงหาคมปีเดียวกัน เริ่มมีรายได้จากการระดมทุน 250 ล้านบาท จึงเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็นศิริมงคลและจำง่ายขึ้นว่า GroupMe
และเริ่มส่ง SMS ให้กับสมาชิกถึงหลักล้านครั้งเป็นครั้งแรก กับแอปฯ ไอโฟน - เดือนพฤศจิกายน ออกแอปฯ แอนดรอยด์ พร้อมกับทีมงานที่เพิ่มขึ้น
- ช่วงปีใหม่ 2010 ได้เงินทุนอีก 300 ล้าน
- เดือนกุมภาพันธ์ 2011 ยอดการส่งข้อความละ ทะลุ 1 ล้านครั้ง/วัน และออกแอปฯแบล็กเบอร์รี่
- หลังจากไปออกงานชุมนุมคนทำเว็บ SXSW ก็ได้มีหน้ามีตา และมีสปอนเซอร์เป็นแบรนด์รายใหญ่ๆ อย่าง ๆ Bonaroo, Bon Jovi, MTV และ Oxygen
- เดือนพฤษภาคม 2011 เข้าซื้อบริษัท Sensobi เพื่อหาผู้พัฒนาแอปฯ สำหรับมือถือระบบอื่นๆ
- เดือนกรกฎาคม 2011 ยอดส่ง SMS ในเครือข่ายของ Groupme พุ่งถึง 100 ล้านข้อความ/เดือน และถูกฟ้องข้อหาสแปม และแอปเปิลได้ออก iMessage ซึ่งมีบริการคล้ายๆ กับ GroupMe ด้วย
- กรกฎาคม 2011 กูเกิลออกฟีเจอร์ Huddle สำหรับการแชตในกูเกิลพลัส ซึ่งถือเป็นคู่แข่งทางตรงของ GroupMe แต่บริษัทก็ได้ออกแอปฯสำหรับมือถือระบบวินโดวส์ โฟน 7 อีก
- สัปดาห์ที่แล้วครบรอบการเปิดตัวแอปฯ 1 ปี และประกาศให้คนทั้งโลกอิจฉาว่าสไกป์เข้าซื้อบริษัทด้วยเงินนับพันล้าน ! และเชื่อว่าต้องอัปเกรดให้ Groupme มีความสามารถด้านวิดีโอเข้ามาด้วยเป็นแน่
บทสรุปง่ายๆ กับกรณีศึกษานี้ก็คือ โลกนี้ไม่มีอะไรใหม่ แต่เราทำให้ดูเหมือนใหม่ได้ ถ้ารู้จักปรับแต่ง ทั้งคู่แข่งใหม่ก็ยังกำเนิดใหม่ได้ทุกวัน แต่เราต้องไม่หยุดนิ่ง และเมื่อใดที่โอกาสมาต้องรีบคว้าซะ!
แต่เหนือสิ่งอื่นใด…หากคุณอยากมีวันนี้ คุณต้องเริ่มลงมืออะไรบางอย่างแล้วล่ะ !
[via businessinsider]