สนุกดอทคอมมั่นใจปีหน้าเม็ดเงินโฆษณาบนสื่อออนไลน์ยังเติบโตประเมินขั้นต้นโตไม่น้อยกว่า 30% รับปีนี้โดนพิษการเมืองเศรษฐกิจโต 40 % ต่ำกว่าเป้าที่คาดว่าจะโต 100%
นาย กษมาช นีรปัทมะ รองประธานอาวุโส ฝ่ายการตลาดและการขาย สนุกดอทคอม กล่าวว่าประมาณการเม็ดเงินโฆษณาจากสื่อออนไลน์ในปีหน้าว่าจะยังมีแนวโน้มเติบได้อีกในตัวเลขขั้นต่ำ 30% แต่จะต้องรอดูตัวเลขที่ชัดเจนในเดือนม.ค. 2552 อีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ดี ในปีนี้เม็ดเงินโฆษณาในตลาดรวมสื่อออนไลน์น่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 40 % จากปี 2549 และสนุกดอทคอมมีตัวเลขการเติบโตใกล้เคียงกับตลาดรวม ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าการประเมิณการณ์เมื่อต้นปีที่คาดว่าจะเติบโต 100 % เพราะได้รับผลกระทบจากสภาวะการณ์เมืองไม่ปกติ และเศรษฐกิจชะลอตัวต่อเนื่อง ปัจจุบันสนุกดอทคอมมีผู้สนใจเปิดชมวันละ 2 ล้านคน
ทั้งนี้เชื่อว่าแม้ภาวะเศรษฐกิจในปีหน้ามีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อเนื่องจนส่งผลให้ผู้ประกอบการลดงบประมาณด้านการโฆษณาลง แต่กลับมองว่าสื่อออนไลน์เข้าไปอยู่ในความสนใจโดยเฉพาะเจ้าของสินค้าประเภทไอที ท่องเที่ยว ซึ่งปฎิเสธไม่ได้ว่าสื่อออนไลน์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของสินค้ากลุ่มนี้เป็นอย่างดี ทั้งยังมีราคาต่ำกว่าสื่ออื่นๆและที่ผ่านมาลูกค้าอันดับ 1 ของเราคือผู้จำหน่ายสินค้าไอที
“เราพบว่าในปีนี้มีตัวเลขลูกค้าเข้ามาเซ็นสัญญาโฆษณากับเรามากขึ้น ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดี และยังเชื่อว่าในปีหน้าโฆษณาบนสื่อออนไลน์ยังคงเติบโตได้ ส่วนปัจจัยที่จะช่วยกระตุ้นให้โฆษณาออนไลน์เติบโตได้คือจำนวนผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ทในประเทศ ซึ่งจะเห็นได้จากในประเทศที่มีจำนวนผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ทสูงๆ เม็ดเงินในสื่อประเภทนี้ก็จะสามารถเติบโตเป็นอย่างมาก ซึ่งประเทศไทยก็เข้าสู่ทิศทางนั้นเช่นกัน”
นางดัชนี พฤกษ์วัฒนานนท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า อินเทลเห็นแนวโน้มความสามารถในการเข้าถึงผู้บริโภคของสื่อออนไลน์มากยิ่งขึ้น เนื่องจากสื่อดังกล่าวสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของบริษัทได้โดยตรง จึงมีการจัดสรรงบโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ในปีนี้เป็นจำนวน 30% ของงบโฆษณาประชาสัมพันธ์ และในปีหน้าคาดว่าตัวเลขจะไม่ต่ำกว่าจากตัวเลขนี้ โดยอินเทลเพิ่มงบประมาณในสื่อออนไลน์เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปี 2549 ที่ใช้เพียง 20%
“ในต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศเกาหลีที่มีจำนวนผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ทต่อประชากรมากกว่า 100% บริษัทต่างมีการลงทุนโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์เป็นตัวเลขที่สูงมาก เพราะสามารถเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง รองลงมาได้แก่ประเทศไต้หวัน
Source: ASTV ผู้จัดการออนไลน์
